มะกันเผยเองมี คุกลับ ในสนามบินไทย! ใช้ทรมานผู้ก่อการร้าย
ผบ.ทบ.ใช้เก้าอี้เป็นประกัน ลั่นไทยไม่มีคุกลับล้านเปอร์เซ็นต์ "อภิสิทธิ์"รีบเดินหนี ไม่ตอบคำถาม "สุเทพ"เชื่อเป็นไปไม่ได้ หลังมีข่าวอัยการสหรัฐแฉเป็นครั้งแรกมีคุกลับในไทย ใช้ทรมานนักโทษคดีก่อการร้าย ขณะที่ซีไอเอสั่งทำลายเทปลับ 96 ม้วนที่เก็บไว้ในเมืองไทยก่อนหน้านี้
ผบ.ทบ.ใช้เก้าอี้เป็นประกัน ลั่นไทยไม่มีคุกลับล้าน %
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ถึงกรณีที่อัยการสหรัฐอเมริการะบุว่า ประเทศไทยมีคุกลับ ที่ซีไอเอตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนกลุ่มผู้ก่อการร้ายว่า ยืนยันว่าไม่มีคุกดังกล่าวในประเทศไทย กองทัพบกยืนยันว่าไม่มีล้านเปอร์เซ็นต์ ขอเอาตำแหน่งตนเป็นประกัน เพราะอุดรธานีไม่มีที่ลับตรงไหน ส่วนการจะดำเนินการอย่างไรนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาล คงไม่ใช่ตน
ด้านพ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ข่าวนี้เป็นเพียงข่าวเก่า ยืนยันว่า ไทยไม่มีคุกลับ จ.อุดรธานี เพราะไม่มีความจำเป็นใดๆ คงเป็นเพียงการผูกโยงเรื่อง เพราะสนามบินอุดรธานีเคยเป็นสนามบินที่สหรัฐอเมริกาใช้ในสมัยสงครามเวียดนาม อย่างไรก็ตาม สนามบินที่อุดรธานีในปัจจุบันเป็นสโมสรกองทัพอากาศ บางครั้งมีการขึ้นบินของกองทัพอากาศบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีเครื่องบินของสหรัฐมาบินลงในสนามบินดังกล่าวแล้ว ตลอดจนมีการถอดเครื่องอเนกประสงค์ต่างๆของกองทัพสหรัฐฯ ออกไปจากสนามบินหมดแล้ว
"เชื่อว่า เหตุที่ปล่อยข่าวออกมาในช่วงนี้ คงเป็นเพียง เพราะต้องการปลุกกระแสโอบามาเท่านั้น เป็นการพยายามเสนอข่าวเพื่อโยงเกี่ยวกับการปิดคุกกวนตานาโม ดังนั้น ยืนยันว่า ข่าวไม่เป็นความจริง เพราะนโยบายของกองทัพและรัฐบาล ไม่มีเรื่องคุกลับในประเทศไทย ทั้งนี้รมว.กลาโหมไม่ได้สั่งให้ตรวจสอบอะไรเป็นพิเศษ เพราะไม่มีมูลความจริง และมั่นใจว่า กระแสข่าวที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเพราะข่าวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง" โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
"อภิสิทธิ์"รีบเดินหนีขึ้นรถ ถูกถามถึง"คุกลับ"มะกันในไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์เมื่อถูกถามกรณีหนังสือพิมพ์บางกอกอโพสต์นำเสนอข่าวประเทศไทยมีคุกลับสำหรับใช้คุมขังผู้ก่อการร้ายสากล โดยได้รีบเดินหนีไปขึ้นรถทันที
"สุเทพ"ปัดไม่รู้มี"คุกลับ"ในเมืองไทย เชื่อเป็นไปไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยใช้เวลาหารือประมาณ 30 นาที จากนั้นนายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า การหารือครั้งนี้ ไม่มีการพูดคุยถึงข่าวมีคุกลับในประเทศไทย ทั้งนี้ ตนไม่เคยได้ข่าวในเรื่องนี้และไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่จะพยายามสืบสวนสอบสวน ส่วนที่มีข่าวว่ามีคุกลับที่ จ.อุดรธานีนั้น ตนไม่ทราบ เพราะช่วงนั้นตนเองไม่ได้เป็นรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เราเป็นประเทศประชาธิปไตย ยึดมั่นในหลักนิติรัฐในการปกครอง ฉะนั้นอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกระบวนการก็คงไม่สนับสนุน
อัยการสหรัฐแฉไทยซุกคุกลับซีไอเอ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 มี.ค.นายอีริก โฮลเดอร์ อัยการสหรัฐได้ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า มีคุกลับในเมืองไทยซึ่งได้มีการนำผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายมาสอบปากคำด้วยวิธีทรมาน โดยในการขึ้นศาลกรุงนิวยอร์ก ของหน่วยงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ตามคำร้องของสหภาพเสรีภาพอเมริกัน ที่ยื่นฟ้องซีไอเอว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย นายโฮลเดอร์ได้เปิดเผยว่า ได้มีการทำลายเทปลับการทรมานนักโทษจำนวน 92 ม้วนที่เก็บไว้ในเมืองไทย ตามคำสั่งของนายโจเซ่ โรดิเกวซ ผู้อำนวยการซีไอเอในขณะนั้น พร้อมทั้งระบุว่า มีการทรมานนักโทษด้วยการจับกรอกน้ำด้วย
ขณะที่รายงานระบุว่า เทปดังกล่าวเกี่ยวกับการทรมานนายอาบู ซูเบย์ดาห์ และนายอับเดอร์ อัล ราฮิม อัล นาชิรี และได้ถูกทำลาย ขณะที่สภาคองเกรสสหรัฐและศาลกำลังเพิ่มการตรวจสอบต่อโครงการสอบปากคำและการกักขังผู้ต้องหาของซีไอเอเพิ่มขึ้น ขณะที่สหภาพฯยังได้ขอให้ผู้พิพากษาศาลกรุงนิวยอร์ก ดำเนินคดีต่อซีไอเอฐานหมิ่นประมาทศาล ต่อกรณีทำลายเทปหลักฐานด้วย
รายงานระบุว่า เมื่อเดือนพ.ย.2005 หนังสือพิมพ์"วอชิงตัน โพสต์"และ"สถานีโทรทัศน์เอบีซี"ได้รายงานข่าวกล่าวหาว่า ซีไอเอได้นำผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายหลายคนมายังไทย คือนายอาบู ซูเบย์ดาห์ ซึ่งถูกจับได้ในปากีสถาน และนายอับเดอร์ อัล ราฮิม อัล นาชิรี ซึ่งถูกจับได้ในสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ พร้อมทั้งรายงานว่า สหรัฐมีคุกลับในเมืองไทย ซึ่งวิธีการสอบปากคำคนเหล่านี้ละเมิดต่ออนุสัญญาเจนีวา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางการไทยได้ปฎิเสธได้รีบออกมาปฎิเสธรายงานกล่าวหาดังกล่าว โดย พลเอกเรืองโรจน์ มหาศาลานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้สัมภาษณ์กับ"ABC"นิวส์ ว่า รายงานดังกล่าวเป็นเพียงนิยายและข้อกล่าวหาเกินจริง
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศได้ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไทยไม่เคยมีคุกลับของซีไอเอดังกล่าว ขณะที่หน่วยงานกิจการพลเรือนกองทัพอากาศ กล่าวว่า หน่วยไม่เคยอนุญาตให้หน่วยงานต่างประเทศใช้ฐานทัพอากาศปฎิบัติการลับใด ๆ จะมีก็พียงปฎิบัติการซ้อมรบเท่านั้น นอกจากนี้ กองทัพอากาศยังตั้งคำถามถึงความเชื่อถือของแหล่งข่าวของเอบีซีที่กล่าวหาว่าไทยมีคุกลับของซีไอเอ พร้อมทั้งได้เชิญให้สื่อมวลชนไทยเข้าไปตรวจสอบฐานทัพอากาศ เพื่อพิสูจน์ข้อหาดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์"ABC"ระบุในรายงานเมื่อปี 2005 ว่า นายซูเบย์ดาห์ถูกควบคุมตัวในเมืองไทย ในโรงเก็บของในฐานทัพแห่งหนึ่ง เขาถูกทรมานโดยมีบาดเจ็บคุกคามถึงชีวิต ถูกจับขังในคุกเย็น และถูกทรมานด้วยวิธีใส่หน้ากากคลุมศีรษะและจับกรอกน้ำ จนกระทั่งเขาขอร้องให้ยุติทรมาน และเริ่มให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ซีไอเอ อย่างไรก้ตาม ณ ปัจจุบัน นายซูเบย์ดาห์ ยังไม่ได้รับการตั้งข้อหาใด ๆ และยังคงถูกยังอยู่ในเรือนจำกวนตานาโมในคิวบา