ชาวชุมพรโวยกด เอทีเอ็ม ธ.กรุงเทพ เงินหาย 3 ล้านบ.
ชาวชุมพร โวยกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ พบเงินหายจากบัญชี ร่วม 3 ล้านบาท ผจก.ระบุ ตู้ที่เกิดเหตุแบบเก่า คาดมิจฉา ชีพใช้วิธีติดกล้องแกะรอยรหัสบัตรของเหยื่อเพื่อสวมรอย
(7มี.ค.) เวลา 13.00 น.พ.ต.ท.ปัญญา ท้วมศรี สารวัตรเวร สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งจากประชาชน 5 ราย ว่าเงินสูญหายจากบัญชีธนาคาร โดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุเกิดที่ตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงเทพ(มหาชน) จำกัด หน้าตลาดอวยชัย 3 หมุ่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมด้วย กำลังสายตรวจ สายสืบ จำนวนหนึ่งรุดไปที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุหน้าตลาดอวยชัย 3 ริมถนนสายเอเซีย 41 ในช่องทางขาล่องใต้ เป็นตลาดค้าส่งผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคใต้พบมีผู้เสียหายจำนวน 12 ราย จึงได้ ทำการสอบปากคำ ทราบว่าได้มากดเบิกเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ที่ตู้ดังกล่าว ปรากฏว่าเงินของผู้เสียหายทุกคนในบัญชี สูญหายไป แทบทั้งหมด เหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาท ทั้งที่ในช่วงคืนที่ผ่านมา ยังมีเงินเหลือรายละหลายแสนบาท บางรายหายไป ถึง 3 แสนบาท
หลังจากแจ้งความแล้ว ผู้เสียหายทั้งหมดได้เดินทางไปยังธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสหลังสวน ซึ่งเป็นเพียงสาขาเดียวที่เปิดทำการในวันหยุด เนื่องจาก สำนักงาน ธ.กรุงเทพ สาขาหลังสวน ปิดทำการวันเสาร์ โดย มีนายอาหามะ มอลอ อายุ 37 ปี เลขที่ 2 หมุ่ที่ 2 ต.จะและ อ.บารัฐ จ.ปัตตานี นายพลศักดิ์ สุวรรณโกศ อายุ 38 ปี 240/2 หมู่ 3 ต.บ้านสวน จ.ชลบุรี นางปราณี คงเจริญ อายุ 53 ปี 9/40 หมุ่ที่ 4 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง เป็นแกนนำและมีผู้เสียหาย ร่วมเดินทางไปด้วย โดยผู้เสียหายทั้งหมด อาชีพ ซื้อขาย ทุเรียน ส่งออกต่างประเทศ
เมื่อไปถึง ธ.กรุงเทพ สาขาห้างโลตัสหลังสวน พบนางสาวสุนิดา สร้างเกตุ ผู้จัดการสาขา โดยผู้เสียหายทั้งหมดได้ยื่นเอกสารใบแจ้งความ และใบบันทึกข้อมูลของ ตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงเทพ โดย ผู้เสียหายทั้งหมด เล่าเหตุที่เกิดขึ้นให้ผจก.ฟัง เพื่อขอให้ธนาคารดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ขณะนั้นได้ มีผู้เสียหายเดินทางร้องเรียนเพิ่ม ตลอดเวลาในช่วง 1 ชม.ที่ผู้เสียหายกำลังดำเนินการรวม มีผู้เสียหาย 20 ราย ยอดเงิน 3 ล้านกว่าบาท ซึ่งนางสุนิดาได้รับเรื่องเพื่อรายงานให้สำนักงานใหญ่ทราบ
ต่อมานายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.ชุมพร ทราบเรื่อง ได้สั่งการให้ นายสุทิน พยัคฆ์ ผู้ช่วยป้องกัน จังหวัดชุมพร พร้อม จนท.เดินทางมาตรวจสอบ นายสุทินได้ประสานงาน ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ ระงับการให้บริการ ที่ตู้เอทีเอ็ม ตู้ดังกล่าว ทันที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น อีกทั้งได้แจ้งไปสถานีวิทยุ อสมท.หลังสวน เพื่อแจ้งให้ผู้ที่ได้ไปใช้ ที่ตู้เอทีเอ็ม ตู้ดังกล่าวในช่วง2 วันที่ผ่านมา ไปตรวจสอบบัญชี เงินคงเหลือ ถ้า มีกรณี ผิดปกติ ให้ รีบแจ้งความ และ แจ้ง ธนาคารฯ ทันที
นางสุนิดา ได้ตรวจสอบข้อมูล ของผู้เสียหายทั้งหมด พบว่าเหตุการณ์การลักลอบโอนเงิน เกิดขึ้น ในพื้นที่ จ.สุราฏร์ธานีและ จ.ชุมพร ตำรวจคาดว่า แก็งค์คนร้ายน่าจะ เดินทาง เข้ามาในพื้นที่ 2 จังหวัด ซึ่ง มีการหมุนเวียนของเงินจาก พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมาก อาศัยเครื่องมือ ทางอีเลคโทนิค ลักลอบโอน เงิน โดยเฉพาะตู้เอทีเอ็มที่เกิดหตุ มักจะเป็นตู้เอทีเอ็มรุ่นเก่า ที่ มีช่องสอดบัตรขนาดใหญ่ ทำให้คนร้ายสามารถสอดแถบบันทึกข้อมูลเข้าไป และ แอบติดกล้องตามด ที่ สามารถบันทึกการกดรหัสได้ ภายหลังข่าวแพร่สะพัดออกไป ทำให้ ชาวบ้าน ใน จ.ชุมพร ต่างพากันไป ตรวจสอบยอดบัญชีอย่างโกลาหล บางรายถึงกับถอนเงินสด หรือ อายัดบัตรเอทีเอ็ม ทันที