ดาราเด็ก สลัมด็อก ชะตาพลิก ผู้กำกับเตรียมซื้อบ้านใหม่ให้

ดาราเด็ก สลัมด็อก ชะตาพลิก ผู้กำกับเตรียมซื้อบ้านใหม่ให้

ดาราเด็ก สลัมด็อก ชะตาพลิก ผู้กำกับเตรียมซื้อบ้านใหม่ให้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผยดาราเด็ก สลัมด็อก มิลเลี่ยนแนร์ และครอบครัวชะตาชีวิตพลิก หลังผู้กำกับเตรียมซื้อบ้านหลังใหม่ให้ ทิ้งความเป็นอยู่อย่างอัตคัตให้กลายเป็นอดีต รวมทั้งตั้งกองทุนช่วยชาวสลัม เด็กข้างถนนมุมไบ กว่า 25 ล้านบาท

เดลี่ เมล์ รายงานเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ว่า ผู้กำกับ แดนนี่ บอยล์ เปิดเผยว่า ด.ช.อัซซารุดดิน โมฮัมหมัด อิสเมล์ และ ด.ญ.รูบิน่า อาลี สองดาราเด็กใน สลัมด็อก มิลเลี่ยนแนร์ และครอบครัวของพวกเขาทั้งสอง จะได้รับการย้ายที่อยู่จากสลัมในย่านเมือง มุมไบ ไปอยู่ในอพาร์ทเมนต์มูลค่า 20,000 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยพวกเขาต้องการให้แฟลตเป็นของขวัญแก่เด็กทั้งสอง ในฐานะที่ร่วมสร้างชื่อให้แก่ภาพยนตร์ดังกล่าวซึ่งคว้ารางวัลออสการ์จนโด่งดัง นอกจากนี้ พวกเขายังมีแผนจะตั้งทำงานกับ เอ็นจีโอ เพื่อคอยประสานกับครอบครัวว่า พวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า

รายงานระบุว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เกิดกระแสโวยวายจากสาธารณชนภายหลังมีการเปิดเผยสถานที่อยู่อาศัยของอัสซารุด ดินและรูบิน่า โดยภาพหนึ่งเป็นรูปอัซซารุดดินต้องนอนบนเสื่อเน่าๆ ซึ่งเป็นเตียงที่นอนร่วมกัน รวมทั้งภาพที่เขาต้องล้างหน้าด้วยน้ำสกปรก โดยผู้กำกับแดนนี่ บอยล์ บอกว่า บ้านหลังใหม่ของทั้งสองจะมีไฟฟ้า มีน้ำ และระบบสุขอนามัยที่ดี โดยพวกเขายังคงจะอยู่ใกล้ๆ กับเพื่อนฝูง และมีครอบครัวใหญ่ขึ้น โดยพวกเขาไม่ต้องการจะย้ายไปไกลจากสถานที่เคยอยู่

นอกจากนี้ บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์เขย่าออสการ์เรื่องนี้ยังตกลงจะรับผิดชอบจ่ายเงินค่าเดินทางไปโรงแรมด้วยรถลากทุกวัน เป็นเวลา 8 ปีด้วย

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานพัฒนาพื้นที่และการเคหะมหาราชาในเมืองมุมไบ บอกว่า เป็นที่รู้สึกได้ชัดเจนยิ่งว่า พวกดาราเด็ก สลัมด็อก มิลเลี่ยนแนร์ เหล่านี้ ควรจะได้รับรางวัล ด้วยสถานที่เหมาะสมที่พวกเขาจะใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งทางหน่วยงานเองยังมีแผนจะจัดหาแฟลตที่อยู่ใหม่ของแก่อัสซารุดดิน และรูบิน่า ด้วย ขณะที่ประธานหน่วยงานบอกว่า เด็กเหล่านี้ได้สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศ และถือว่าได้ช่วยทำให้ภาพยนตร์ดังกล่าวคว้ารางวัลออสการ์เหมือนกัน

ขณะที่ นายราฟิก คูเรชิ บิดาของรูบิน่า บอกว่า การมีแฟลตที่เหมาะสมอยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรามาก เพราะครอบครัวเขาต้องอยู่ในสลัมมากว่า 3 อายุคน และในที่สุดท้ายเราก็อาจจะต้องออกจากที่นี่ไป เพราะมันไม่ใช่สถานที่เหมาะที่อยู่ แต่มันพร้อมจะถล่มทุกเมื่อ

นอกจากนี้ ด้านแดนนี่ บอยล์ กล่าวว่า เขาและนักลงทุนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังจะตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวสลัมและเด็กข้างถนนในเมืองมุมไบ โดยขณะนี้มีการจัดวางเงินทุนไว้แล้วเป็นจำนวนอย่างต่ำ 500,000 ปอนด์ หรือราว 25,500,000 บาท

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook