"อั้ม อธิชาติ" โล่งอก จบแล้วคดีค่าตัวนักแสดงเจ้าเวหา

คงสบายใจขึ้นแล้ว สำหรับ หนุ่ม "อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" และภรรยา "นัท มีเรีย" เพราะหลังจากจับมือกันเป็นผู้จัดซีรีส์ เจ้าเวหา ต่อมาก็ปัญหาเรื่องนักแสดงไม่ได้รับค่าตัว ซึ่งทั้งสองต้องออกมาแถลงข่าวชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้นั้น 

ล่าสุด (31 ส.ค.) "อั้ม อธิชาติ" ได้มาร่วมงาน Thai Airways X Embassy Diplomat Screens Exquisite with an Exclusive Movie  ณ โรงภาพยนตร์ Embassy Diplomat Screens ชั้น 6 ก็ได้เปิดใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า

"จริงๆ เรื่องคดีผมไม่ได้ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ได้ทราบตั้งแต่ตอนที่มีน้องๆ นักแสดงทั้ง 4 ท่านได้ฟ้องร้องไปกับบริษัทที่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และล่าสุดคดียุติมีการยอมความ คดีก็จบไปเกือบๆ เดือน ก็ได้มีการเจรจากันแล้วได้ผลตอบแทนที่โอเค”

“คือฝ่ายจำเลยยอมชดใช้เงินตามที่นักแสดงเรียกร้องไป แต่รายละเอียดบางทีมันไม่ใช่คดีผมเป็นหลัก ดังนั้นผมจึงขออนุญาตไม่พูดถึงมากนัก แต่รู้ว่าน้องๆ เขาก็ได้ในส่วนที่เขาต้องการเรียบร้อย แต่จะเป็นตัวเลขเท่าไหร่ผมไม่ทราบเลยจริงๆ ได้ข่าวว่าเขาโอเคแล้ว คือผมยังไม่ได้คุยกับน้องโดยตรงๆ แต่มี ผจก.น้องบอกมาว่าโอเคแล้ว ผมในฐานะผู้จัดก็ดีใจที่ไม่ต้องยืดเยื้อต่อไปและสบายใจที่นักแสดงได้เงิน”

“ส่วนคดีที่ผมฟ้องหมิ่นประมาทและเรียกค่าเสียหายยังไม่จบ จริงๆ ไม่มีใครอยากมีคดีความหรอกมันเสียเวลา แต่พอเป็นไปแล้วทุกอย่างมันก็ต้องเป็นตามขั้นตอนของกฎหมาย ตอนนี้ในคดีแพ่งใกล้เสร็จแล้ว คือเราได้มีการสืบพยานในฝั่งโจทย์ของเราไปครบทุกปากแล้ว รอศาลนัดว่าจะมีการตัดสินเมื่อไหร่ แต่มีแนวโน้มว่าผมจะชนะไหมขอไม่ตอบ ให้เป็นดุลยพินิจของศาลดีกว่า”

“ส่วนคดีหมิ่นประมาทอาจจะช้าหน่อยเพราะเป็นคดีใหญ่ อาจจะตามหลังคดีแพ่งมา ซึ่งมันเลยจุดยอมความมามากแล้วและไม่มีการคุยเป็นการส่วนตัวกับคู่กรณีแล้วเพราะเรายอมให้เจรจาอยู่หลายรอบเหมือนกัน ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของขั้นตอนก็ต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นตามขั้นตอนไป แต่ผมไม่มีความกังวลใจหรือท้ออะไรเลย (ยิ้ม) เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนของมัน ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก”

“ด้านคุณนัทเขาก็โล่งแต่เขาไม่ค่อยรู้เรื่อง เราก็พยายามไม่ให้เขายุ่งเรื่องพวกนี้ด้วยความที่เขาเป็นผู้หญิงและอยากมีน้องเราก็เลยไม่อยากเอาเรื่องนี้ไปใส่หัวเขามากนัก”

“ส่วนคดีผมในคดีแพ่งเดี๋ยวคงมีนัดวันเพิ่มเติมในการตัดสิน และอย่างที่ผมได้บอกไปตั้งแต่แรกเลยว่าเราทำหน้าที่ของเราแล้ว เพียงแต่บุคคลอื่นได้ทำหน้าที่แล้วหรือยังผมตอบไม่ได้ ซึ่งก็อย่างที่ผมบอกไปว่าหน้าที่ของใครวันนึงก็คงเห็นเองและ ณ วันนี้คดีไม่มีผลกับบริษัทของผมนะ ที่มีคือเราอาจจะต้องเตรียมเอกสารมากขึ้น และจริงๆตอนนี้งานที่ผมทำบริษัทเราก็ยังผลิตอยู่แต่เป็นส่วนของคอนเท็นต์ทางโซเชียลมากกว่าและเรารู้สึกว่ามีอิสระในการคิดในหลายๆอย่าง วันนึงจะผลิตละครหรือหนังไหมผมตอบไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็ยังเบรกไว้ก่อน”