มุ่งปมปล้นเซฟ-ชิงนับล้าน 2 โจรภูเก็ตบุกบ้านยิงแหม่มรัสเซีย

ตำรวจเร่งแกะรอยหาตัวคนร้าย บุกบ้านนักธุรกิจหญิงรัสเซีย ก่อนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมกับปล้นตู้เซฟที่เชื่อมีทรัพย์สินนับล้านหนีหายไป เชื่อวางแผนมาดี มุ่งปมชิงทรัพย์เป็นหลัก

(31 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนร้ายบุกทำร้ายและปล้นทรัพย์สินในบ้านพักของนักธุรกิจสาวชาวรัสเซียในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมกับยกตู้เซฟไปด้วย ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจท่องเที่ยวได้ลงมาช่วยกันสืบสวนคดีนี้ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายที่เชื่อว่ามีด้วยกัน 2 คน

พันตำรวจเอกประชุม เรืองทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักธุรกิจสาวชาวรัสเซีย ซึ่งทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าไทย-รัสเซีย พฤติการณ์ของคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงเหยื่อได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเข้ารื้อค้นทรัพย์สินและยกตู้เซฟมีของมีค่าไปด้วย

เบื้องต้นได้มีการสืบพยานปากสำคัญไปแล้วหลายปาก รวมทั้งสามีของผู้ได้รับบาดเจ็บ แกะรอยจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง แม้คดีจะมีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่ก็ยังขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี แต่มั่นใจว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้

คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายผู้หญิงต่างชาติด้วย ถือว่าโชคดีที่คนร้ายเพียงแค่ประสงค์ต่อทรัพย์ และจากการสืบสวนทราบว่าผู้เสียหายนั้น ทำธุรกิจส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปรัสเซีย โดยอาศัยอยู่ในเมืองไทยมาราวๆ 4 ปีแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากพอจะรู้มุมกล้องและทิศทางการหลบหนี

คาดว่าคนร้ายน่าจะดักสุ่มรอจังหวะให้สามีของเหยื่อออกไปจากบ้านก่อน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่จึงฉวยโอกาสก่อเหตุ แต่ปรากฏว่าพบนักธุรกิจหญิงรัสเซียยังนอนอยู่ในบ้าน เมื่อเหยื่อเห็นตกใจจึงกรีดร้องส่งเสียงทำให้ถูกยิงบาดเจ็บเข้าที่ปลายขาขวาและหน้าท้อง เหยื่อจึงตัดสินใจวิ่งหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือที่หน้าปากซอยบ้าน

ขณะที่ จากการตรวจสภาพที่เกิดเหตุเป็นบริเวณห้องนอนภายในบ้านพักของผู้เสียหาย มีคราบเลือดของผู้เสียหายเปรอะอยู่โดยรอบ มีปลอกกระสุนปืนตกอยู่บนพื้น บริเวณข้างกำแพงบ้านมีกระเป๋าซึ่งใส่ทรัพย์สินของผู้เสียหายถูกรื้อค้น และโยนทิ้งเอาไว้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุมูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกปล้นไป คาดว่าน่าจะราวๆ หลายล้านบาท ซึ่งต้องรอให้เหยื่อผู้เสียหายมายืนยันในทรัพย์สินต่อไป ส่วนประเด็นของการก่อเหตุให้น้ำหนักในปมปล้นชิงทรัพย์เป็นหลัก