รวบหนุ่มเอดส์ปลอมเป็นเจ้าชาย! ลวงไฮโซ-หญิงบริการหลับนอนกว่า 20ราย
หนุ่มเมืองคอนป่วยเป็นโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย แอบอ้างตัวเป็นเจ้าชายมาจากย่านตะวันออกกลาง ลวงสาวไฮโซและหญิงขายบริการไปร่วมหลับนอนกว่า 20 คน โดยไม่มีการป้องกัน ปิดท้ายด้วยการรูดทรัพย์เหยื่อ ถูกจับได้รับสารภาพ ต้องการหาเงินซื้อยาต้านเอดส์ ตำรวจแจ้งได้แต่เพียงข้อหาวิ่งราวทรัพย์เท่านั้น
ชายหนุ่มป่วยเป็นโรคเอดส์ระยะสุดท้าย ล่อลวงหญิงไปร่วมหลับนอนโดยไม่สวมถุงยางอนามัย ฉวยโอกาสเหยื่อเผลอรูดทรัพย์ สุดท้ายถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ เปิดเผยขึ้นเมื่อ ร.ต.ท.สมชาย ชัยคณานุกุล รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเข้าจับกุม นายสุริชาติ ถนอมสุข อายุ 29 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ที่บริเวณปากซอย 9 ถนนพัทยา สาย 2 หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยมี น.ส.ธรัญญา เศรษฐวารี อายุ 36 ปี ชาวอุดรธานี เป็นผู้ชี้ตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
น.ส.ธรัญญากล่าวว่า ขณะเดินทางผ่านบริเวณปากซอย 9 ถนนพัทยา สาย 2 พบเห็นนายสุริชาติยืนอยู่ จึงโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาจับกุม เนื่องจากจำได้ว่านายสุริชาติเป็นคนร้ายที่วิ่งราวกระเป๋าสะพายของตนไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่นายสุริชาติให้การรับสารภาพในเบื้องต้นว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากต้องการหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับยาต้านเอดส์ ซึ่งตนเองกำลังเป็นเอดส์ในระยะสุดท้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุริชาติไปสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งนายสุริชาติให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานเป็นเด็กเรือสปีดโบ๊ท ที่ชายหาดเมืองพัทยา และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี ซึ่งช่วงนั้นทราบแล้วว่าตนเองเป็นเอดส์ เมื่อมีผู้หญิงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งบางคนเป็นสาวไฮโซ มาใช้บริการเรือสปีดโบ๊ท ก็จะชวนพูดคุยและชักชวนไปเที่ยวด้วยกัน หลายคนตนพาไปร่วมหลับนอนด้วย และส่วนใหญ่ขณะที่มีเพศสัมพันธ์ตนไม่ได้สวมถุงยางอนามัย คาดว่าจะมีเหยื่อที่ติดเชื้อเอดส์จากตนไม่น้อยกว่า 20 คน หลังจากมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ขณะเหยื่อเผลอก็จะฉวยโอกาสชิงทรัพย์แล้วหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม นายสุริชาติกล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า ทราบว่าเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์เมื่อประมาณ 6 ปี ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นได้เดินทางมาเที่ยวตามสถานบันเทิงในเมืองพัทยา และซื้อบริการทางเพศจากหญิงขายบริการ ขณะที่มีเพศสัมพันธ์กันก็ไม่มีการป้องกันแต่อย่างใด ต่อมาทราบว่าติดเชื้อเอดส์ ก็ไปทำงานเป็นเด็กเรือสปีดโบ๊ท ที่ชายหาดพัทยา เมื่อถูกไล่ออกจึงออกตระเวนหาเหยื่อไปร่วมหลับนอน และจะฉกทรัพย์เมื่อเหยื่อเผลอ โดยอาศัยที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี เหยื่อจึงเชื่อว่าตนเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวหาความสำราญ ทรัพย์สินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อยาต้านเชื้อเอดส์
"บางครั้งผมจะอ้างว่าเป็นเจ้าชายมาจากประเทศอินเดีย หรือเป็นเจ้าชายมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย หรือ เป็นเจ้าชายมาจากประเทศต่างๆ ในแถบตะวันออกกลาง เหยื่อที่ผมจะมองหามักจะพุ่งเป้าที่พนักงานตามสถานบันเทิงต่างๆ ในเมืองพัทยา ส่วนใหญ่เวลาหลับนอนกับเหยื่อก็ไม่ได้สวมถุงยางอนามัยเลย หลังจากผมพาไปร่วมหลับนอนแล้ว เมื่อเหยื่อเผลอก็จะฉวยโอกาสหยิบทรัพย์สินมีค่าของเหยื่อแล้วหลบหนีไป หรือบางครั้งกระชากกระเป๋าของเหยื่อไปจากมือเลยก็มี" นายสุริชาติกล่าว
นายสุริชาติกล่าวอีกว่า พักหลังตนก่อเหตุและร่วมหลับนอนด้วยไม่ได้สวมถุงยางอนามัยเลย เพราะรู้ว่าเชื้อเอดส์ที่เป็นอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งหญิงสาวขายบริการที่ถูกตนพาไปร่วมหลับนอนคนล่าสุด เห็นเมื่อล่าสุดมีรูปร่างผอมไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เชื่อว่าน่าจะเติดเชื้อเอดส์จากตนไปแล้ว ส่วนเหยื่อสาวขายบริการอีกนับ 20 ราย ที่อยู่ในเมืองพัทยา คาดว่ายังไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อเอดส์ไปจากตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนายสุริชาติให้การต่อตำรวจนั้น มีอาการคันผิวหนัง สังเกตที่มือเห็นเล็บหลุดออกไปเกือบหมด และมีเลือดไหลซิบๆ ทำให้ตำรวจไม่กล้าเข้าใกล้มากนักขณะสอบปากคำ