นักวิชาการเชื่อ "ยิ่งลักษณ์" หนีดีกว่านอนคุก

นักวิชาการเชื่อ "ยิ่งลักษณ์" หนีดีกว่านอนคุก

นักวิชาการเชื่อ "ยิ่งลักษณ์" หนีดีกว่านอนคุก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหตุการณ์ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ไปปรากฏตัวต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามนัดในการพิพากษาศาลฎีกา ภายหลังจากที่ถูกดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว เพราะส่งผลให้เกิดการทุจริตและความเสียหายต่อภาครัฐหลายแสนล้านบาท 

การหายตัวช่วงโค้งสุดท้ายของคดี  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากไม่สามารถมาที่ศาลได้ โดยอ้างว่า มีอาการป่วย “น้ำในหูไม่เท่ากัน” แต่ศาลพิจารณาและไม่เชื่อ จึงประกาศออกหมายจับ และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันที่ 27 ก.ย.60

ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว ว่า เชื่อว่าก่อนหน้าจะเข้าสู่การตัดสิน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงทราบและประเมินถึงสถานการณ์ตัดสินคดีนี้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ประกอบกับการเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคงไม่อยากจะรับสภาพต้องเข้าไปอยู่ในคุก ทำให้ต้องตัดสินใจที่จะหนีมากกว่าเข้าสู่คดีมากกว่า

ทั้งนี้ คำแถลงปิดคดีของอัยการอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทีมกฎหมายต้องตัดสินใจ เนื่องจากมีการหยิบหยกคดีเทียบเคียงที่ตัดสินมาก่อนหน้านี้ เป็นลักษณะที่ดำเนินการปล่อยปละละเลย และมีการแจ้งจากหน่วยงานว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จนต้องรับโทษตามกฎหมาย 

นอกจากนี้ เบื้องต้นจากการรับทราบข้อมูลว่าเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกประเทศไปตั้งแต่เมื่อวาน (24 ส.ค.60) ผ่านแถวจังหวัดชายทะเล ฝั่งตะวันออก นั่งเรือเข้าเกาะกงไปทางประเทศกัมพูชา และขึ้นเครื่องบินหนีไปยังเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว 

"เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีการพิจารณาคดีอย่างแน่นอน ด้วยการเดินทางออกไปยังต่างประเทศ มองในการบริหารประเทศ ถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้ประเทศสงบ เพราะหากยิ่งลักษณ์เดินมารับฟังคำพิพากษาและถูกตัดสินให้จำคุก อาจส่งผลให้มวลชนที่มาสนับสนุนเกิดชนวนและสร้างความวุ่นวายขึ้น โดยเชื่อว่าฝ่ายที่ดูแลความสงบก็ต้องประเมินสถานการณ์นี้เช่นกัน แต่มีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายมั่นคงไม่รู้ว่ายิ่งลักษณ์จะหลบหนี เพราะที่ผ่านมาอดีตนายกรัฐมนตรีเข้าสู่กระบวนการมาโดยตลอด ทำให้ไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด"

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้มองว่ารัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนประสานตำรวจ ออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี แต่มองว่าไม่สามารถจับกุมได้ ส่วนพรรคเพื่อไทย ภายหลังที่อดีตนายกรัฐมนตรีหนีไปแล้ว คาดว่ามีการดำเนินการตัดสินใจและวางแผนคัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นตัวแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว 

สำหรับเหตุการณ์หลังจากนี้ไม่เกิดความดุเดือดหรือวุ่นวายในสังคม เพราะจากการไม่เดินทางมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือการพิจารณาคดีของนายบุญทรง กับการติดคุก 42 ปี อาจทำให้นักการเมืองเกิดความหวั่นเกรงและไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายเป็นอันขาด เพราะต้องระมัดระวังการทุจริตมากขึ้น 

รองศาสตราจารย์ ยุทธพร อิสรชัย สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  กล่าวว่า การไม่มาศาล ถือผิดความคาดหมาย แต่เชื่อว่าการไม่มารับฟังพิจารณาคดีอาจมาจาก 3 แนวทาง เช่น เทคนิคทางกฎหมาย เพื่อรอดูผลของคดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในคดีทุจริตขายข้าวจีทูจีจะออกมาเป็นเช่นไร หรือการลดกระแสของคดีจำนำข้าว เพื่อให้คำพิพากษาเป็นผลดีต่อตัวเอง และการประเมินสถานการณ์เพื่อหนีคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook