"ไม่รู้ว่าเขามีคนอื่น.." สามีสาวถูก ผอ.ฆ่าทุบหัวก็รู้พร้อมๆ ข่าว

สามีเหยื่อสาวถูก ผอ.ฆ่าทุบหัวดับสยองคาห้องน้ำโรงเรียน เปิดใจไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าภรรยาแอบมีใครคนอื่น เพราะกลับบ้านแค่เดือนละ 2 ครั้ง ทำให้รู้สึกตกใจไม่น้อย

(28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีของ นางสาวลัดดา อายุ 33 ปี เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายฆ่าทุบศีรษะภายในห้องน้ำโรงเรียน ก่อนที่ภายหลังจะทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ ผู้อำนวยการของโรงเรียน เพราะมีปัญหาความหึงหวงและปมเรื่องชู้สาว บรรยากาศงานศพที่บ้าน อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ยังเป็นไปด้วยความโศกเศร้า แม้คดีจะเริ่มคลี่คลายและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว

ขณะนี้ นายอภิชัย สามีของผู้เสียชีวิต ยังคงรู้สึกมึนงงและประหลาดใจกับกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครและทำไปเพราะสาเหตุใด เนื่องจากส่วนตัวไม่ทราบมาก่อนเลยว่า ภรรยาแอบนอกใจคบหาอยู่คนอื่นในเวลาเดียวกัน

นายอภิชัย เปิดเผยว่า ตนก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าคนร้ายจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ผ่านมาตนไม่เคยทราบหรือระแคะระคายสงสัยในพฤติกรรมของภรรยาเลย แต่คงเป็นเพราะว่าตนต้องไปทำงานต่างจังหวัด เดือนหนึ่งจะกลับมาบ้านแค่ 2 ครั้ง หรือราวๆ 15 วันครั้ง

สามีของผู้เสียชีวิต ยังเล่าอีกว่า ที่ผ่านมาตนก็ไว้ใจภรรยา ไม่เคยขอเช็คดูโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดียใดๆ ของภรรยา เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวและให้เกียรติกันและกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้ตนไม่สบายใจ ในเรื่องคดีความอาจจะฟ้องร้องทางแพ่ง เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เพราะตนกับภรรยาก็อาศัยอยู่กิน จดทะเบียนสมรสครบ 7 ปีเต็มในวันที่ผ่านมานี้เอง อีกทั้งก็ต้องให้พ่อแม่ของภรรยาดูแลลูกชายแทนไปก่อน เพราะตนก็ต้องไปทำงานต่างถิ่น และค่อยแวะมาหาตามปกติ

ทางด้าน พ.ต.อ.ถนอม อ่วมพรม ผกก.สภ.เขาวิเศษ กล่าวว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับผู้เสียชีวิต เมื่อตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตและผู้ต้องสงสัย ดูภาพจากกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ และเงินในบัญชี ทุกอย่างสอดคล้องกัน โดยยังไม่พบประจักษ์พยานในคดีนี้ และไม่พบอาวุธที่ใช้ก่อเหต

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้ต้องสงสัยที่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงทั้งหมด แต่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนท่านนี้มาแสดงตนต่อพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ก่อนจะมีการยื่นขอประกันตัวชั้นศาล ซึ่งล่าสุดศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปก่อน