โศกนาฏกรรมเศร้า กระโจนช่วยหมา สังเวยวังน้ำวน 2 ศพ

โศกนาฏกรรมเศร้า กระโจนช่วยหมา สังเวยวังน้ำวน 2 ศพ

โศกนาฏกรรมเศร้า กระโจนช่วยหมา สังเวยวังน้ำวน 2 ศพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านพากันสะเทือนใจ ชายพิการกระโจนลงฝายช่วยหมา แต่กลับจมน้ำเสียชีวิต ผู้ใหญ่บ้านตามมาสมทบก็ลอยหายไปต่อหน้าต่อตา สังเวยชีวิต 2 ศพ ส่วนสุนัขว่ายกลับขึ้นฝั่งมาเฝ้าศพ

เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) พ.ต.ท.ปวเรศ กระเวนกิจ สว.สอบสวนเวร สภ.สังขะ จ.สุรินทร์ ไดรับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำ 2 คน พบศพแล้ว 1 ราย และสูญหายอีกราย บริเวณฝายบ้านขามน้อย จึงประสานงานกับหน่วยกู้ภัยตาดาน หน่วยกู้ชีพอบต.ขอนแตก ชุดทีมประดาน้ำจากหน่วยวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ และหน่วยกู้ภัยสุรินทร์ (มูลนิจิบเต็กเซียงตึ๊ง)

ที่เกิดเหตุพบร่าง นายชัยพร อายุ 44 ปี ชายพิการขาด้วนด้านซ้ายตั้งแต่ที่หัวเข่าและขาข้างขวาผิดรูป สาเหตุจากอุบัติเหตุรถชนมาหลายปีแล้ว ชาวบ้านช่วยกันนำร่างขึ้นมาจากน้ำไว้ที่สันฝ่ายน้ำล้น ใกล้กับรถเข็นคนพิการของผู้ตาย ขณะที่ผู้สูญหายอีกรายทราบชื่อต่อมาคือ นายประกาศิต อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้านขามน้อย ยังไม่พบร่าง ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก

โดยเฉพาะบริเวณหน้าฝายน้ำล้น พบว่ามีกระแสน้ำไหลแรงและหมุนวน ทีมประดาน้ำได้ช่วยกันวางแผนเพื่อลงน้ำงมหาด้วยความยากลำบาก พร้อมกับนำเชือกผูกโยงข้ามลำน้ำหลายจุดเพื่อดักร่างของผู้ใหญ่บ้านเคราะห์ร้ายที่จมน้ำหายไป แต่ก็ยังไม่พบ

จนกระทั่งผ่านไปกว่า 7 ชั่วโมงในช่วงค่ำ เวลาประมาณ 22.15 น. ทีมประดาน้ำจะงมพบศพของผู้ใหญ่บ้าน อยู่ห่างจากบริเวณหน้าฝายน้ำล้นไปประมาณ 30 เมตร ท่ามกลางบรรยากาศความเศร้าสลดของชาวบ้านที่มามุงดูและคอยให้กำลังใจกับครอบครัวผู้ใหญ่บ้านและทีมประดาน้ำในการงมหาร่างเป็นจำนวนมาก

นางกรองแก้ว อายุ 42 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน ร้องไห้เสียใจเป็นภาพที่น่าเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็น ขณะที่ นายสุทัศน์ แต้มทอง นายก อบต.ขอนแตก ก็ลงพื้นที่หลังจากเกิดเหตุเพื่อสั่งการและติดตามสถานการณ์ พร้อมให้กำลังใจกับครอบครัวผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้พิการที่เสียชีวิตได้นั่งรถเข็นมาเล่นที่บริเวณฝ่ายน้ำล้น พร้อมกับสุนัขคู่ใจ ซึ่งชายคนดังกล่าวมักมาเดินเล่นแถวนี้เป็นประจำ ระหว่างนั้นได้ยินผู้ตายพูดกับสุนัขว่า ลงน้ำไปเลยเดี๋ยวตนเองจะตามลงไป ซึ่งตนไม่ทันสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ก่อนจะเห็นสุนัขตกลงไปหน้าฝายที่กระแสเชี่ยวกราก

ต่อมาชายพิการก็ลงจากรถเข็นและคลานลงไปในน้ำเพื่อช่วยสุนัข ไม่นานผู้พิการก็เริ่มถูกกระแสน้ำหมุนวนและดูดลงไปในน้ำ ไม่สามารถขึ้นจากน้ำได้ ตนจึงกระโจนลงไปช่วย แต่ไม่สามารถดึงร่างชายพิการขึ้นมาได้ ชายพิการเริ่มกอดรัดตนทำให้เริ่มหมดแรง จึงตัดสินใจผละตัวออกมาก่อน เพื่อเอาชีวิตให้รอดก่อน หากฝืนอยู่ช่วยต่อคงต้องจมน้ำตายไปทั้งคู่

หลังจากนั้นตนจึงว่ายน้ำมาขึ้นฝั่ง ส่วนสุนัขก็ว่ายน้ำขึ้นฝั่งมาได้ก่อนหน้าแล้ว แต่ระหว่างนั้นชายพิการก็จมน้ำหายไป และเห็นร่างลอยขึ้นจากน้ำต่อหน้าต่อตา ทั้งที่ใจอยากจะช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ตนก็รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้

ไม่นานผู้ใหญ่บ้านก็วิ่งมาตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนจะกระโจนลงไปในน้ำ เพื่อหาวิธีช่วยและดึงร่างชายพิการขึ้นจากน้ำ ใช้เวลา 10 กว่านาที แต่ก็ไม่สามารถดึงร่างขึ้นมาได้ จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็ค่อยๆ จมหายไปต่อหน้าต่อตาอีกคน ชาวบ้านจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยงมหาร่างดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ชายพิการกับผู้ใหญ่บ้านต่างรู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ซึ่งย้ายมาจาก จ.สมุทรปราการ มาอาศัยกับผู้ใหญ่บ้านได้ราวปีเศษๆ ขณะที่สุนัขตัวดังกล่าวเป็นสุนัขเพศผู้ เดิมชื่อ เจ้าศรีจันทร์ แต่พอมาอยู่กับชายพิการ ถูกตั้งชื่อให้ใหม่เป็น เจ้าชาลี และหลังจากชายพิการเป็นศพเสียชีวิต สุนัขตัวนี้ก็ยังคงนอนเศร้าเฝ้าอยู่ไม่ไกลจากศพอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook