เทพไท แจง แม่มาร์ค ไม่ได้เป็นเจ้าของรายการวิทยุ

อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ เผยไม่รู้สึกหวั่นไหว หลังฝ่ายค้านอาจโจมตีตระกูลเวชชาชีวะ ยันไม่เคยซุกหุ้น-ปกปิดทรัพย์สิน พร้อมชี้แจงทุกประเด็น และจะเป็นกำลังใจให้ลูกชายเสมอ

กรณีมารดาของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการจัดรายการวิทยุของ กทม. ซึ่งฝ่ายค้านกล่าวหาว่าเป็นการใช้บารมีนายกฯ บีบผู้ว่าฯ กทม.ให้จัดเวลาให้มารดานั้น นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะมารดาของนายกฯ ไม่ได้เป็นเจ้าของรายการ แต่เป็นเพียงวิทยากรรับเชิญที่มาพูดเป็นครั้งคราว ในรายการธรรมะที่นายสุขพัฒน์ ทองเพ็ง ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.ได้ขอเวลาจัดรายการที่คลื่นความถี่ AM 873 เมกกะเฮิร์ต ทั้งนี้ รายการวิทยุของกทม.ส่วนใหญ่มีองค์กรต่างๆ ขอมาใช้เป็นสาธารณะกุศล ดังนั้น จึงไม่ได้มีแต่ของนายสุขพัฒน์เท่านั้นที่มาขอใช้ เพราะยังมีรายการของโครงการเมืองหลวงปลอดภัยของนายสาธิต อัครวัฒนเมธี นอกจากนั้น ยังมีวัดประยูรวงศาวาสวรวิหารมาจัดรายการบรรยายธรรม ดังนั้นไม่มีมูลความจริงว่ามารดาของนายกฯ ได้ใช้อำนาจนายกฯ ไปบีบผู้ว่าฯ กทม.

"นายกฯ ไม่ได้ใช้ตำแหน่งเพื่อเอาประโยชน์ให้กับคนในครอบครัวหรือพวกพ้อง ซึ่งผิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนคนในวงศ์วานได้ดิบได้ดี ทั้งคนในตระกูลชินวัตร และดามาพงษ์ มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดข้ามหัวคนอื่นไปหลายคน แม้แต่หมอประจำตัวของแม่ยายก็ได้รับอานิสงส์ ได้เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี" นายเทพไท กล่าว

พ่อนายกฯ ไม่กลัวฝ่ายค้านจ้องอภิปรายตระกูลเวชชาชีวะ

ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล บิดาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหวที่ฝ่ายค้านเตรียมนำข้อมูลมาโจมตีครอบครัวเวชชาชีวะ โดยจะกล่าวหาว่า ตนและนางสดใส ภริยา แอบถือหุ้นบริษัทเอกชนและเอื้อประโยชน์ให้นายกรัฐมนตรี รวมทั้งปกปิดบัญชีทรัพย์สิน เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงและตนไม่เคยถือหุ้นบริษัทเอกชนใด ๆ

ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยต้องการโจมตีนายกรัฐมนตรี ซึ่งครอบครัวพร้อมให้ตรวจสอบ นอกจากนี้ ภริยานายกฯ ก็ไม่ได้ถือหุ้นบริษัทเอกชนใดๆ เช่นกัน แต่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น เพราะได้รับมรดกจากญาติ ซึ่งมีหลักฐานเป็นเอกสารเรื่องการรับมรดกและเงินที่ได้รับส่วนหนึ่ง ก็นำไปสร้างมูลนิธิชื่อ "พุทธบริษัท" สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ทั้งนี้ คิดว่าไม่ต้องหารือกับบุตรชาย เพราะครอบครัวไม่ได้หวั่นไหว มั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น และพร้อมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเสมอ