ฟังทุกมุม! ญาติร้องตำรวจถีบจยย.หนุ่ม 15 ล้มข้างถนน อาการโคม่า

(21 ส.ค.60) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่วิ่งด้วยความเร็ว ตีคู่กับรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา ก่อนที่รถของเด็กจะพุ่งลงข้างทาง จำนวน 3 คลิป โดยมีการระบุข้อความว่า

“ออมมาดูกล้องเเล้วนะครับ สรุปว่าตำรวจอาสาถีบละก็อยากจะถามพวกคุณว่าถีบเพื่ออะไร เด็กตัวเเค่นี้ ทำเกินกว่าเหตุไปป่าว คุณมาลองเป็นเพื่อนผมมั้ย ว่ามันเป็นไง ตำรวจอาสานิสัยใช้ไม่ได้ มันขี่รถมาบ้านผมเเท้ๆ ละมันก็ในซอยป่าวว่ะ ละมันก็ไม่ได้ไปทำไรให้คุณเลย ละคุณมาทำกะเพื่อนผมเเบบนี้อ่ะเหรอ ยอมใจเลยครับ  อาสา ตร. ลงมาดูก็ไม่ลง เพื่อนผมกลับมาจากร้านเกมเพื่อจะมาบ้านผมเเท้ๆ เรื่องนี้ผมไม่ยอมเเน่ และผมขอให้เป็น พวกลูกคุณมั่งนะ เเล้วเจอได้เจอกัน #ช่วยเเชร์ ด้วยนะครับ”

หลังจากเรื่องราวได้ถูกแชร์กันต่อๆไปเป็นวงกว้าง จนเพจดังหลายๆ เพจได้นำไปตีแพร่ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมากโดยส่วนใหญ่ต่างตั้งคำถามว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เจ้าตัวเผยโดนเฟซบุ๊กลึกลับข่มขู่ให้ลบคลิปออก แต่ตนและญาติยืนยันที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับ นายอ๊อฟ อายุ 15 ปี ผู้ประสบเหตุ

ล่าสุดนางลัดดา อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นยายของนายอ๊อฟ อายุ 15 ปี พร้อมด้วยญาติกว่า 10 คน ได้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนฝากถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องออฟซึ่งตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลโดยยังมีอาการน่าเป็นห่วงและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีตลอด 24 ชม. จากอาการเลือดคั่งในสมอง มีอาการช้ำในอาเจียนเป็นเลือดอยู่ตลอดเวลา และตามร่างกายโดยเฉาะที่ใบหน้ามีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง

นางลัดดา กล่าวว่า น้องอ๊อฟ เป็นเด็กเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ขยันทำงาน ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ ชอบหางานทำหารายได้พิเศษ และไปช่วยเหลืองานที่บ้านของแฟนจนเป็นที่รักของครอบครัวทางแฟนสาว โดยวันเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. น้องอ๊อฟได้บอกกับคนที่บ้านไว้ว่าจะออกไปบ้านแฟน ซึ่งอยู่ที่หลังที่ทำการกองประปาเทศบาลเมืองราชบุรี เพื่อช่วยงานที่บ้านของแฟนสาว และจะเดินทางกลับบ้านในช่วงเวลา 23.15 น. ซึ่งเป็นเวลาปกติที่น้องอ๊อฟจะต้องขี่รถจักรยานยนต์ กลับมาที่บ้านพักซึ่งเป็นบ้านของ นางภัคนันท์ แม่บุญธรรม โดยทางแฟนสาวและแม่ได้โทรศัพท์ติดต่อตลอดทางเนื่องจากเป็นห่วงเพราะต้องเดินทางคนเดียว จนมาเกิดเหตุดังกล่าว ตนเองก็รู้สึกช็อกทำอะไรไม่ถูกได้แต่ห่วงและรีบไปพาน้องอ๊อฟไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลราชบุรีทันที แต่เมื่อแพทย์ได้นำตัวเข้าห้องฉุกเฉินและวินิจฉัยว่าอาการน่าเป็นห่วง เพราะมีเลือดคั่งในสมอง อีกทั้งยังทีอาการช้ำในต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด

แต่ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นยังไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้ามาแสดงความรับผิดชอบ หรือ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งจากภาพในกล้องวงจรปิดก็บันทึกภาพได้อย่างชัดเจนว่ามีตำรวจวิ่งตามมาและมีการเลี้ยวรถหลังจากที่เกิดเหตุไม่ลงมาดูคนเจ็บแม้แต่น้อย ซึ่งตนได้เข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันเดียวกัน โดยตอนแรกเข้าไปแจ้งความว่านายอ๊อฟได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามเส้นทางพอถึงที่เกิดเหตุรถได้เสียหลักล้มลงทำให้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชบุรี จึงมาแจ้งความไว้เพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งตอนที่ได้แจ้งความตนและสามียังไม่เห็นกล้องวงจรปิดแต่อย่างไร แต่เมื่อมาเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดจึงรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ ตนจึงอยากขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย

ขณะที่นายออม ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์คลิป ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนได้เข้าไปดูกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุซึ่งตรงกับวันที่ 20 ส.ค.60 เวลาประมาณ 00.35 น. ตามเวลาจากกล้องวงจรปิด ซึ่งจากภาพจะเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วทั้ง 2 คัน จู่ๆ รถจักรยานยนต์ของนายอ๊อฟ ได้เสียหลักและไถลพุ่งลงข้างทางผ่าทะลุช่องระหว่างเสาไฟข้างทาง แต่ร่างของอ๊อฟได้กระเด็นไปคนละทางกับรถจักรยานยนต์ ไปนอนสลบคว่ำหน้าห่างไปประมาณ 100 เมตรนอนจมกองเลือด และรถจักรยานยนต์อีกคันได้วิ่งหายไปด้วยความเร็วสูง

จากนั้นได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมหนึ่ง ปรากฏว่าเห็นรถจักรยายนต์คันดังกล่าวเป็นตำรวจคาดว่าจะเป็นตำรวจอาสาวิ่งผ่านไปและไปเลี้ยวหันรถกลับมาทางเดิมเพื่อมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองราชบุรี และไม่มีการลงมาดูอ๊อฟซึ่งนอนจมกองเลือดหมดสติอยู่ที่พื้นในที่เกิดเหตุแต่อย่างไร ตนจึงได้นำคลิปและเรื่องราวดังกล่าวโพสต์ถามถึงความถูกต้อง

ด้านนายเล็ก (นามสมมุติ) วัย 15 ปี เพื่อนของนายอ๊อฟ ออกมาเปิดเผยว่า ในคืนเกิดเหตุตนและเพื่ออีก 3 ราย ซึ่งได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเจอกับนายอ๊อฟที่บริเวณแยกที่พักสายตรวจตำรวจหลุมดิน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 -  5 กิโลเมตร และตนเองได้ตะโกนสอบถามอ๊อฟว่าจะไปไหน นายอ๊อฟตอบกลับพวกตนว่ากำลังจะกลับไปที่บ้านพัก ตนเองก็เลยบอกกลับไปว่างั้นไปที่เดียวกันเพราะจะไปทานข้าวกัน ตนและนายอ๊อฟจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามๆ กันไป รวมแล้วจำนวน 3 คัน แต่จู่ๆ ตนเกิดปวดปัสสาวะจึงได้บอกเพื่อนอีกคันที่วิ่งตามมาจอดข้างทางก่อนและลงไปทำธุระที่ป่าข้างทาง โดยที่นายอ๊อฟได้ขับขี่ล่วงหน้าไปก่อน

จากนั้นตนได้ขับขี่ตามหลังไป ขณะเดียวกันได้มีรถจักรยานยนต์ของตำรวจขับขี่แซงไปและไล่กวดรถจักรยานยนต์ของนายอ๊อฟซึ่งนายอ๊อฟเกิดความตกใจจึงได้บิดรถเร่งเครื่องหนีไปเพราะคิดว่าเกรงจะได้รับอันตรายและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่จึงได้รีบบิดหนีไปด้วยความเร็ว โดยที่ตนกับพวก ทั้ง 4 คนเข้าใจดีว่าเป็นตนเองเมื่อเจอรถตำรวจวิ่งไล่ตามในยามค่ำคืนแบบนี้ก็ต้องรีบหนีไปหาจุดที่มีคนอยู่จำนวนมากเพื่อความปลอดภัย

นายเล็ก(นามสมมุติ) เล่าต่อว่าเมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้งและใกล้ที่จะถึงซอยเข้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่วิ่งมา ได้ไล่กวดรถของนายอ๊อฟทัน โดยนายอ๊อฟได้ขับอยู่ด้านซ้ายติดกับเส้นริมถนน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายขับประกบด้านขวาจากนั้นใช้เท้าซ้ายถีบที่บริเวณด้านขวาช่วงท้ายของตัวรถ ทำให้รถของนายอ๊อฟเสียหลักไถลตกข้างทางตามภาพที่ปรากฏในคลิป ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลยไปแล้วหันหัวรถกลับมาและผ่านพวกตนวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองราชบุรีไปอย่างรวดเร็ว ตนและเพื่อนที่มาด้วยกันได้รีบเข้าไปดูนายอ๊อฟทันทีและได้เข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่อาสาและเจ้าหน้าที่ภายในเทศบาลตำบลหลุมดินเพื่อเข้ามาช่วยเหลือพร้อมนำตัวนายอ๊อฟส่งโรงพยาบาลทันที ซึ่งตนเองและเพื่อนต่างๆยืนยันว่าเห็นตำรวจทั้งสองนายใช้เถ้าถีบรถของนายอ๊อฟจนเสียหลักตกข้างทางจริงๆ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับเพื่อนของตนเองด้วย

ขณะที่เมื่อ เวลา 19.29 น. (20 ส.ค.) เฟซบุ๊ก ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. ได้ออกมาโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า

“ขอชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถีบรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดย สภ.เมืองราชบุรี ได้ชี้แจ้งผ่านศูนย์โซเชียลฯ ดังนี้

พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ชี้แจงว่าในวันที่ 16 ส.ค.60 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบเบาะแสว่ามีรถยนต์เปิดไฟสูงและมีลักษณะเหมือนการขับขี่เพื่อชิงทรัพย์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจบริเวณ ถ.เส้นทางห้วยไผ่-ค่ายบุรฉัตร กำลังสายตรวจประกอบด้วยรถยนต์สายตรวจโดยได้เปิดไฟวับวาบตลอดเส้นทาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาซึ่งได้ขับขี่ จยย. ติดตามไป

ต่อมาในวันที่ 20 ส.ค.60 เวลาประมาณ 01.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกตรวจเพื่อดูแลความเรียบร้อยเช่นเดิม โดยในระหว่างเดินทางกลับได้พบวัยรุ่นขับขี่ จยย. เป็นกลุ่มซึ่งมีคู่กรณีอยู่ในกลุ่มดังกล่าว ขับขี่สวนทางมา แต่ว่า จยย. ที่ปรากฎในคลิปได้ขับขี่อย่างรวดเร็วและแยกออกจากกลุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตว่าผิดปกติ และขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาจึงได้ขับขี่ จยย. ไล่ตาม ระหว่างติดตามได้มาถึงทางโค้ง(จุดเกิดเหตุก่อนรถ จยย. จะล้ม) ซึ่งผู้ขับขี่ จยย. ในคลิปได้หันมามองเจ้าหน้าที่และได้เสียหลักตกถนนตามที่ปรากฏในคลิป หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้โทรเรียกหน่วยช่วยเหลือเพื่อพาส่งโรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งไม่ได้ช่วยเหลือด้วยตนเองเนื่องจากไม่มีความรู้ในการปฐมพยาบาลและให้ผู้เชี่ยวชาญทำการช่วยเหลือ

ทั้งนี้ทาง พ.ต.อ.อภิชาตฯ ได้ทราบเรื่องและได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ซึ่งได้มีการรับคำร้องทุกข์คดีจราจรที่ 205/60 และญาติผู้บาดเจ็บได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว โดย พ.ต.อ.อภิชาตฯ จะดำเนินการสืบสวนข้อมูลเพิ่มเติมและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป