ย้อนดู 5 คดีแก้เผ็ดคนโกง อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ สำหรับสังคมสมัยใหม่ที่ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะรุดหน้าไปไกลแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งคนทุจริตคนโกงหรือมิจฉาชีพที่จ้องจะเอาเปรียบคนทำมาหากินอย่างสุจริตชนได้ และพวกมิจฉาชีพเหล่านี้จะพยายามหากลวิธีใหม่ๆเพื่อที่จะเอาเปรียบหรือแม้กระทั่งโกงกันแบบหน้าตาเฉยก็มี
ซึ่งปัจจุบันนี้มีกลวิธีโกงอะไรบ้างที่เหล่าสุจริตชนอย่างเราควรระวัง เพื่อให้รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงพวกนี้ และที่สำคัญต้องแก้เผ็ดเสียให้เข็ดหลาบเพื่อไม่ให้พวกมิจฉาชีพเหล่านี้ไปเอาเปรียบใครได้อีก ตามไปดูวิธีแก้เผ็ดกลโกง อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
คดีแรกตามไปดูช่างเสริมสวยถูกลูกค้าโกงเงิน แล้วแก้เผ็ดแบบสะใจชาวเน็ต
เหตุการณ์นี้เจ้าของร้านโบว์ซาลอน ใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้แฉพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้กับร้านเสริมสวยอื่นๆ โดยหลังจากที่ลูกค้าสาวท่านหนึ่งได้มาใช้บริการที่ร้าน ตั้งแต่ถอดผมต่อทั้งหัว ต่อผมใหม่ ทำสีผมทั้งส่วนจริงและส่วนที่ต่อใหม่ ทำเล็บตัดหนัง ต่อเล็บอะคริลิค ทาเล็บสีเจล ต่อขนตา 600 บาท
และซื้อต่างหูของร้าน รวมเป็นเงินทั้งหมด 9,070 บาท ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง จนไม่ได้รับลูกค้ารายอื่น แต่เมื่อถึงเวลาคิดเงินลูกค้าสาวกลับให้มาแค่ 2,000 บาท เหลือค้างจ่ายอีก 7,070 บาท ก่อนจะชิ่งหนีไปหน้าตาเฉย ทางเจ้าของร้านจึงได้ไปแจ้งความและสามารถตามจับตัวมาได้ที่สุด แต่ลูกค้าสาวรายนี้กลับไม่มีเงินจ่าย
เจ้าของร้านจึงใช้วิธีการที่คาดไม่ถึง ด้วยการเอาสิ่งที่ให้บริการกับหญิงรายนี้ไปคืนทั้งหมด โดยถอดผมต่อคืน ตัดเล็บและขนตาที่ต่อให้ออก พร้อมโกรกผมสีดำที่โรงพักกันเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าเจ้าของร้านจะขาดทุนเสียเงิน เสียเวลา และเหนื่อยเพิ่ม แต่ก็อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจร้านเสริมสวยอื่น ที่สำคัญลูกค้าสาวรายนี้คงจะเข็ดหลาบและคงไม่กล้าไปทำแบบนี้กับใครอีก
คดีที่สองล่อจับกะเทยในตำนาน แอบอ้างเชิดเงินเหยื่อไปแปลงเพศ
คดีนี้เรียกได้ว่าโกงเพื่อสนองกิเลสตนเองล้วนๆ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อผู้เสียหายได้ล่อจับกะเทยที่แฝงตัวเข้ามาในกลุ่มซื้อขายโทรศัพท์มือถือทางเฟซบุ๊ก
โดยอ้างว่าเป็นแอดมินเพจแล้วให้สมาชิกผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีตนเองเพื่อเป็นตัวกลางในการซื้อขายโทรศัพท์มือสอง และยังหลอกให้ผู้ขายส่งโทรศัพท์มาฝากไว้ที่ตนเองอีกด้วย เรียกได้ว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
ก่อนจะเชิดเงินหนีจนทำให้มีผู้เสียหายกว่า 10 คน รวมมูลค่าเสียหายในเบื้องต้นกว่า 300,000 บาท ทางแอดมินเพจตัวจริงจึงได้ซ้อนแผนตามจับกันเองและถ่ายคลิปวิดีเป็นหลักฐานก่อนส่งตัวดำเนินคดี เพื่อไม่ให้คนร้ายไปก่อเหตุซ้ำอีก
ด้านผู้ต้องรับสารภาพว่าทำจริง เพราะคิดว่าทำง่ายได้เงินดี โดยจะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่และนำไปศัลยกรรมจมูก แปลงเพศ นอกจากนี้จากประวัติว่า พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อยมาโดยตลอด จนชาวบ้านตั้งฉายาให้ว่าเป็นกะเทยในตำนาน
คดีต่อมาตามไปดูกลโกงออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่ง แม่ค้าออนไลน์ซ้อนแผนจับโจร
คดีนี้เป็นเหตุการณ์ที่แม่ค้าออนไลน์สุดทนรวมตัวกันจับลูกค้าสาวแสบโกงสินค้าออนไลน์แบบหน้ามึนจริงๆ โดยลูกค้าสาวแสบใช้วิธีสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากแม่ค้าจำนวนหลายรายการ จากนั้นก็ชำระเงินด้วยการโอนเข้าบัญชีธนาคารและถ่ายสลิปการโอนเงินส่งให้กับแม่ค้าออนไลน์ตามแบบปกติทั่วไป
แต่หลังจากที่มีการสั่งสินค้าอยู่หลายครั้ง แม่ค้ากลับพบข้อพิรุธจนจับได้ว่าสลิปโอนเงินที่สาวแสบถ่ายรูปส่งมานั้นเป็นการปลอมแปลงขึ้นมา
กลุ่มแม่ค้าออนไลน์จึงซ้อนแผนจับสาวแสบรายนี้ด้วยการส่งสินค้าไปตามปกติ จากนั้นได้แอบพากันไปดักซุ่มจับตัวสาวแสบรายนี้ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้และตะครุบตัวคุมตัวส่งตำรวจ โดยสาวแสบให้การปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ยอมรับผิดและร้องไห้เสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น
เจอการแก้เผ็ดซ้อนแผนจับโจรแบบตัวถึงตัวหวังว่าเหตุการณ์นี้สาวแสบจะจำไปจนตายและไม่คิดจะไปหลอกลวงใครอีก
คดีที่สี่หลอกขายทองราคาโปรโมชั่น ถูกตอกกลับหน้าหงาย
ยังคงเป็นภัยออนไลน์ต่อเนื่องเมื่อห้างทองชื่อดังในจังหวัดสงขลาได้โพสต์ข้อความเตือนกลโกงมิจฉาชีพหลอกขายทองราคาโปรโมชั่นที่ลดราคาถึง 50%
ซึ่งวิธีการของสิบแปดมงกุฎรายนี้คือปลอมเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่โดยใช้รูปและชื่อของร้านไปหลอกเหยื่อว่าทางร้านจัดโปรโมชั่นลดราคาทองรูปพรรณถึง 50% แต่มีข้อแม้ว่าลดเฉพาะวันนี้วันเดียวเท่านั้น และหลอกว่าร้านปิดให้ซื้อผ่านเฟซบุ๊กเท่านั้น
จากนั้นพอเหยื่อติดเบ็ดก็จะหลอกให้เหยื่อโอนตังค์หรือให้ซื้อบัตรเติมเงินแล้วถ่ายรูปเลขบัตรส่งมาให้ พอได้เงินแล้วก็บอกให้เหยื่อไปรับทองที่หน้าร้านทองที่สิบแปดมงกุฎทำเพจปลอมขึ้นมาเพื่อสร้างความหน้าเชื่อถือ ซึ่งก็มีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปหลายราย
แต่มีบางคนรู้ทันกลโกงของมิจฉาชีพรายนี้จึงแก้เผ็ดด้วยการแสร้งทำเป็นตกหลุมพรางและหลอกล่อมิจฉาชีพให้เผยรูปแบบวิธีการต้มตุ๋น จนรู้ว่าต้องโอนเงินหรือถ่ายรูปเลขบัตรเติมเงิน
หลังจากนั้นก็เอาคืนด้วยวิธีการที่แสนจะเจ็บปวดโดยการถ่ายรูปเท้าไปให้ สิบแปดมงกุฎแทนเลขบัตรเติมเงินพร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ เจอแบบนี้เข้าไปหวังว่าเจ้าโจรรายนี้จะรู้สึกเจ็บแค้นเหมือนเหยื่อที่โดนหลอกบ้าง
คดีสุดท้ายสองพี่น้องมิจฉาชีพตีเนียนปลอมลอตเตอรี่หลอกขึ้นเงินแม่ค้า
ยังมีให้เห็นกันต่อเนื่องสำหรับกลโกงเก่าๆที่มิจฉาชีพใช้ในการหลอกขึ้นเงินแม่ค้าลอตเตอรี่ อย่างเช่นสองพี่น้องมิจฉาชีพรายนี้ที่ตระเวนหลอกนำลอตเตอรี่ปลอมที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินกับแม่ค้าสลาก แต่โชคดีเอะใจจึงพูดว่าจะใช้น้ำยาตรวจสอบสองคนร้ายได้ยินจึงตกใจรีบชิ่งหนีสุดท้ายไปไม่รอดถูกจับในที่สุด
ทีนี้มาดูรูปแบบการโกงคือมิจฉาชีพจะแต่งตัวดูภูมิฐานใส่ทองเส้นโตเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะนำลอตเตอรี่ปลอมทำเหมือนที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินกับแม้ค้า โดยลอตเตอรี่ปลอมทำเหมือนนั้นจะสามารถตรวจสอบได้ยากมาก หากดูด้วยตาเปล่าหรือจับดูก็จะไม่รู้ ต้องใช้น้ำยาตรวจดูเท่านั้น
โดยจะนำเอาสลากเลขท้าย 3 ตัว มาแก้ไขตัวเลข โดยขูดเลขที่ผิดและเป็นเลขใกล้เคียงกับเลขที่ถูก ก่อนจะตัดต่อแล้วแปะติดเข้าไปจนเนียนไม่มีร่องรอยให้เห็น
อย่างเช่น หมายเลขที่นำมาขึ้นเงินเป็นหมายเลข 952025 ก็จะแก้เป็น 952925 โดยแก้ไขตัวเลขจาก 0 เป็น 9 ขณะที่อีกชุดสลากหมายเลข 302153 ก็จะแก้เป็น 302158 ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีลักษณะคล้ายกัน เพื่อง่ายต่อการปลอมแปลง
กลโกงจากคนโกงย่อมหาวิธีโกงหรือรูปบแบบใหม่ๆมาหลอกลวงคนทำงานอย่างสุจริตชนอยู่เสมอ การรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงย่อมเป็นประโยชน์และจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อกลโกงเหล่านี้ ที่สำคัญหากพบเจอพวกมิจฉาชีพต้องช่วยกันจับและเผยแพร่กลโกงให้สังคมได้รับรู้ เพื่อสังคมไทยจะได้น่าอยู่ขึ้นหากไม่มีคนชั่วลอยนวล