รวบพนักงานขนสัมภาระสุวรรณภูมิลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

ตำรวจท่องเที่ยว แถลงข่าวจับกุมพนักงานขนสัมภาระสนามบินสุวรรณภูมิ 3 คน หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว ทรัพย์สินสูญหายบ่อยขณะใช้บริการสนามบิน

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 26 ก.พ. 52 ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. ได้ร่วมแถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์นักท่องเที่ยวภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้ต้องหาจำจำนวน 3 คน

ประกอบด้วย1.นายอมร วิเศษยา อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 24 ม.14 ต.หนองหญ้าปล่อง อ.วังสะพุง จ.เลย 2. นายสุรนารถ จันทร์นุ่ม อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 94 ม.4 ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และ 3.นายไพรัตน์ แสงผ่อง อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 30 ม.2 ต.พวงสองนาง อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากผู้โดยสารของสายการบินต่างๆ ว่ามีทรัพย์สินที่เก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระสูญหาย ระหว่างการเดินทางเป็นจำนวนมากจนกระทั่ง นายโมฮัมเหม็ด อูมาร์ สัญชาติการ์ต้า อายุ 57 ปี ได้เข้าร้องทุกข์กับตำรวจท่องเที่ยวและเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ราชาเทวะ ว่า กระเป๋าเดินทางถูกเปิด และมีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ

จึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบจนกระทั่งทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุน่าจะเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่ขนกระเป๋าขึ้นเครื่อง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งได้ออกหมายจับบุคคลทั้ง 3 ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบสวนซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งรับว่าทรัพย์สินที่ได้มานำไปขายที่ห้องย่านรังสิต

ตำรวจจึงได้ติดตามคืนมา ได้เป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ รุ่น พี 520 จำนวน 1 เครื่อง แหวนลักษณะคล้ายทองประดับเพชร 18 เค จำนวน 1 วง และ ควบคุมตัวไปตรวจค้นห้องพัก

พบมีทรัพย์สินที่ลักทรัพย์ผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาอีกหลายรายการ ซึ่งอยู่ในระหว่างติดตามหาเจ้าของ

และจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังรับสารภาพอีกว่า จะลงมือลักทรัพย์จากกระเป๋าที่ลำเลียงใส่ตู้สัมภาระที่จะนำไปขึ้นเครื่อง โดยจะเปิดกระเป๋าทุกใบที่มีกุญแจล๊อก โดยใช้สเต็ปที่คล้องเอวสอดเข้าไปในกุญแจแล้วบิดให้หลุด หรือถ้าเป็นกุญแจแบบมีรหัสล๊อกอย่างบาง ก็จะใช้มือบิดให้หลุด เมื่อได้ทรัพย์สินแล้วจะซุกไว้ตามเป้ากางเกง หรือส่วนต่างๆของร่างกายออกมา เมื่อเลิกงานก็จะนำไปขายก่อนนำเงินมาแบ่งกัน

จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ราชาเทวะ ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยานหรือรับของโจร ต่อไป