สาทิตย์ ยันรื้อ สถานีเอ็นบีที ดีเดย์ผลิตข่าว-รายการ1เมย.นี้

สาทิตย์ ลั่น ปรับโฉม เอ็นบีที โปร่งใสแจงสังคมได้ ให้จับตาผังและเนื้อหาของการผลิตข่าว-รายการ 1 เม.ย.นี้ พร้อมเรียกคืนคลื่น 105 ผลิตรายการเด็ก 24 ชั่วโมง

(2มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปฏิรูปสื่อในการปรับผังรายการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที โดยฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการให้กลุ่มพันธมิตรฯ และเนชั่นทีวี เข้ารับสัมปทาน ว่า เป็นเรื่องดีที่ฝ่ายค้านติดตามเรื่องนี้ เนื่องจากมีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ขอให้ดำเนินการเสียที และตั้งแต่ตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯหยิบเรื่องนี้เข้ามาทำเรื่องแรก และนโยบายรัฐบาลในการปรับกลไกภาครัฐ เป้าหมายปรับสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 หรือ NBT เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ซึ่งจะเป็นรูปธรรมชัดเจนในวันที่ 1เม.ย. ซึ่งวันที่ 1 มี.ค. ได้มีการเริ่มต้นแล้ว เนื่องจากบริษัทรับผลิตข่าวได้ยกเลิกสัญญาการผลิตไป

" เป้าหมายการนำสถานีโทรทัศน์ NBT เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ คือ การใช้สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 NBT นำไปสู่การขับเคลื่อนการแก้ปัญหาสาระของรายการทั้งหมดมากกว่าการเปลี่ยนโล โก้ นำไปสู่การแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศ เช่นวิกฤติเศรษฐกิจ การว่างงาน รับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน ส่วนบริษัทที่จะรับผลิตรายการทางสถานีจะเป็นผู้ตัดสินใจการปรับเปลี่ยนผัง รายการประจำปีปกติจะดำเนินการวันที่ 1 เม.ย. อยู่แล้ว เพื่อตอบสนองการเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ไม่ใช่การเข้าไปฮุบเอาคนนั้น คนนี้เข้ามา อยากให้ฝ่ายค้านติดตาม พร้อมทั้งยินดีหากจะตั้งกระทู้สดถาม "นายสาทิตย์ ระบุ

รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า สำหรับการผลิตรายการจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการผลิตข่าว ในวันที่ 1 เม.ย. จะตกลงว่าชั่วโมงข่าวจะมี 7 ชั่วโมง โดยหารือกันว่าจะให้มีบริษัทผู้ร่วมผลิตรายการหรือจะแบ่งเป็นช่วงๆ ส่วนจะเปิดใครเข้ามาดำเนินการนั้นจะแบ่งในภายในวันนี้( 2มี.ค.)เพราะมีการเปิดกว้างบริษัทไหนก็มีสิทธิเสนอเข้ามาได้ทางสถานีเป็นผู้ ตัดสินใจ ส่วนผังรายการอื่นๆ มีผู้ผลิตรายการจำนวนมากเสนอเข้ามา อย่างไรก็ตามรายชื่อของผู้จัดการการที่มีชื่อนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตส.ว. เข้ามาจัดรายการนั้น ยืนยันว่า นาย เจิมศักดิ์ มีรายการ " เวทีชาวบ้าน " มีมา10 ปีแล้ว ผ่านยุค พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช และนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯสามารถตรวจสอบได้

" บุคคลอื่นผมกด็ยังไม่มีใครในใจ ต้องสอบถามทางสถานีโดยยึดเอาคุณภาพรายการที่ทางประชาชนจะได้รับ ซึ่งในวันที่ 1เม.ย.นี้ ผังใหม่ทุกอย่างเริ่มต้น เปิดตัว " สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ " สถานีวิทยุคลื่นสีขาว และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นที่จะชัดเจนในวันที่ 1 เม.ย. "นายสาทิตย์ กล่าว

นาย สาทิตย์ กล่าวว่า ที่แน่ชัดคือสถานีวิทยุ FM ของกรมประชาสัมพันธ์ในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 6 สถานีโดยจะขอกลับมาเป็นของกรมประชาสัมพันธ์ 1 คลื่น เพื่อให้เป็นสื่อสีขาว หรือคลื่นสีขาว เพื่อเด็กและเยาวชนตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นครั้งแรกในประเทศที่มีรายการดังกล่าว อาจจะไม่มีโฆษณา หรือหากมีก็จะผ่านการเลือกสรรแล้ว ส่วนจะนำคลื่นไหนมาดำเนินการนั้นทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์จะให้คำตอบ อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตว่าจะนำคลื่น 105.00 เม็กกะเฮิร์ซ ก็อาจเป็นไปได้

" ทุกสัญญาทางกรมประชาสัมพันธ์หรือรัฐบาลสามารถเรียกทบทวนได้ ส่วนคลื่นอื่นๆจะบังคับเป็นไปตามสัญญา ซึ่งส่วนใหญ่ดูแล้วผังรายการกับสัญญาจะไม่สอดคล้องกันจะประชุมคุยกันอีก ครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นการตอบคำถามว่านโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปฏิรูปกลไกรัฐ ปฏิรูปสื่อเพื่อตอบสนองประชาชนอย่างแท้จริง" นายสาทิตย์ ระบุ

เมื่อ ถามว่า จะทำอย่างไรกับเอกชนในการเรียกคลื่นคืนกลับสู่รัฐ เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า มีเหตุผลอธิบายได้ อาจจะดูจากผลตอบแทนคุณภาพรายการ และสิ่งที่กรมประชาสัมพันธ์ดูผลกระทบของภาคเอกชนหลังจากนำคลื่นกลับสู่รัฐ ซึ่งรัฐบาลจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลักด้วย ไม่เช่นนั้นจะขยับอะไรไม่ได้เลย ตนยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อ ถามว่า มีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่าเครือเนชั่นจะเข้ารับผลิตรายการ หากเป็นจริงจะเป็นการล็อคสเปกไว้หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า อยากให้ดักไว้หลายคอหน่อย ใส่มาหลายชื่อจะได้รู้ว่าได้ใคร เราก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าเพราะอะไร แต่จะไม่ปิดกั้นเพียงเพราะชื่อ " เนชั่น " เพราะจะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ต้องเปิดกว้าง เพราะขณะนี้มีกว่า 100 บริษัทที่เข้ามาเสนอรายการ ต้องยืนยันว่าตอบคำถามสังคมให้ได้

" ตัวรายการข่าวมีแนวของทางสถานีในวันที่ 1เม.ย. จะเข้าไป จะดูทั้งระเบียบและผลประโยชน์ตอบแทนในเวลาเดียวกันจะต้องดูศักยภาพของ โครงการและคนเสนอด้วย เนื่องจากบ่อยครั้งที่มีการประมูลสูงแต่เมื่อจ่ายจริงก็เป็นปัญหาของกรม ประชาสัมพันธ์ "รมต.สำนักนายกฯ กล่าวทิ้งท้าย