พ่อไม่ใช่คนลวงโลก! "แป้ง พรภัสร์ชนก" 10 กว่าปีต้องเรียกพี่แทนคำว่าพ่อ
เป็นครอบครัวคนดังที่มีเรื่องราวชีวิตอย่างกับละครวิกหมอชิต "พ่อหนูเป็นซูปเปอร์สตาร์" ที่จู่ ๆ วันหนึ่งพระเอกลิเกเงินล้านขวัญใจแม่ยก "ไชยา มิตรชัย" ก็ออกมาเปิดเผยความจริงหลังมีกระแสข่าวลือหนาหูไชยาแอบซุกลูกและเมีย จนกลายเป็นประเด็นที่สนใจถึงขั้นตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมลูกสาววัย 24 ปี "แป้ง พรภัสร์ชนก มิตรชัย"
และดูเหมือนการยอมรับความจริงของไชยาจึงทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดีและส่งผลให้ลูกสาวได้มีโอกาสเข้าวงการเต็มตัว แต่อีกมุมกับเจอกระแสโจมตีในโลกโซเชียลว่าเป็น "ครอบครัวลวงโลก" ซึ่งน้องแป้งในฐานะลูกสาวจึงขอโอกาสเปิดเผยความจริงหลังเลิกเรียนจาก วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง SCA (Superstar College of Art)
กลัวงานพ่อเสียหายไม่ต้องบอกใครว่าหนูเป็นลูก
"หลังจากที่คนรู้ว่าเป็นลูกของพ่อทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงมากค่ะ มีคนให้ความสนใจเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย เวลาออกไปไหนมันเป็นอะไรที่เกินคาดฝัน แป้งเคยคิดเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเด็กถ้าพ่อเปิดเผยเรื่องลูกเราจะทำยังไง คนจะต้องไม่ชอบเราแน่ แป้งกลัวว่ามันจะลบมากกว่าบวก แต่พอทุกอย่างเปิดกลายเป็นว่าทุกอย่างมันดีไม่มีใครโกรธพ่อแป้งเลย แต่ก็อาจจะมีบ้างเล็กน้อยสำหรับคนที่เขาไม่ชอบคิดว่าเราแต่รวม ๆ ผลที่ออกมามันดีมากกว่าแป้งก็สบายใจ"
น้องแป้งเล่าถึงความรู้สึกในใจหลังความจริงถูกเปิดเผยขึ้น และเสริมต่ออีกว่าเรื่องนี้ตอนแรกตนเองไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะกลัวผลที่ตามาจะส่งผลกระทบต่องานของพ่อ
"ก่อนน่าที่จะมีข่าวเกิดขึ้นพี่แอน (แอน มิตรชัย) เขาโทรมาหาแป้งบอกว่าถ้าเกิดพ่อเขาจะบอกนักข่าวว่าแป้งเป็นลูกแป้งจะโอเคไหม ซึ่งแป้งก็บอกกลับไปว่าหนูไม่ค่อยโอเคค่ะ เพราะหนูกลัวว่าหนูจะเป็นคนทำให้ชื่อเสียงพ่อเสียหาย พ่อกำลังมีงานเยอะและเป็นหัวหน้าครอบครัวหาเลี้ยงทุกคน แล้วถ้าเกิดเปิดเรื่องราวของเราคนไม่ยอมรับจะทำยังไง ตอนนั้นคิดแค่นั้นว่าอย่าเปิดเลย แต่สุดท้ายพ่อก็ตัดสินใจบอกพอรู้แป้งตกใจมาก รีบโทรถามพ่อว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมพ่อถึงบอก พ่อเขาก็เลยบอกว่าเอาจริง ๆ พ่อได้ปิด ซึ่งพ่อเขาก็ไม่ได้ปิดจริง ๆ ว่าหนูเป็นลูกเพราะเพื่อนในวงการบันเทิงเขาก็รู้กันหมดค่ะ"
พ่อไม่มีเวลาให้แต่ไม่เคยรู้สึกขาดความรัก
"สำหรับแป้งถ้าพูดตรงๆ เลยคือแป้งกลัวแค่ว่าจะมีคนเข้าแทนที่ของแม่เพราะว่าช่วงนั้นพ่องานและต้องเจอกับผู้คนมากมายแป้งเป็นห่วงแม่ถ้าพ่อมีคนใหม่มีลูกใหม่แล้วเราล่ะ แต่แม่เคยพูดว่าถ้าพ่อเขาจะทิ้งเราเขาทิ้งไปนานแล้วแต่เขาไม่ทิ้ง แต่เรื่องที่จะต้องมาเปิดว่าแป้งเป็นลูกไหมเรื่องนี้ไม่เคยคิดน้อยใจอะไรพ่อเลย อย่างที่บอกแป้งไม่ได้รู้สึกขาดความอบอุ่น แม้มีช่วงเวลาหนึ่งพ่อทำงานเยอะมากๆ ไม่ได้เจอพ่อเลย ความรู้สึกแป้งตอนนั้นรู้สึกว่าแม่เป็นทุกอย่างให้ลูกได้ แม่ทำให้ทุกอย่างเติมเต็มให้เราแป้งก็เลยไม่รู้สึกว่าขาดความรัก ส่วนพ่อพอเขาว่างก็โทรกลับมาหา ไปกินข้าวไปทำบุญก็ไปกับพ่อสำหรับแป้งแค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ"
อย่างไรก็ตามเมื่อ "ไชยา มิตรชัย" ออกมายอมรับความจริงหลังมีข่าวลือแอบซุกลูกเมีย แต่เสียงส่วนใหญ่มักจะเป็นการแสดงความยินดี แต่ในอีกมุมก็ถูกโจมตีว่าเป็นครอบครัวลวงโลก
"แป้งคิดว่ามันเป็นความคิดส่วนบุคคลนะ คือคนข้างนอกเขาไม่ได้มาอยู่ในครอบครัวเราเขาไม่ได้เข้าใจเราทั้งหมด ในวงการบันเทิงอาจจะบอกได้ แต่สำหรับอาชีพของลิเกมันไม่ได้จริง ๆ ยิ่งสมัยก่อนด้วยไม่ได้ก็คือไม่ได้จริง ๆ แป้งโตมาเป็นยุคที่เริ่มเปิดเผยกันมากขึ้นพ่อถึงบอกว่าเราคือลูก เพียงแต่เมื่อสิบปีก่อนมันงานแสดงลิเกมันไม่ได้จริงๆ สำหรับพ่อ และพ่อก็เคยบอกว่าถ้าเขาเอาแค่ความสุขของเขา เขาก็บอกแม่ยกได้ว่านี่ลูกผมเมียผม แต่พ่อมีหลายร้อยชีวิตที่อยู่ในคณะลิเกที่ต้องดูแล ถ้าเกิดพ่อเอาแต่ความสุขตัวเองตอนนั้นพูดบอกไปทุกอย่างก็จบคนที่เหลือไม่มีงานทำพังหมด ฉะนั้นความสุขเราก็แค่เราก็พอแล้วค่ะ"
ไม่น้อยใจต้องเรียก "พี่" แทนคำว่า "พ่อ"
"ตั้งแต่แป้งจำความได้แป้งก็ติดเรียกว่าพี่มันก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าต้องน้อยใจอะไร แต่ตอนนี้แป้งกับมีความรู้สึกแบบเดียวกับน้องแชมป์ (น้องชาย) คือบางทีก็ยังไม่ชินที่ต้องเรียกว่าพ่อ แต่เวลาอยู่ในบ้านก็เรียกพ่อตลอดนะคะ เมื่อก่อนเวลาที่อยู่นอกบ้านแป้งไม่เคยหลุดคำว่าพ่อซักคำเดียวตั้งแต่เด็ก ส่วนน้องแชมป์เขาก็เลี่ยงที่จะไม่เรียกพ่อแล้วใช้คำว่าพี่เวลาอยู่นอกบ้าน จะขึ้นด้วยประโยคที่จะคุยกันอย่าง กินข้าวยัง เป็นไงบ้าง ส่วนที่เคยไปออกรายการ ๆ แล้วแป้งเรียกว่าพี่เอนั้นแป้งคิดว่ามันคืองานอย่างเดียวก็ต้องทำออกมา แต่พอข้างหลังทีมงานเขาถามว่าใช่ลูกไหมพ่อก็บอกว่าคือลูกค่ะ"
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ