คาร์แคร์ยันไม่ขโมยแต่เจ้าของฝากขาย "รถบีเอ็มดับเบิลยู"
กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ กรณีร้านคาร์แคร์นำรถหนูบีเอ็มดับเบิลยูที่ลูกค้านำมาฝากล้างไปขายจนเจ้าของต้องออกประกาศตามหา แต่ปรากฏว่าล่าสุดเจ้าของร้านคาร์แคร์ดังกล่าวออกมายืนยันกับตำรวจว่าตัวเองไม่ได้ขโมยรถไปแต่เจ้าของรถนั่นแหละที่นำมาฝากขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อความตกลงเรื่องราคาและค่าส่วนต่างในหน้าการซื้อขายรถยนต์ ระหว่างเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูและนางสาววรณิสร์ เจ้าของร้านคาร์แคร์ คู่กรณี ถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคูคต
นางสาววรณิสร์ ยืนยันว่าไม่ได้ขโมยรถไปขาย แต่เจ้าของเป็นคนที่นำรถมาฝากขาย โดยรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ร้านนานกว่า 10 วัน ก่อนที่จะขายออกไป ซึ่งเจ้าของก็รับรู้เรื่องมาโดยตลอด แต่ที่เรื่องกลายเป็นประเด็นและบานปลายนั้น สาเหตุน่าจะมาจาก ภรรยาเจ้าของรถไม่รู้ว่าจะมีการซื้อขายรถกันเกิดขึ้น จึงได้โพสข้อความประกาศตามหารถอย่างที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้และยืนยันว่ากำลังอยู่ระหว่างนำมาส่งคืนโดยได้ตกลงกับเจ้าของรถไว้แล้วแต่ดันถูกตำรวจสกัดจับรถเสียก่อน
ส่วนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู รุ่นแซดโฟร์คันดังกล่าว มีการตามหา ตรวจสอบไปพบอยู่ในพื้นที่ จังหวัดระยอง และถูกตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองระยองสกัดจับได้เมื่อเช้านี้ โดยผู้ขับขี่รถบีเอ็ม คือนายมีชัย บอกว่าได้รับการว่าจ้างจากหญิงไทยคนหนึ่งทราบชื่อเล่นว่า ทอม อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี บอกให้ไปรับรถยนต์คันนี้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างเทสโก้โลตัส จังหวัดจันทบุรี เพื่อนำรถมาส่งที่จังหวัดปทุมธานี แต่ถูกตรวจสอบและจับกุมตัวก่อน
โดยผู้เสียหายได้เดินทางมาดูรถยนต์บีเอ็มดับบลิวรุ่น แซด 4 สีดำพร้อมนำกุญแจสำรองมาด้วยเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของรถ พร้อมเล่าว่าช่วงต้นเดือนสิงหาคมนางวรณิสร์ บอกตนว่าได้ขายรถยนต์ของตนไปแล้วโดยรับเงินวางมัดจำไว้ 350,000 บาท ในวันถัดไปจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.คูคต
ขณะที่ ร้อยตำรวจเอก ธนสรณ์ แช่มช้อย รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคูคต จังหวัดปทุมธานี เผยว่า เบื้องต้นได้เชิญตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาทำการสอบปากคำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใครเป็นผู้ให้ข้อมูลเท็จและกระทำผิด ซึ่งทุกขั้นตอนอยู่ระหว่างการสอบสวน