ญาติติดใจ พลทหารเสียชีวิตกะทันหัน แพทย์ระบุลิ้นหัวใจฉีกขาด
พลทหารเพิ่งออกจากค่ายฝึกกลับบ้าน จู่ๆล้มลงเสียชีวิต ญาติติดใจการตายหลังแพทย์ระบุว่าลิ้นหัวใจฉีกขาด และมีเลือดคั่งภายในจำนวนมาก
(20 ส.ค.) ญาติทำพิธีรดน้ำศพ พลทหารนพดล อายุ 21 ปี ภายในวัดโพธิ์นิมิต ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ฯ หลังจากพลทหารนพดล เกิดอาการหมดสติภายในบ้านพักอาศัย ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.คืนวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยนางมาลัยภรณ์ แม่บุญธรรม ของพลทหารรายนี้ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุตอนเช้าได้ไปรับกลับมาทำบุญพี่สาวของพลทหารที่วัดโพธิ์นิมิต ตอนเย็นก็กลับไปส่ง จนกลางดึกคืนเดียวกันได้มีทหารรุ่นพี่พาออกมาส่งและเสียชีวิตในที่สุด
ทางด้านนางสาวทิพย์ภาภรณ์ อายุ 27 ปี มีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ในวันเกิดเหตุช่วงกลางคืนน้องมากับทหารเกณฑ์อีก 2 คน ด้วยอาการปกติแล้วสตาร์ทรถจักรยานยนต์ของตัวเองที่จอดอยู่ที่บ้าน หลังจากนั้นก็เข้าไปในบ้าน และพบว่าหมดสติ โดยเพื่อนทหารที่มาด้วยกันบอกว่าพลทหารนพดล เป็นลมหรือเปล่า เนื่องจากช่วงเย็นทหารเกณฑ์ทั้งหมดถูกทำโทษทางวินัย จึงได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในที่สุด ตอนแรกก็คิดว่าหัวใจล้มเหลว แต่เมื่อฟังจากแพทย์ทราบว่าลิ้นหัวใจภายในฉีกขาดและมีเลือดคั่งภายในจำนวนมาก แม้ภายนอกจะไม่มีบาดแผล แต่ก็ทำให้ติดใจว่าอวัยวะภายในเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
ซึ่งหลังจากรดนำศพเสร็จ ทางตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ฯ จะได้นำศพส่ง ฝ่ายนิติเวช รพ.ตำรวจ ที่ กทม. เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อทำสำนวนชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจะนำผลจาก รพ.สุราษฎร์ฯและ รพ.ตำรวจ มาร่วมพิจารณาหาสาเหตุให้ความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา
ทางด้าน พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ.45 ได้สั่งการให้เจ้าตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนให้เกิดความกระจ่าง ซึ่งพบว่าในวันที่ 19 ส.ค.ญาติได้รับออกไปบ้านแล้วมาส่งในตอนเย็น และปฏิบัติภารกิจกับเพื่อนตามปกติ และทราบว่าในเย็นวันนั้นมีการทำโทษทางวินัยด้วยการยึดพื้นทั้งหมดรวม 60 คน ตามระเบียบการฝึกด้านวินัย ซึ่งท่าผ่านมาได้กำชับอย่างเด็ดขาดไม่ให้มีการทำโทษที่รุนแรง โดยพลทหารก็ถูกทำโทษเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ และสภาพร่างกายก็เป็นปกติ ก่อนเข้านอนตามปกติ จากนั้นพลทหารนพดล พร้อมเพื่อนรวม 3 คน ได้หายไปในช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มวันเดียวกัน
โดยจากการเรียกพลทหารที่หายไปด้วยกันทราบว่า ได้ซ้อนสามรถจักรยานยนต์ออกไป เพื่อเที่ยวงานบิ๊กไบค์ที่อำเภอท่าชนะ แต่ไปเอารถจักรยานยนต์อีกคันที่บ้านของพลหารนพดล จากนั้นก็ได้สตาร์ทเครื่องรถอยู่นานแต่ก็ไม่ติด จนพบสาเหตุว่าน้ำมันหมด เมื่อสตาร์ทติดก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จนเพื่อนและญาติเข้าไปพบนอนตะแคงอยู่ภายในบ้าน จึงนำไปส่ง รพ.และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้สอบสวนให้รอบด้านไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออก ให้เกิดความเป็นธรรมตามข้อเท็จจริง และได้สั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ญาติได้สบายใจ และดำเนินสอบสวนเพิ่มหลังได้รับผลจากแพทย์อย่างเป็นทางการ
สำหรับพลทหารนพดล เป็นบุตรบุญธรรมของนางมาลัยภรณ์ ที่ได้ไปขอลูกของญาติมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ก่อนจะได้ลูกสาวแท้ๆ อีก 1 คน มีความผูกพันและรักมาก จึงอยากขอความเป็นธรรมและให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนให้ความจริงกระจ่างโดยเร็ว ส่วนพิธีบำเพ็ญกุศลศพก็จะดำเนินการสวดอภิธรรมศพต่อหน้ารูปถ่ายลูกไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ชันสูตรให้ละเอียด แล้วค่อยบำเพ็ญกุศลศพจริงเมื่อศพชันสูตรเสร็จ