หมูบิน ดอดมอบตัว ผบช.ภ.3 ปล่อย ผบช.น. รอเก้อ
ผบช.น. รอเก้อ หมูบิน ดอดมอบตัว ผบช.ภ.3 กลางดึกหวั่นไม่ปลอดภัย ยันตัวเองไม่ผิดแค่ดูต้นทาง-ปัดไม่ได้ลั่นไก ใส่ตำรวจเบิกทางหนีตามข่าว เตรียมส่งตัวกลับ นครบาล สอบสวนดำเนินคดีขยายผลเพื่อนร่วมขบวนการ ด้านสุพรรษา อดีตนางเอกชื่อดังโดนแก๊ง ไอ้หมูบิน ยกเค้ากว่า2ล้าน
(5มี.ค.) เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายหทัย ไชยวัณณ์ นักแข่งรถชื่อดังเจ้าของฉายา หมูบิน ได้ดอดเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีความสนิทสนมกับ พล.ต.ท.กฤษฎา เป็นการส่วนตัวในฐานะคนในวงการรถแข่งด้วยกัน อีกทั้งยังเชื่อมั่นในความปลอดภัยโดยให้เหตุผลว่าหากเข้ามอบตัวกับตำรวจนครบาลตามที่นัดหมายไว้ในเวลา 13.00 น.นั้นจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ปลอดภัย
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า หลังผู้ต้องหาถูกจับกุมมีเจ้าทุกข์ที่เสียหายเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนแล้วประมาณ 10 รายภายหลังมีข่าวเผยแพร่ออกไปและเชื่อว่า จะมีเข้ามาชี้ตัวยืนยันเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ส่วนการเข้ามอบตัวของ หมูบิน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นั้นเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ และถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหาตามที่พนักงานสอบสวนได้ตั้งไว้ภายหลังพิจารณาแล้วพบว่า นายหทัย ได้ต่อสู้ขัดขืนการจับกุมเจ้าพนักงาน และพยายามฆ่าด้วย เพราะมีการใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางระหว่างหลบหนี อีกทั้งจากการตรวจค้นรถของผู้ต้องหาก็พบอาวุธปืนหลายกระบอกทั้งปืนยิงเอ็ม 79 ปืนกลอูซี่ โดยสั่งการให้ตรวจสอบที่มาที่ไปของอาวุธปืนดังกล่าวแล้วพร้อมตรวจสอบประวัติอาชญากรอื่น ๆ ด้วย
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวถึงพฤติกรรมของแก๊งคนร้ายรายนี้ว่า เวลาทำงานจะไปด้วยกันอย่างน้อย 3 คน แบ่งหน้าที่กันทำงาน เลือกหมู่บ้านเป้าหมายที่เลือกเฉพาะหมู่บ้านคนมีฐานะดี หลังใหญ่ รั้วกว้างๆ เพราะเวลาข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินนั้นจะไม่มีใครรู้เห็นต่างคนต่างอยู่ข้างบ้านไม่สนใจกัน โดยคนหนึ่งจะไปกดสัญญาณหน้าบ้านตรวจสอบว่ามีคนอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีคนอยู่ก็จะลักลอบเข้าไปค้นหาทรัพย์สินภายในบ้าน ถ้ามีคนก็จะแกล้งว่ามาผิดบ้าน อีกคนมีหน้าที่เฝ้าต้นทาง ถ้าพบว่ามีตู้เซฟก็จะเป็นหน้าที่ของนายณัฐ จะเป็นคนใช้อุปกรณ์สำหรับเชื่อมโลหะที่เตรียมไปตัดเจาะตู้เซฟเอาทรัพย์สินไปแบ่งกันใช้จ่ายเป็นค่าแต่งรถนำมาแข่งขันตามสนามชื่อดังต่างๆ
ด้าน พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า นายหทัย หรือ หมูบิน ได้ติดต่อมาขอเข้ามอบตัวกับตนเมื่อวานตอนเย็นจากนั้นก็เข้ามามอบตัวในช่วงดึก เมื่อมามอบตัวแล้วก็จะส่งมอบผู้ต้องหาให้ตำรวจนครบาลรับไปดำเนินคดี โดยมี พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ ผกก.สน.ประชาชื่น เดินทางมารับตัวกลับไปสอบสวนคงไม่มีปัญหาอะไรผู้ต้องหาสามารถมอบตัวที่ไหนก็ได้
ผบช.ภ.3 กล่าวต่อว่า เหตุที่ "หมูบิน" เข้ามอบตัวกับตนนั้น เนื่องจากมีความรู้จักสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว เพราะตนและลูกชายชอบแข่งรถเช่นกันนายหมูบินเป็นแชมป์แข่งรถหลายรายการ แต่มีอุปนิสัยชอบความรุนแรงที่ผ่านมาเคยขับเร็วชนรถตนและลูกชายมาแล้วในสนาม ส่วนกรณีที่มีการยิงปืนนั้น นายหมูบินให้การเบื้องต้นว่า ตอนตำรวจ กก.สส.น.4 เข้าจับกุมนั้นไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ยินเสียงปืนก็คิดว่าเป็นโจทก์เก่าหรือไม่ก็คนร้าย จึงรีบพาแฟนขึ้นรถขับรถหนีทันที ทั้งยังปฏิเสธว่าไม่ได้ยิงปืนใส่ตำรวจเพื่อเบิกทางหนีตามที่เป็นข่าว
"แก๊งลักทรัพย์ตู้เซฟนี้ผมเคยสืบสวนติดตามมาตั้งแต่ รอง ผบช.น.แล้ว และนายหมูบินเองก็ไม่รู้ว่า ผมเคยทำคดีนี้มาก่อน จนมาถูกตำรวจนครบาลชุดปัจจุบันจับในคราวนี้ และยืนยันว่า เขาเองมีหน้าที่เพียงแค่ดูต้นทางเท่านั้นไม่ได้ใช้ความสามารถในการขับรถแข่งมาใช้ในการก่อคดีลักทรัพย์แต่อย่างใด " ผบช.ภ.3 กล่าว
สุพรรษา อดีตนางเอกชื่อดังโดนแก๊ง ไอ้หมูบิน ยกเค้ากว่า2ล้าน
จาก กรณีเจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.4 จับกุม นายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม อายุ 32 ปี และ นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร 29 ปี สองสมาชิกแก๊งลักทรัพย์ตามบ้านเรือนเศรษฐีใน กทม.ได้ทรัพย์สินกว่า 200 ล้าน นอกจากนี้ยังสมาชิกแก๊งนายหทัย หรือออฟ ไชยวัณณ์ อายุ 38 ปี นักแข่งรถชื่อดังเจ้าของฉายา "ไอ้หมูบิน" ผู้ต้องหาร่วมกับ นายพีรวัฒน์ หรือพี ตะวันธรงค์ อายุ 23 ปี และ นายกีรติ หรือเค กุมพล อายุ 30 ปี ร่วมก่อเหตุ
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้เสียหายหลายสิบรายทยอยกันเข้ามาดูของกลางที่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (กก.สส.บก.น.4) โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นคนมีฐานะร่ำรวย บางคนเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งหากผู้เสียหายรายใด สามารถยืนยันรูปพรรณสัญฐานของทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.4 ก็จะดำเนินการติดต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ให้มารับของกลางกลับไป
ทั้งนี้ขณะที่ผู้เสียหายกำลังตรวจสอบของกลางอยู่นั้น ได้มี นางสุพรรษา เนื่องภิรมย์ อายุ 47 ปี ดารานักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้ามาติดต่อของดูทรัพย์สิน ซึ่งหลังจากตรวจก็พบทรัพย์สินของตัวเองประกอบด้วย กระเป๋าถือสตรี 3 ใบ แบ่งเป็นยี่ห้อ หลุยส์วิคตอง สีขาว 1 ใบ มูลค่า 80,000 บาท ยี่ห้อกุชชี่ สีน้ำตาล 1 ใบ มูลค่า 40,000 บาท และยี่ห้อชาแนล สีดำ 1 ใบ มูลค่า 50,000 บาทเศษ นอกจากนี้ยังพบนาฬิกา ยี่ห้อปาเต๊ะฟิลลิปส์ มูลค่า 200,000 กว่าบาท แต่ยังไม่ยืนยันเนื่องเนื่องจากสายนาฬิกาไม่ตรงกับของตัวเอง ซึ่งต้องตรวจสอบหมายเลขเครื่องอีกครั้ง
นางสุพรรษา เปิดเผยว่า บ้านตนอยู่เลขที่ 59/191 หมู่บ้านโฮมเพลส ซอยรามคำแหง 140 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ถูกคนร้ายเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินไปเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา คนร้ายได้ทรัพย์สินไปมูลค่า 2 ล้าน 6 แสนบาทเศษ ส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าแบรนด์แนมจำนวน 40 กว่า ใบ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเพชร ทองรูปพรรณ สร้อยมุก นาฬิกายี่ห้อแบรนด์เนม ที่ได้เก็บไว้ในกระเป๋า ปกติตนจะซื้อเครื่องประดับเป็นชุดใหญ่ และจะเก็บเครื่องประดับทั้งหมดไว้ในธนาคาร หากจะใส่ออกงานก็จะไปเบิกออกมา แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงสิ้นปี ต้องออกงานหลายที่ จึงไม่ได้นำไปเก็บไว้ในธนาคาร แต่เอาไปใส่ไว้ในกระเป๋าใบหนึ่งที่ถูกคนร้ายขโมย
ไป
นางสุพรรษา กล่าวต่อว่า รู้สึกดีใจมาก เพราะของหายไป 1 ปี แล้ว ก็ทำใจแล้วว่าไม่น่าจะได้คืน แต่หลังจาก สน.ท้องที่ติดต่อไปว่าให้มาดูของกลาง เพราะอาจจะเป็นของตน จึงเดินทางมาดูก็พบกระเป๋าของตน 3 ใบ และตั๋วจำนำของโรงจำนำย่านประตูน้ำ จำนวนกว่า 10 ใบ ที่ระบุรูปพรรณทรัพย์สินคล้ายกับของตน จึงประสานตำรวจไปตรวจสอบต่อไป
ขณะที่ นายไพโรจน์ ถัดทะพงษ์ สว.ระบบสรรหา และคณะกรรมาธิการยุติธรรมและตำรวจ ผู้เสียหายอีกราย เข้าตรวจสอบทรัพย์สิน ของตัวเองพบตระกรุดและเครื่องรางของขลังเป็นของตกทอดมาจากบรรพบุรุษ จำนวน 5 รายการ นอกจากนั้นพบกล่องใส่ปืน และกระสุนปืนขนาด 11 มม.จำนวน 10 นัด แต่ปืนยังไม่พบ
นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา คนร้ายไม่ทราบจำนวน เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินจากบ้านเลขที่ 99/163 หมู่บ้านนันทวันประชาชื่น ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งขณะนั้นตนไปประชุมที่ จังหวัดเพชรบุรี ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นทองคำหนักกว่า 100 บาท แหวนทอง 6 วง นาฬิกา 10 เรือน ปืนพกขนาด 11มม.จำนวน 1 บอก มูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท
พ.ต.อ.อานัต เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 เปิดเผยว่า ตำรวจได้จับกุมนางวรัญญาภรณ์ เตรียมธนวัชร์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 900/156 หมู่ 12 แขวงและเขตบางนา กทม.แฟนนายณัฐ ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุด้วยกัน ในข้อหาร่วมกันครอบครองอาวุธสงคราม เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ
พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) กล่าวว่า วันนี้มีเจ้าทุกข์ 5-6 ราย เดินทางมาดูของกลางและสามารถระบุว่าเป็นทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ของที่คนร้ายไม่นำไปขาย เป็นพวกนาฬิกา กระเป๋า พระเลี่ยมทอง ซึ่งส่วนทรัพย์สิน ที่ผู้เสียหายยืนยัน จะให้นำหลักฐานมาแสดงหากพบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงกันจะให้พนักงานสอบทำเรื่อง ขอรับของกลางต่อไป
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือทราบว่านายหทัย จะเดินทางเข้ามอบตัวที่ บช.น. ส่วนที่เหลือสั่งการให้ สืบดำเนินการติดตามอย่างเร่งด่วน ส่วนอาวุธปืนที่พบได้ดำเนินคดี และส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)ว่าเคยก่อเหตุที่ไหนหรือไม่ โดยในวันที่ 6 มีนาคม นี้พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปยื่นคำร้องฝากขังที่ศาลอาญารัชดาต่อไป
