เผยหางเครื่องบินตุรกีกระแทกกับทางหลวงก่อนประสบเหตุ

เผยหางเครื่องบินตุรกีกระแทกกับทางหลวงก่อนประสบเหตุ

เผยหางเครื่องบินตุรกีกระแทกกับทางหลวงก่อนประสบเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า หางเครื่องบินสายการบินตุรกีกระแทกเข้ากับขอบทางหลวงใกล้ท่าอากาศยานสคีโพล ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีหมอกเล็กน้อยก่อนเครื่องตกใกล้รันเวย์จนลำตัวเครื่องบินหัก 3 ท่อนเมื่อวานนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน

ผู้โดยสารคนหนึ่งเผยว่า ขณะที่ เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของ สายการบินตุรกี เที่ยวบิน TK 1951 บินอยู่ที่ระดับความสูง 600 ม. ( 2,000 ฟุต) ก็ได้ยินเสียงนักบินประกาศว่า เครื่องจะร่อนลงจอด จากนั้นหางเครื่องบินก็กระแทกเข้ากับขอบทางหลวงใกล้กับ ท่าอากาศยานสคีโพล และตกใส่พื้นแล้วไถลเข้าไปในสนามหญ้าใกล้กับรันเวย์

ด้านผู้โดยสารอีกคนระบุว่า ขณะที่เครื่องบินกำลังร่อนลงจอดตามปกติ เครื่องกลับสูญเสียการควบคุมและตกลงอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนเผยกับสถานีโทรทัศน์ของเนเธอร์แลนด์ ว่า เครื่องบินร่อนลงสู่รันเวย์โดยที่เครื่องยนต์ไม่ทำงาน และส่วนหางของเครื่องกระแทกกับพื้น จากนั้นก็มีผู้โดยสารราว 40 คน รีบหนีออกจากตัวเครื่องบิน

ทางการเนเธอร์แลนด์ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 80 คน ในจำนวนนั้น 6 คน มีอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ ส่วนอีก 25 คน บาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลใกล้เคียง 11 แห่ง ส่วนศพผู้เสียชีวิตถูกนำไว้ในห้องเก็บศพของท่าอากาศยาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่เริ่มตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตแล้ว คาดว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมในวันนี้ แต่เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิต 3 คนเป็นลูกเรือที่อยู่ในห้องนักบินขณะเกิดเหตุ

นายบินาลี ยิลดิริม รัฐมนตรีกระทรวงขนส่งตุรกี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอนาโตเลียของตุรกีว่า โอกาสรอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้แทบจะไม่มี แต่ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่รอดชีวิตมาได้ เนื่องจากบริเวณที่เครื่องตกเป็นสนามหญ้าที่พื้นดินมีความอ่อนนุ่ม จึงทำให้ไม่เกิดไฟลุกไหม้ และว่าเที่ยวบินนี้มีชาวตุรกี 78 คน และชาวต่างชาติ 56 คน ด้านสายการบินตุรกีจัดเที่ยวบินพิเศษให้ครอบครัวผู้โดยสารเดินทางไปถึงกรุงอัมสเตอร์ดัมเมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่น และเตรียมจิตแพทย์ไว้คอยให้ความช่วยเหลือ

ทีมสอบสวนของคณะกรรมการความปลอดภัยเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า พบกล่องบันทึกการบิน หรือกล่องดำแล้ว แต่คาดว่าต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะสามารถระบุสาเหตุของอุบัติเหตุได้เพราะ เพิ่งเริ่มกระบวนการสอบสวน

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook