ฝรั่งบินโดรนถ่ายหาดภูเก็ต บังเอิญโฟกัส จระเข้ ลอยทะเลตัวเป็นๆ

ฝรั่งบินโดรนถ่ายหาดภูเก็ต บังเอิญโฟกัส จระเข้ ลอยทะเลตัวเป็นๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนภูเก็ตขนลุก! ภาพชัด..ตัวเป็นๆ นักท่องเที่ยวฝรั่งบินโดรนแต่จับภาพ จระเข้น้ำเค็ม ลอยทะเลเอาไว้ได้ชัดเจน ตอกย้ำคำร่ำลือของชาวบ้านเมื่อหลายปีก่อน

(30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวภูเก็ตต่างกำลังให้ความสนใจคลิปที่แชร์ส่งต่อในพื้นที่ หลังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ทำการบินโดรนขึ้นฟ้า เพื่อเก็บภาพถ่ายมุมสูงของหาดบางเทา จ.ภูเก็ต แต่ปรากฏว่าด้านนอกชายหาดนั้นบังเอิญพบบางอย่างลอยคออยู่ เมื่อหยุดและซูมโฟกัสใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นจระเข้ตัวใหญ่

คลิปภาพที่แชร์เอาไว้ผ่านทางเฟซบุ๊กคุณ Thon Thamrongnawasawat ที่ได้ระบุแจ้งข่าวเตือนภัยของจระเข้น้ำเค็มในพื้นที่หาดบางเทา หลังจากภาพถ่ายจากโดรนของ คุณไมค์ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบังเอิญพบจระเข้ตัวดังกล่าวเข้า ระหว่างกำลังเดินเล่นอยู่ริมหาด ทำให้กลายเป็นหลักฐานชัดเจนว่ามีจระเข้ในพื้นที่จริง

สำหรับกรณีดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 เคยมีรายงานว่าชาวบ้านในพื้นที่หาดไม้ขาวพบเจอจระเข้เช่นเดียวกัน แต่เรื่องราวก็เงียบหายไป จึงไม่แน่ชัดว่าจะเป็นจระเข้ตัวเดียวกับที่เคยร่ำลือหรือไม่ หรืออาจจะรุ่นลูกรุ่นหลานของจระเข้น้ำเค็ม

เจ้าของเฟซบุ๊กยังเปิดเผยว่า ตามรายงานเคยมีประวัติพบจระเข้น้ำเค็มในฝั่งอันดามันที่เกาะตะรุเตา และหากใครเคยไปคลองพันเตมะละกา คงจำได้ว่าข้างในมีถ้ำจระเข้ แต่จะเป็นไปได้ไหมที่จะมีจระเข้ตามธรรมชาติเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยนั้นจนถึงตอนนี้ แม้จะมีโอกาสน้อยแต่ก็น่าจะพอมีหลงเหลืออยู่บ้าง โดยเฉพาะในแถบประเทศเมียนมา หรือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นจระเข้หลุดมาจากแหล่งเพาะฟาร์มจระเข้หรือไม่ แต่เชื่อว่าหลังจากกรณีดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งเข้ามาดูแลและตรวจตราเรื่องความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อความเชื่อมั่น

อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปหลักฐานดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลายคนเชื่อว่าจระเข้น้ำเค็มในทะเลอันดามันยังคงมีอยู่จริง ถึงจะเคยมีแต่ข้อสันนิษฐานแต่คลิปดังกล่าวก็ถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ถึงแม้ว่าบางส่วนยังไม่ปักใจเชื่อ มองว่าอาจเป็นภาพตัดต่อก็เป็นไปได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook