2 เพื่อนบ้านงง มือมืดใช้แสตมป์เซเว่นส่งจดหมายขู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (14 ส.ค.) ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ เพื่อไปพบกับนายเสริมกิจ อายุ 55 ปี อาชีพรับราชการ และนายสุริยพงษ์ อายุ 23 ปี อาชีพช่างสัก
หลังทราบว่า ทั้งคู่มีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แต่ถูกจดหมายปริศนา มีข้อความด่าทอด้วยคำหยาบคาย และขู่เตือน ซึ่งสร้างความงุนงง ให้กับบุคคลทั้งคู่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังไม่ทราบว่าจดหมายดังกล่าวผู้ใดเป็นคนส่งมา เนื่องจากที่ซองจดหมาย มีเขียนระบุแค่บ้านเลขที่ของผู้รับจดหมายเพียงเท่านั้น
จากการเข้าพบนายเสริมกิจและนายสุริยพงษ์ ได้นำจดหมายมาให้ตรวจสอบ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 3 ฉบับ โดยนายเสริมกิจได้รับ 2 ฉบับ และนายสุริยพงษ์ได้รับ 1 ฉบับ ภายในจดหมายทั้ง 3 ฉบับนี้ จะมีการใช้กระดาษ การเขียนด้วยปากกาหมึกสีดำ รวมถึงลายมือในการเขียนเหมือนกันทั้งหมด
อีกทั้ง ภายในข้อความที่เขียน จะมีแต่ถ้อยคำหยาบคายและการกล่าวเตือนสั่งสอนไปในทำนองว่าอย่างสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในหมู่บ้านแบบเดียวกันด้วย โดยทั้งคู่ต่างได้รับต่างได้รับจดหมายพร้อมกับจากไปรษณีย์มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา และพบว่ามีซองจดหมายฉบับหนึ่ง ใช้แสตมป์ของเซเว่นแทนแสตมป์ไปรษณีย์ไทยด้วย
นายเสริมกิจ เปิดเผยว่า ตนยังรู้สึกงงอยู่เหมือนกัน ที่จู่ๆ ก็ได้รับจดหมายเขียนต่อว่า ทำตัวใหญ่โตคับซอยไม่เกรงใจคนในหมู่บ้าน รวมถึงให้ทำตัวเสียใหม่ ระวังจะตายโหงแล้วจะเดือดร้อนถึงพ่อแม่ ซึ่งตนขอยืนยันเลยว่า ซื้อบ้านหลังนี้อยู่อาศัยมานานกว่า 20 ปี ไม่เคยมีปัญหาหรือไปสร้างความเดือดร้อนใดๆ ให้กับเพื่อนบ้านเลยสักครั้ง
อีกทั้ง ตนยังเป็นผู้พิการทางขาด้วย ไม่สามารถทำได้ตามแบบที่จดหมายเขียนกล่าวหาทำนองว่าตนเล่นส่งเสียงได้อย่างแน่นอน ส่วนจดหมายตนนั่งอ่านอย่างละเอียดหลายรอบแล้ว รู้สึกว่าจดหมายทั้ง 2 ฉบับที่ตนได้รับ น่าจะเป็นการเขียนต่อว่ากลุ่มวัยรุ่นนักศึกษามากกว่า เพราะมีเนื้อหาบางตอนให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แต่ตนก็แปลกใจว่ามีจดหมายแบบนี้ส่งมาที่บ้านตนได้อย่างไร เนื่องจากที่บ้านตนไม่เคยมีกลุ่มวัยรุ่นหรือนักศึกษามาพักอาศัย
ด้าน นายสุริยพงษ์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างสัก และเพิ่งจะมาเช่าบ้านอยู่อาศัยกับแฟนได้เพียง 5 วันเท่านั้น แต่ก็มาได้รับจดหมายเขียนต่อว่าหยาบคายในแบบเดียวกันกับที่นายเสริมกิจได้รับ ตนรู้สึกงงอย่างมาก พยายามเดินไล่ถามเพื่อนบ้านแทบทุกหลัง แต่ก็ไม่มีใครรับว่าเป็นเจ้าของจดหมาย อีกทั้ง เพื่อนบ้านแต่ละคนก็ไม่มีใครบอกว่า คนภายในบ้านตนแสดงพฤติกรรมตามที่จดหมายเขียนต่อว่าด้วย ตนไม่กลัวนะ แต่รู้สึกเหมือนเป็นภัยคุกคามที่มองไม่เห็น
ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา นายเสริมกิจและนายสุริยพงษ์ ได้นำจดหมายทั้ง 3 ฉบับ เดินทางมาเข้าพบกับ พ.ต.ต.พงษ์นริฐ ภัคพงค์รัตนกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ในการขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนการตรวจสอบข้อความในจดหมายทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเนื้อความในจดหมายน่าจะเป็นการขู่เตือนสั่งสอนมากกว่าที่จะเป็นภัยคุกคามต่อชีวิต
อีกทั้งจากการสอบถามบ้านเช่าที่นายสุริยพงษ์เช่าอยู่ในปัจจุบัน ทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษามาเช่าอยู่ก่อน จึงคาดว่า อาจจะเป็นการเขียนจดหมายมาต่อว่ากลุ่มวัยรุ่นนักศึกษากลุ่มดังกล่าวก็เป็นได้
เชื่อว่าจดหมายทั้ง 3 ฉบับ เป็นการส่งจดหมายทางตู้ไปรษณีย์ด้วย โดยมีการประทับตราบนซองจดหมาย ระบุวันที่ 9 สิงหาคม จึงทำให้การส่งถึงผู้รับล่าช้า ส่วนการที่นายเสริมกิจได้รับจดหมายต่อว่าด้วยนั้น ก็ยังเป็นที่น่าสงสัย อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อความสบายใจของคนทั้งคู่