โจรบุกเดี่ยวปล้นร้านทองหาดใหญ่ กวาด 50 บ.ลอยนวล!
โจรบุกเดี่ยวปล้นร้านทองกลางเมืองหาดใหญ่ กวาดดทองรูปพรรณ สร้อยคอ และแหวน รวมน้ำหนักประมาณ 50 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาทหนีลอยนวล
(28ก.พ.) เวลา 12.00 น. ร.ต.ท.คณิต เด่งทิ้ง ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านทอง ทรัพย์ไพศาล เลขที่ 1 ถนนฉัยยากุลอุทิศ ย่านตลาดซีกิมหยง ในกลางเมืองหาดใหญ่ หลังได้รับรายงานกำลังเจ้าหน้าที่ซึ่งประกอบด้วย พ.ต.อ.สาคร ทองมุณี รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผกก.สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.ท.ศักดา เจริญกุล รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ได้รุดเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมี นายสนธิ เตชานันท์ ผวจ.สงขลา ร่วมเดินทางมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
โดยภายในร้าน มี นางวรางคณา ชิวปรีชา อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน และลูกจ้างผู้หญิงอีก 1 คน ซึ่งทั้งสองคนยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่ากระจกตู้สำหรับเก็บทองถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงจนแตก โดยมีปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก และพวงกุญแจรถของคนร้ายตกอยู่ 1 พวง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้กวาดทองรูปพรรณ สร้อยคอ และแหวน รวมน้ำหนักประมาณ 50 บาทมูลค่ากว่า 8 แสนบาท หลบหนีไป
จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายซึ่งมีเพียงคนเดียวเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูง สวมหมวกกันน๊อคแบบรถแข่งปิดหน้ามิดชิด สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำเงิน ได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ ป้ายเหลือง ทะเบียน กกก.473 สงขลา มาจอดหน้าร้าน ก่อนที่จะบุกเข้าไปในร้านและชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมายิงกระจกตู้เก็บทองสองนัด
จากนั้นกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดทองรูปพรรณที่แขวนอยู่ ใส่กระเป๋า และรีบวิ่งออกจากร้านไปสตาร์ทรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปท่ามกลางสายตาของประชาชนจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากอยู่ในย่านชุมชน โดยระหว่างนั้นกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พยายามใช้ก้อนอิฐขว้างใส่คนร้ายแต่ไม่โดน
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวทราบว่า เป็นรถที่ถูกขโมยไปเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน
สำหรับร้านทองดังกล่าวปรกติจะมีตำรวจมาเฝ้าประจำอยู่ในร้านแต่วันเกิดเหตุ ตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลร้านทองดังกล่าวหยุด จึงเหลือเพียงเจ้าของร้านและลูกจ้าง ที่เป็นผู้หญิงคนร้ายจึงลงมือก่อเหตุได้อย่างสะดวก
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่วิทยาการได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ แต่ไม่ได้เบาะแสมากนัก เนื่องจากคนร้ายสวมหมวกกันน๊อคปิดบังใบหน้ามิดชิด และสวมถุงมือ
ในขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้าน เซเวน อีเลฟเว่น ที่อยู่ตรงข้ามร้านทอง ก็ไม่สามารถจับภาพไว้ได้เช่นกัน เนื่องช่วงเวลาเกิดเหตุมีรถยนต์มาจอดบังกล้องเอาไว้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามสี่แยกต่าง ๆ อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อตรวจสอบหาเบาะแสเส้นทางที่คนร้ายขับรถหลบหนี
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นโจรมืออาชีพ และน่าจะขับรถตระเวนดูร้านทองต่าง ๆ ก่อนที่จะเข้าปล้น เมื่อพบว่า ร้านทองเกิดเหตุมีเพียงผู้หญิงสองคนอยู่ภายในร้ายจึงเลือกลงมือก่อเหตุโดยใช้เวลาลงมือไม่เกิน 5 นาที