“อุ้ม ลักขณา” เผยความรู้สึกหลังได้เป็นแม่ให้ลูกของ “บอล” พร้อมอัพเดทเรื่องคดีความ

 

กลายเป็นคุณแม่เต็มตัวไปแล้ว สำหรับดาวเซ็กซี่สตาร์ของวงการบันเทิง  “อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” หลังจากกลายเป็นคุณแม่ให้ “น้องการ์ตูน” ลูกสาวคนเดียวของหวานใจ “บอล กฤษณะ” เจ้าตัวเลยขอเบรกความเซ็กซี่ลงไปเยอะเพราะอยากจะขอเป็นต้นแบบให้กับลูกสาว

ล่าสุด ได้เจอ สาวอุ้ม ในงานฉลองก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 “BANGKOK REVOLUTION” ณ ลาน Hollywood Hall ชั้น 1 เมเจอร์รัชโยธิน เลยขอถามความรู้สึกหลังได้เป็นคุณแม่ พร้อมขออัพเดทเรื่องการเปิดธุรกิจส่วนตัวที่เชียงใหม่และคดีความของ บอล ซึ่งเธอเผยว่า

“เรื่องน้องการ์ตูน ตอนนี้ก็ดูแลเขาด้วยค่ะ ไปหาบ่อยไหม ก็บ่อยนะ ถ้าไม่ได้มีงานก็ไปให้เวลาเขาเยอะเหมือนกัน เพราะเขาก็มีพี่บอลคนเดียวกับคุณย่า เขาก็เหมือนขาดแม่ไปด้วย เราก็เหมือนเขาไปเติมเต็มให้มันเป็นครอบครัวมากขึ้น น้องการ์ตูนน่ารักค่ะ เขาเป็นเด็กที่ไม่ต่อต้านอะไรเลยตั้งแต่ที่อุ้มเข้ามาในชีวิตเขา เขาค่อนข้างเปิดรับ

แล้วเขาติดอุ้มมาก ถึงขั้นต้องนอนด้วยกัน ไม่ยอมแยกนอน ไปไหนด้วยกัน อย่างขอมือมาหอมหน่อย เหมือนลูกสาวค่ะ เราก็ซื้อน้องหมามาด้วยค่ะ “หมูตุ๋น” ก็กลายเป็นเขามีกิจกรรมอะไรทำ ได้อยู่เป็นครอบครัวมากขึ้น เราก็รู้สึกดีใจค่ะ ทุกอย่างมันค่อนข้างลงตัว เขาจะเรียกมาม๊า มาม๊าอุ้มมี่ มาม๊าอุ้มอะไรแบบนี้ค่ะ”

“เรียกว่าชีวิตสมบูรณ์ขึ้นไหมเหรอ มันทำให้อุ้มเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ด้วยนะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกของเรา กลายเป็นว่าพออุ้มได้เข้าไปในส่วนนึงของเขาแล้ว กลายเป็นว่าตอนนี้ทำอะไรไปไหน เราก็คิดถึงเขา เราเรียกเขาว่าลูกตลอด สิ่งนี้มันก็เข้ามาเติมเต็มในชีวิตเรา อายุเราก็ 34 ก็เป็นวัยที่มีครอบครัวได้แล้ว อย่างรูปไปเชียงใหม่ก็ไปงานวันเกิดเพื่อนพี่บอลค่ะ ก็สนุกสนานครอบครัว พ่อ แม่ ลูก นานๆทีได้ถ่ายรูปด้วยกันที”

“ถามว่าทำไมถึงอยากเบาเซ็กซี่ลง ก็ 34 แล้วอ่ะเนาะ แล้วอีกอย่างน้องการ์ตูนด้วยค่ะ เหมือนมีลูกสาวไปแล้วคนหนึ่งก็กลายเป็นว่าเราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขา แต่กลายเป็นเขาค่อนข้างเป็นเด็กสมัยใหม่ใส่ เสื้อเอวลอย ใส่กางเกงยีนส์แบบนี้ ค่อนข้างเป็นเด็กทันสมัย เขาน่ารัก ด้วยความที่เราเห็นเขาเป็นลูกสาว ก็ค่อนข้างเกรงใจเขานิดนึง”

“ส่วนเรื่องแต่งงาน ก็คิดถึงเรื่องนี้นะ มีการคุยๆกันบ้าง แต่ทุกอย่างก็รอให้เป็นในเรื่องของเวลา ถ้าอะไรที่มันชัดเจนลงตัวแล้ว อุ้มไม่คิดจะปิดอยู่แล้วค่ะ ก็จะบอกให้ทราบ แต่ ณ ตอนนี้ก็ค่อยๆดำเนินการไป เพราะอีกอย่างอุ้มกับพี่บอลคบกันมาปีครึ่งถือว่าต้องใช้เวลาอยู่ด้วยอย่างนี้ไปตลอดค่ะ ทุกอย่างก็แฮปปี้ค่ะ ได้ศึกษาเรียนรู้กัน ถ้าวันนึงอนาคตได้เป็นครอบครัวเดียว มันก็ไม่มีอะไรแทบจะต้องปรับตัวเลย เพราะทุกวันนี้เวลาอุ้มไปอยู่ที่เชียงใหม่ น้องการ์ตูนก็จะมาอยู่ด้วยตลอด คุณย่าก็จะมาทำกับข้าวให้กิน อยู่ด้วยกันแล้วมันโอเค มันมีความสุขค่ะ

“เรียกว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว? คืออุ้มเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว ทั้งน้องนิวเคลียร์ และหลานๆที่บ้าน คุณแม่จะปลูกฝังให้เป็นพี่สาวคนโตคือต้องเลี้ยงน้อง ด้วยการที่มันไม่ยากสำหรับอุ้มที่จะเข้าหาเด็ก เรารักเด็ก เราก็อยากมีลูกอยู่แล้วด้วย  มีน้องการ์ตูนก็เหมือนเป็นลูกของเราคนนึง”

“ตอนนี้มีแพลนจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นที่เชียงใหม่ค่ะ ก็จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนวอิสะกายะ ซึ่งอุ้มก็วาดแบบ เสร็จทุกอย่างหมดแล้ว เหลือขั้นตอนลงมือทำค่ะ ชีวิตก็ไปๆมาๆ กรุงเทพ -เชียงใหม่ เพราะอุ้มไม่มีละครด้วยค่ะ เวลามีก็กลับมาทำงาน พอไม่มีก็หันไปทำธุรกิจด้วย เริ่มวางแผนธุรกิจในภายภาคหน้าเพราะอุ้มก็อยู่วงการมานานแล้ว ไม่ได้ไปเซ็นสัญญากับใคร ถ้ามีผู้ใหญ่ให้ความเมตาเราก็ยินดีที่จะร่วมงาน ถ้าเกิดว่าไม่มีก็อยากหาอย่างอื่นรองรับด้วย

ถามว่าเฟดงานในวงการไหม ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมมากกว่าค่ะ อย่างบางทีบางบท บางเรื่องมันก็อาจจะไม่เหมาะกับเรา  เราก็ต้องคุยกันกับครอบครัว กับผู้จัดการว่าจะรับดีไหม เพราะอุ้มทำก็ต้องคำนึงถึงน้องด้วย ถึงครอบครัวเขา ครอบครัวเรา เพราะน้องสาวก็แต่งงานไปแล้ว เป็นนักธุรกิจไปแล้ว อุ้มเองก็เริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง บางทีอาจจะอยากใช้เวลาศึกษาเรื่องธุรกิจจริงๆด้วยค่ะ แต่อุ้มไม่ได้ทิ้งวงการนะ อย่าเรียกว่าเลือกรับงานจนแบบไม่รับงานเลยค่ะ ถ้ามีเข้ามาแล้วมันตรงกับสิ่งที่เราต้องการพอดีจริงๆ เราก็ยังรับเหมือนเดิมค่ะ”

“อัพเดทเรื่องคดีพี่บอล เดือนกันยายนนี้จะขึ้นศาลแล้วค่ะ ทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนของศาล เราไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการนอกลู่นอกทางหรือนอกประเทศ เรายังอยู่ในประเทศ เวลาศาลเรียกไปรายงานตัวก็ไปทุกครั้งที่มีการรายงานตัว แล้วก็จะเริ่มขึ้นให้ปากคำสืบพยานจริงๆเดือนกันยายนนี้ค่ะ เราก็เป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกันค่ะ อุ้มเชื่อว่าขั้นตอนของศาลเป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว ผิดก็ว่าไปตาม ถูกก็ว่าไปตามถูก ทุกอย่างกฎหมายจะเป็นตัวกำหนดเองว่าอะไรเป็นอะไร

แต่ถ้าจะบอกว่าไม่กังวลเลย มันก็เป็นไปไม่ได้ ชีวิตคนทั้งคน นึกออกไหมคะ เราไม่ได้ชีวิตแบบลั้ลล้า มีความสุข ไม่รู้สึกอะไรเลย มันก็ไม่ใช่ แต่อย่างที่บอกค่ะว่าทุกอย่างมันต้องเดินตามขั้นตอน อุ้มไม่สามารถตอบอะไรได้จริงๆว่าเรื่องราวในภายภาคหน้ามันจะจบยังไง ถ้าเขาได้ขึ้นศาลกันแล้ว ก็คงมีข่าวออกมา เอาไว้อัพเดทในส่วนตรงนั้นดีกว่า”