แก๊งทวงหนี้รุมตื้บแม่ค้าวัย 53 ปางตาย ค้างจ่ายแค่400บาท

แก๊งทวงหนี้รุมตื้บแม่ค้าวัย 53 ปางตาย ค้างจ่ายแค่400บาท

แก๊งทวงหนี้รุมตื้บแม่ค้าวัย 53 ปางตาย ค้างจ่ายแค่400บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มโร่ร้องขอความเป็นธรรม หลังมารดาถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ยกพวกรุมตื้บสลบคาบ้านยัวะเบี้ยวหนี้นอกระบบ เหยื่อยอมรับกู้หนี้มา 4,000 บาท ระยะหลังขายข้าวแกงไม่ดี ขาดส่ง 2-3 วันจึงขอผัดผ่อน จู่ๆ ถูกบุกบ้านซ้อมปางตาย เผยถูกเหยียบศีรษะ-ไม้เบสบอลตีหน้าแม้ยกมือไหว้ร้องขอชีวิตก็ยังไม่ยอม

เหตุการณ์แก๊งทวงหนี้รุมตื้มป้าขายข้าวแกงได้รับบาดเจ็บสาหัสเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายพลพจน์ สุขสำราญ อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานบริษัท อยู่บ้านเลขที่ 133/17 ตรอกลิง ถนนเตชะวณิชย์ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม แห่งประเทศไทย หลังนางอารีย์ เจริญมงคล อายุ 53 ปี มารดา อาชีพแม่ค้าขายข้าวแกง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระ ย่านสามเสน

นายไพโรจน์ จึงไปเยี่ยมดูอาการของนางอารีย์ ที่โรงพยาบาลวชิระ ชั้น 9 ห้อง 909 พร้อมกับประสานงาน พ.ต.ท.ชยุธ มารยาทตร์ รอง ผกก.สส.สน.สามเสน เพื่อขอกำลังตำรวจมาดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะย้อนมาทำร้ายร่างกายอีก

นางอารีย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 4,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต้องส่งเป็นรายวันวันละ 200 บาท ปกติก็จะมีวัยรุ่นชาย 2 คน คือนายเหลียง กับนายมอญ ไม่ทราบนามสกุล ขี่รถจักรยานยนต์มาเก็บเงินทุกวัน ซึ่งก็ส่งได้ประมาณ 1,800 บาท มาระยะหลังเงินขาดมือ ขายของไม่ดี จึงขาดส่งประมาณ 2-3 วัน (400-600 บาท) แต่ก็ต่อรองกันเป็นที่เรียบร้อยว่าขอส่งเหลือวันละ 100 บาท ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด กระทั่งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะกำลังอาบน้ำอยู่นั้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20-30 คน มาเคาะประตูเรียกแต่ยังไม่ทันจะเดินไปเปิดประตูให้ กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็พังประตูเข้ามา และชายคนหนึ่งใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบสีดำ เตะตนเองเข้าที่ท้อง จนล้มลงก็มีชายอีกคนหนึ่งใช้มีดดาบตีเข้าที่ใบหน้า

"ฉันยกมือไหว้ร้องขอชีวิตต่างๆ นานาว่าอย่าทำ อย่าทำ แต่ก็ไม่เป็นผล พวกมันใช้เท้าเยียบที่หัวจนหัวติดกับตู้เย็น ก่อนจะรุมเตะรุมตีสารพัน สุดท้ายฉันถูกไม้เบสบอลตีเข้าที่ใบหน้าจนสลบไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย มาฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล" นางอารีย์ กล่าวทั้งน้ำตา

จากการสอบถามนางวราพร กลั่นกลิ่นหอม อายุ 17 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 2 ส่วนห้องป้าอารีย์อยู่ชั้นล่าง ได้มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาพังประตูห้องป้า ตนเองก็ร้องขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านละแวกนั้น แต่กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อขึ้นมาทางตนเองแล้วตะโกนว่าอย่ามายุ่ง ก่อนที่คนร้ายจะบุกเข้าไปทำร้ายป้าจนสาหัส ระหว่างป้าถูกทำร้ายนั้น ได้มีนายชัยยศ เทียมมณี อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านเข้ามาช่วย แต่กลับถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะ 2 แผล ที่ข้อศอก 1 แผล เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน มาระงับเหตุ จนกลุ่มคนร้ายแยกย้ายกันหลบหนีไป แต่ตำรวจสามารถจับตัวได้ 4 คน

ด้านนายพลพจน์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้พามารดาไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระ ซึ่งเบื้องต้นแพทย์ได้วินิจฉัยถึงอาการว่า มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ฟกช้ำที่ใบหน้า ตอนนี้ต้องรอดูอาการทางสมองก่อนว่าจะได้รับความกระทบกระเทือนหรือไม่ ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 12.00 น. มีนายตำรวจยศ ร.ต.ต. อ้างว่าอยู่ สน.สุวินทวงศ์ แต่งตัวเครื่องแบบเต็มยศ มาหาตนที่บ้าน นายตำรวจคนดังกล่าวพูดลักษณะคล้ายว่ากลุ่มคนร้ายที่ถูกตำรวจ สน.เตาปูน จับกุมทั้ง 4 คนนั้น เป็นลูกน้อง พยายามไกล่เกลี่ยว่าอย่าเอาเรื่องเอาราว และจะชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด แต่ตนเองไม่ได้ตกลง เพราะต้องไปปรึกษากับบรรดาญาติๆ ก่อน จนทำให้นายตำรวจคนดังกล่าวไม่พอใจ ก่อนจะเดินทางกลับออกไป

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 12.30 น. จะพาผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีดังกล่าวมีข้าราชการตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง และให้เร่งหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook