เขาไม่ได้ดีอย่างที่คิด! "ตาล ลีโอเกิร์ล" เปิดปากครั้งแรกหลัง "ชาคริต" บอกอโหสิกรรม

 

หลายวันก่อนพระเอกหนุ่ม "ชาคริต แย้มนาม"  ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องกรณีที่มีนางแบบสาวเซ็กซี่ "ตาล สรัญญา" หรือ "ตาล ลีโอเกิร์ล" ออกมาแฉความสัมพันธ์แต่สุดท้ายก็โดนเทโดย โดยหนุ่มชาคริตได้เผยว่า รู้จักกันจริง เพราะเจอกันตามงานแล้วฝ่ายหญิงเข้ามาให้กำลังใจ ไม่ได้คุยแบบให้ความหวังอะไร พร้อมบอกอโหสิกรรมให้ถ้าคนมองว่าอีกฝ่ายเกาะกระแสตัวเอง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายหญิงได้ออกมาเปิดใจกับ Sanook News! หลังได้ฟังคำสัมภาษณ์ของฝ่ายชาย จะดุเด็ดเผ็ดมันส์แค่ไหนไปติดตามคำสัมภาษณ์ของเธอดีกว่า

ได้ฟังอีกฝ่าย (ชาคริต แย้มนาม) ให้สัมภาษณ์แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?

"รู้สึกอึ้งว่าแบบคนที่เราพูดกับทุกคนมาตลอดว่าเค้าเป็นคนดีตลอด พอมีกระแสข่าวที่ผ่านมาเราก็พยายามระวังคำพูดมากและพยายามเซฟเค้าให้มากที่สุด และก็พูดถึงเรื่องดีๆ ของเขาตลอด แต่สิ่งที่เค้าพูดออกมาดูเหมือนเราเป็นชะนีมโน และก็รู้สึกไม่โอเคเพราะมีครอบครัวเราด้วยในภาพที่ไปทานข้าว พ่อแม่ พี่น้องเรา แล้วเค้าพูดแบบเฮ้ยเราไปกินข้าวร้านเค้าแล้วไปขอเค้าถ่ายรูป เหมือนเราไปกินข้าวเฉย ๆ"

"แล้วเค้าเดินมาแล้วพี่คะหนูขอถ่ายรูปด้วยหน่อยคือมันไม่ใช่ เพราะตาลมั่นใจวันที่ตาลไปกินข้าวมันมีโต๊ะอื่นด้วย และตาลก็รู้ว่าโต๊ะอื่นที่เค้าเห็นเค้าก็ต้องรู้สึกอยู่แล้วการที่เค้ามาคุยกับเรามันพิเศษเพราะมานั่งคุยกับคุณพ่อคุณแม่เรา เพราะเรานัดกันอยู่แล้วว่าจะมากินข้าวที่ร้านเค้าไม่ใช่ว่าไปครั้งนั้นครั้งแรก แต่ครั้งนี้ชวนพ่อแม่ไปทาน"

ประโยคไหนที่ฟังอีกฝ่ายให้สัมภาษณ์แล้วรู้สึกอึ้ง ?

"ก็หลายประโยคนะแต่ที่รู้สึกฮามากคือประโยคผมถ่ายรูปกับใครต้องเป็นเมียทุกคนเลยหรอ ก็อยากจะบอกว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ออกรายการก็ไม่เคยประกาศว่าเราเป็นแฟนกัน อย่างที่บอก ณ ตอนนั้นเราไม่ได้มีฐานะอะไรอยู่แล้ว แต่ตาลไม่ได้เปิดประเด็นว่าตาลเป็นเมียพี่นะคะ พี่เค้าร้อนตัวไปเองหรือเปล่า เราแค่บอกว่าตัวเราเองมีความรู้สึกดี ๆ ให้เค้าไม่ได้บอกว่าเรารักเค้าตาลไม่ได้ใช่คำพูดนั้น"

"แต่ตัวเค้าเองเราก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าคิดอะไร มันเป็นธรรมดาที่ผู้หญิงคนนึงคุยกับผู้ชายคนนึงแล้วมันมีเรื่องดีๆ ก็เหมือนคนทั่วไปถ้าตัดคำว่าดาราออกไปก็เหมือนเราคุยกับผู้ชายคนนึง  แต่ ณ วันนี้อาจไม่ใช่แล้วเพราะก่อนหน้านี้ก็คิดมาตลอดว่าสิ่งที่คนอื่นเค้าพูดมาหรือว่าเห็นจากสื่อหรือที่เราออกตัวให้ไปมันจริงหรือเปล่า และก็รู้สึกว่าวงการมายามันเป็นอย่างนี้เองเนอะ ปกติลับหลังก็เคยด่ากันใส่ไฟกันพอออกงานเจอกันก็โอบกอดกันไรงี้"

สังคมมองว่าเป็นฝ่ายหญิงเป็นคนมโนไปเอง ?

"สังคมไม่ได้อยู่ไม่ได้รู้ตอนที่เราคุยกันอยู่แล้ว ตาลว่าสังคมต่างหากที่มโน จริงๆ เราก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะเลยก็แค่บอกว่าคุยกันรู้จักกัน แต่อย่างว่าเราไม่สามารถไปพูดให้ใครเชื่อได้ทั้งหมดทุกคน อย่างเพื่อนตาลหรือว่าคนรอบข้างตาลก็ไม่ได้มีใครมาถามอะไรก็แค่บอกว่าอย่าให้เราไปอะไรมาก แต่กับคนอื่นที่ไม่ได้มีความรู้จักกันเลยแล้วมาบอกว่าตาลมโน

"คนนั้นแหละที่คิดเองเองมโนเองหรือเปล่า และตาลสังเกตว่าคนที่มาพิมพ์ทุกคน 90% เป็นผู้หญิงเป็นเพศเดียวกัน ตาลไม่ได้บอกว่าให้มาปกป้องตาลเพราะเราไม่รู้จักกันอยู่แล้ว แต่แค่ว่าเป็นผู้หญิงเหมือนกันแต่ด่าผู้หญิงด้วยกัน แต่อย่างที่บอกถ้าคนที่เค้าไม่ชอบต่อให้นั่งไหว้พระทำบุญอยู่เค้าก็ด่าอยู่ดีค่ะ"

จริงหรือไม่ที่ว่าเราต้องการเกาะกระแสฝ่ายชายเพราะอยากดัง?

"ทุกวันนี้ยังขายของอยู่เลยยังไม่เห็นมีงานอะไรเป็นล้านติดต่อมาเลย ตาลก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมปกติไม่ใช่ว่ามีข่าวแล้วโดนจองตัวไปเป็นนางเอกเล่นหนังเล่นละครมันไม่ใช่ ตาลก็ยังคงทำงานใช้ชีวิตแบบเดิมๆ มีข่าวกับเค้าก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตตาลดีอะไรขึ้นเลย งานก็ไม่ได้มากขึ้น ลูกค้าก็สั่งของเหมือนเดิมออเดอร์ก็ไม่ได้มากขึ้นด้วยซ้ำค่ะ"

โกรธมั้ยที่ฝ่ายชายบอกว่าอโหสิกรรมให้เรา?

"จริงๆ ตอนแรกที่ฟังก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะว่าตอนที่คุยกันเค้าก็มีใช้คำพูดนี้ เพราะว่าจะคุยกันเรื่องทำบุญบ่อยแล้วเค้าจะแบบเวลาเราเจอเรื่องอะไรไม่ดีเค้าก็บอกว่าอย่าไปคิดอะไรมาก อโหสิกรรมให้น่าจะเป็นคำติดปากเค้า แต่ตาลก็งงตรงที่เค้าบอกว่าเค้าหลอนเราเรื่องลงรูปนี่แหละว่า เอ๊ะวันนั้นก็รู้ว่าลงรูปแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรนิ ตอนนี้น่าจะเป็นตาลที่หลอนเค้า เค้าก็น่ากลัวเหมือนกันนะทุกวันนี้"

"อย่างตอนที่รู้ว่าเค้าให้สัมภาษณ์ยังคิดเลยว่าเค้าสัมภาษณ์เป็นเสียงหรือเปล่ายังไม่คิดว่าเป็นเค้าเลย เค้านั่นหรอจะพูดแบบนี้ยังคิดในแง่ดีอยู่เลยพอรู้ว่าเค้าพูดจริงๆ ก็โอเคเป็นคนแบบนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด มันทำให้เรารู้ว่าเวลาฟังคนอื่นพูดมาแล้วเราพยายามปกป้องว่าไม่ใช่ แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่เราเจอนี่แหละคือตัวตนของเค้าเลยใช่ไหม"

สุดท้ายถ้าหากย้อนกลับไปได้เราอยากรู้จักผู้ชายคนนี้หรือไม่?

"ก่อนหน้านี้ตาลเคยพูดในรายการนึงกับคำถามนี้ตาลตอบว่าอยากรู้จักค่ะเพราะพี่เค้าเป็นคนดี แต่ถ้า ณ ตอนนี้คงไม่ (ส่ายหัว) เพราะเราหลอนเค้าไปแล้วเหมือนกัน พอเค้ามาพูดแบบนี้ก็รู้สึกพี่โคตรแมนเลยเนอะ แต่ก็เข้าใจว่าเรื่องบางเรื่องคนเราทุกคนมันไม่มีใครยอมพูดความจริงเรื่องตัวเองหมดทุกคนหรอก และเรื่องบางเรื่องก็ไม่มีใครรู้ดีหรอกนอกจากตัวเรา คำบางคำที่เราฟังก็เลยรู้สึกว่าพี่ไม่แมนตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้นก็เลยพิมพ์แบบนั้นค่ะ"