แห่ชื่นชม เหล่ากาชาด ยอมไปสาย เบรกรถช่วยชีวิตคนเจ็บ
ซาเล้งชนกันพลิกคว่ำกลางถนน คุณลุงหัวฟาดพื้นเลือดไหลนองเต็มถนน นายกเหล่ากาชาดกำลังจะไปรับผู้ตรวจราชการผ่านมาเจอพอดี สั่งจอดพร้อมกระโดดลงรถช่วยชีวิตโดยด่วน แม้จะไปสายก็ยอม เพราะหน้าที่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า
เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) เกิดอุบัติเหตุเกิดอุบัติเหตุรถซาเล้งบรรทุกวัสดุทางการเกษตรชนกันที่บ้านลิ้นฟ้า ถนนวาปีปทุม-พยัคฆภูมิพิสัย อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ทำให้รถทั้งสองคันเสียหลักพลิกคว่ำกลางถนน มีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นชาย อายุประมาณ 60 ปี นอนคว่ำหน้า มีเลือดไหลออกจากศีรษะนองบนพื้น
แต่นับว่าโชคดีที่ระหว่างนั้นได้มีรถของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นำโดย นางนิศากร นนทะโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม พร้อมคณะจำนวนเกือบ 10 ชีวิต ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี ระหว่างจะกำลังเดินทางไปต้อนรับผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินการ ที่บริเวณพระธาตุนาดูน
เป็นช่วงจังหวะที่เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้าช่วยเหลือ นายกเหล่ากาชาดฯ จึงแจ้งให้คนขับรถจอดทันที ก่อนจะรีบเปิดประตูรถลงไปช่วยผู้บาดเจ็บ เมื่อตรวจสอบร่างกายผู้บาดเจ็บ พบว่าเป็นชายสูงอายุ ที่ศีรษะมีแผลกว้างเกือบ 10 ซม. เป็นแผลลึกเข้าไปและมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นด้วยจิตวิญญาณความเป็นนายกเหล่ากาชาดและเป็นพยาบาล จึงสั่งการให้เจ้าหน้าเหล่ากาชาดโทรเรียกรถกู้ชีพ 1669 พร้อมกับวิ่งไปหยิบเสื้อส่วนตัวในรถ มาปิดแผลและกดเพื่อห้ามเลือดไว้ และพยายามเรียกและพูดคุยกับผู้บาดเจ็บเพื่อเรียกสติ จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที รถกู้ชีพจากโรงพยาบาลนาดูนจึงมารับผู้บาดเจ็บไปทำการรักษาต่อไป
นางนิศากร นนทะโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีอีกตำแหน่งเป็นพยาบาลสังกัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เล่าว่า ตนเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้าแล้วตกใจ จึงได้สั่งให้คนขับรถจอด ขณะนั้นยังไม่มีใครลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แม้ตนเองจะรีบไปปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อเห็นคนเจ็บอยู่ตรงหน้า ก็ขอให้เอาไว้ทีหลังก่อน หน้าที่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่าจะไปทำหน้าที่ต่างๆ ถึงแม้ว่าไปงานสายก็ยอมจากนั้นจึงรีบลงไปดู
หลังจากนั้นก็ใช้ทักษะการปฐมพยาบาลที่ได้ฝึกฝนมา สังเกตบาดเผลและอาการคุณลุงที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพบว่าเลือดได้ไหลออกมาจากศีรษะผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงใช้เสื้อของตนที่มีอยู่ในรถมาปิดแผลและกดห้ามเลือดเอาไว้ ทุกอย่างที่ทำถือเป็นสัญชาตญาณ เพราะเป็นหน้าที่ของตนในฐานะพยาบาลและนายกเหล่ากาชาดที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน หากเห็นคนเดือนร้อนหรือได้รับอุบัติจะต้องช่วยเหลือให้เร็วที่สุด