ยันด้วยภาพ พยานชี้ "หมีควายตะบบ" คนไม่ได้แหย่ก่อน

ยันด้วยภาพ พยานชี้ "หมีควายตะบบ" คนไม่ได้แหย่ก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พยานหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ชายที่ถูกหมีควายตะบบอย่างสยดสยอง ยืนยันไม่ได้เป็นฝ่ายแหย่ เอาไม้เขี่ยตามที่ข่าว เพียงแค่ให้อาหารตามปกติ แต่คนนึกว่าหมีเล่นด้วยแบบเอ็นดู

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ ภาพเหตุการณ์ "เจ้าแก้ว" หมีควายขย้ำทำร้ายชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เย็บแผลนับพันเข็ม เหตุเกิดที่สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน โดยขณะนี้เจ้าหมีควายตัวดังกล่าวถูกย้ายไปไว้กรงของสถานีเพาะพันธุ์สัตว์ป่าเขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

นายสมเจต อายุ 23 ปี ชาวบ้านที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวโดยละเอียด เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นว่า ช่วงเกิดเหตุตนยืนอยู่ข้างๆ กับ นายฝน ผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยหมีควายตัวดังกล่าวนั่งอยู่ติดริมกำแพง นายฝนจึงโยนหยวกกล้วยลงไปให้กิน เมื่อหยวกกล้วยหมดหมีได้ยืนขึ้น นายฝนจึงได้เอื้อมมือไปลูบหัวหมีควาย ทำให้หมีใช้มือตะปบและกัดที่ปลายมือ นายฝนจึงชักมือขึ้นและคิดว่าหมีควายหยอก จึงเอื้อมมือลงไปอีก

ทำให้คราวนี้หมีควายกัดเข้าที่ข้อมือ ก่อนจะดึงตัวของนายฝนไปในบ่อ ตนและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 4-5 คน ได้พยายามดึงกลับขึ้นมาแต่ก็สู้แรงหมีไม่ไหว ทำให้นายฝนตกลงไปดังกล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่ว่า นายฝนแกล้งและใช้ไม้แหย่หมีควาย รวมทั้งโดดลงไปในคอกเพื่อจับหมูป่านั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนยืนอยู่ข้างนายฝน ในขณะที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ต้นจนจบ และเป็นผู้ที่วิ่งลงไปเอาตัวนายฝนในคอกหมู หลังจากที่หมีควายปล่อยตัวนายฝนแล้ว

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ส่วนกรณีกระแสในโลกโซเชียลที่จะให้นำหมีควายกลับมาเลี้ยงที่สำนักสงฆ์ดังเดิมนั้น มีมูลว่าหลังมีผู้นำหนังสือของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นหนังสือฝากหมีควายตัวดังกล่าวไว้ที่สำนักสงฆ์ เนื่องจากว่าหมีควายตัวดังกล่าว เป็นของกลางในคดีบุกรุกป่า แต่คดียังไม่สิ้นสุด และกรมอุทยานฯ ไม่มีสถานที่เลี้ยง จึงได้ทำหนังสือฝากหมีควายตัวดังกล่าวไว้ โดยจะครบกำหนดฝากในวันที่ 3 ตุลาคม 2560

แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จึงได้ทำหนังสือขอรับคืน ไปเลี้ยงไว้ที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้เปิดเผยว่า หากไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กรมอุทยานก็จะต้องรับตัวหมีควายตัวดังกล่าวมาเลี้ยงตามกระบวนการในการจัดการสัตว์ป่าต่อไป

ขณะที่ พระธเนศ ติขะณาโณ ผู้ดูแลสำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน และ นางวันดี ผู้ดูแลหมูป่าและหมีควาย รุดเข้าเยี่ยมหมีควาย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล นางวันดีได้นำเตรียมอาหารและผลไม้ที่จะเตรียมไปให้เจ้าแก้วกิน จากนั้นยังพูดจาและจับมือเจ้าแก้วที่พยายามยื่นมือผ่านซี่กรงเหล็กออกมา เพื่อแสดงการปลอบใจตลอดเวลา

นายวันดี กล่าวว่า เมื่อแก้วได้ยินเสียงแสดงอาการดีใจ และมีเสียงร้องเหมือนกับเสียงร้องไห้ ยิ่งทำให้ตนน้ำตาไหลตามไปด้วย สภาพในกรงขังซึ่งแตกต่างที่อยู่เดิมคงทำให้แก้วอึดอัด ยิ่งเวลามองดูแววตาของแก้วแล้วก็ยิ่งรับรู้ในความรู้สึกของเขาได้ดี หากพูดได้ก็คงอยากบอกเราว่าเขาทำผิดอะไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook