สาวรอรถเมล์ถูกฉุดเข้าพงหญ้าหวังข่มขืน เคราะห์ดีแท็กซี่ผ่านมาช่วย

สาวรอรถเมล์ถูกฉุดเข้าพงหญ้าหวังข่มขืน เคราะห์ดีแท็กซี่ผ่านมาช่วย

สาวรอรถเมล์ถูกฉุดเข้าพงหญ้าหวังข่มขืน เคราะห์ดีแท็กซี่ผ่านมาช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน รวบหนุ่มนราฯ หลังก่อเหตุพยายามข่มขืนสาวหลังป้ายรถประจำทางย่านถนนบรมราชชนนี เคราะห์ดีแท็กซี่ขับผ่านเห็นเหตุการณ์ 

(3 ส.ค.) ตำรวจจับกุมตัว นายอับดุลเลาะห์ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีด เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 2 สิงหาคม เวลาประมาณ 21.00 น. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้รับแจ้งเหตุ มีเหตุผิดปกติบริเวณป้ายรถประจำทาง ตรงข้ามซอยหอพักพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช ซอยบรมราชชนนี 69 จึงส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจไปยังจุดเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ต้องหาได้วิ่งข้ามถนนเพื่อพยายามหลบหนี ห่างจากจุดเกิดเหตุไปยัง สน.ตลิ่งชันประมาณ 200 เมตร ซึ่งระหว่างหลบหนีได้ถูกรถเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บ และถูกควบคุมตัวได้ในที่สุด

ด้านหญิงผู้เสียหายเปิดเผยว่า หลังเลิกงาน และเดินข้ามสะพานลอยมายังฝั่งตรงกันข้ามกับซอยบรมราชชนนี 69 ขณะเดินขึ้นสะพานลอย ได้เดินสวนกับผู้ต้องหา จนมาถึงบริเวณป้ายรถประจำทาง คนร้ายได้เข้าประกบ พร้อมใช้อาวุธมีดจี้บังคับ โดยล็อกคอลงไปยังไหล่ทางซึ่งอยู่ด้านหลังป้ายรถประจำทาง ซึ่งมีพงหญ้า โดยได้ใช้กำลังต่อยไปที่หน้าท้องหลายครั้ง และดึงเสื้อในมามัดมือ-เท้า พร้อมขู่ทำร้ายพยายามข่มขืน

ขณะที่ นายเป็ด คล้ามคล้าย อายุ 34 ปี ซึ่งขับรถแท็กซี่ผ่านมาประสบเหตุ และเห็นความผิดปกติจึงได้ทำการจอดรถ โดยแกล้งทำเป็นรถเสีย และได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจังหวะนั้น ผู้ต้องหาได้ข่มขู่เหยื่อไม่ให้ส่งเสียง และทำทีเดินมาขอบุหรี่ นายเป็ดได้ปฏิเสธทำให้ผู้ต้องหาเดินกลับไป จังหวะเดียวกันเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางมาถึงผู้ต้องหาจึงได้กระชากเอาโทรศัพท์มือถือพร้อมเงินอีกจำนวน 540 บาทของเหยื่อและได้วิ่งข้ามถนน และถูกรถเฉี่ยวชน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

ทีมข่าวได้ลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นหอพักพยาบาล ซึ่งบริเวณด้านหลังป้ายรถประจำทางเป็นที่รกร้าง มีต้นหญ้าและต้นกระถินยักษ์สูง แม้ขนาดเวลาช่วงบ่ายโมงยังเป็นจุดเปลี่ยว ไม่ค่อยมีคนสัญจร จุดเกิดเหตุจะมีทั้งพยาบาล นักศึกษา และคนทำงานมาใช้บริการเป็นประจำ ซึ่งหากเวลากลางคืน จะเป็นจุดเปลี่ยว โดยป้ายรถประจำทาง ซึ่งเป็นศาลาทางหลวงมีเพียงหลอดไฟเพียงหลอดเดียวไม่ค่อยมีแสงสว่าง จึงเป็นจุดที่น่าจะเกิดอันตราย และเมื่อไม่นานจะมีคนโรคจิตมาแอบยืนช่วยตัวเองอยู่ในป่าหญ้าเป็นประจำ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยสอดส่องดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook