น.ร.แห่สอบ GAT-PAT คึกคัก

น.ร.แห่สอบ GAT-PAT คึกคัก

น.ร.แห่สอบ GAT-PAT คึกคัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อ เวลา 09.30 น.วันที่ 7 มี.ค. ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยมศึกษา นางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) ได้เดินทางตรวจเยี่ยมสนามทดสอบความถนัดทั่วไปหรือ GAT และทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ หรือ PAT เพื่อนำไปใช้ประกอบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบ กลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือแอดมิชชั่น ในปีการศึกษา 2553 ที่จัดสอบระหว่าง วันที่ 7-15 มี.ค.

นางอุทุมพร กล่าวว่า วันนี้เป็นการสอบ GAT, PAT ครั้งแรก โดยในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 09.00- 12.00 น. เป็นการสอบ GAT เพื่อวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ความสามารถในการอ่านเขียน คิดวิเคราะห์ และแก้ปัญหา ส่วนที่ 2 เป็นความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ส่วนช่วงบ่าย ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. เป็นการสอบ PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์

ศ.ดร. อุทุมพร กล่าวต่อไปว่า ในการจัดสอบครั้งแรกนี้ ในส่วนของ GAT มีผู้สมัครเข้าสอบทั่วประเทศ 224,199 คน จำแนกเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นม.5 จำนวน 217,444 คน ชั้น ม.6 จำนวน 6,471 คน และผู้ที่จบชั้นม.6 ซึ่งมีอายุระหว่าง 27-56 ปี จำนวน 284 คน ส่วนผู้สมัครเข้าสอบ PAT แบ่งเป็น สอบ PAT 1.ความถนัดทางคณิตศาสตร์ 143,978 คน PAT 2.ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ 130,196 คน PAT 3.ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ 47,038 คน PAT 4.ความถนัดทางสถาปัตกรรมศาสตร์ 24,808 คน PAT 5.ความถนัดทางครู 77,137 คน PAT 6.ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ 25,353 คน และ PAT 7.ความถนัดในการเรียนภาษาต่างประเทศ 24,533 คน

"กลุ่มผู้ที่มีอายุ ระหว่าง 27-56 ปี แต่มาสมัครสอบ GAT และ PAT นั้น เมื่อจำแนกแล้วปรากฏว่า สมัครเข้าสอบ PAT 2 มากที่สุดถึง 185 คน รองลงมาคือ PAT 1 จำนวน 181 คน และ PAT 3. จำนวน 63 คน ซึ่งคาดว่าคนกลุ่มนี้น่าจะมาจากสถาบันกวดวิชา ผู้ปกครองที่สอบเพื่อติวให้กับบุตรหลาน นักศึกษาที่เรียนระดับปริญญาตรี-โท นอกจากนี้ยังมีผู้ที่จะนำผลการสอบไปสมัครเข้าทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งได้ติดต่อมายัง สทศ.ที่จะให้ผู้สมัครเข้าทำงานในบริษัทดังกล่าวต้องผ่านการสอบ PAT3 ก่อน แต่ สทศ.ได้แนะนำให้มาสมัครสอบพร้อมกับเด็กในคราวเดียวกัน" นางอุทุมพร กล่าว และว่า ในเบื้องต้นยังไม่พบเหตุการณ์ใดที่จะส่อไปในทางทุจริต แต่หากตรวจพบผู้เข้าสอบคนใดทุจริต จะไม่ตรวจข้อสอบในรายวิชานั้นทันที

นาง อุทุมพร กล่าวอีกว่า ในการเปิดรับสมัคร GAT และ PAT ที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนมาจากผู้ปกครองมากว่า เด็กต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบจำนวนมาก เพราะมีนักเรียนจำนวนหนึ่งสมัครสอบ GAT และ PAT 7 กลุ่ม ทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งต้องเสียเงินรวมถึง 4,800 บาท ซึ่งบางส่วนผู้ปกครองก็ค้านเด็กไม่ได้ บางส่วนก็สนับสนุนให้เด็กสอบ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ยังคิดไม่เป็นเพราะ สทศ.ได้ประชาสัมพันธ์มาตลอดว่า GAT นักเรียนชั้นม.5 สอบได้ แต่ไม่ควรสอบ PAT เพราะเป็นความรู้ในชั้นม.6 ด้วย แต่จากผลการสมัครสอบที่ผ่านมามีเด็กม.5 เข้ามาสมัครสอบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาโรงเรียนต้องเร่งสอนวิชาในชั้นม.6 และเกิดการกวดวิชามากขึ้น ซึ่ง สทศ.ก็คิดไม่ถึงว่าเด็กจะบ้าระห่ำถึงขนาดนี้ ดังนั้นหลังการจัดสอบแล้วเสร็จ ตนจะนำข้อมูลสรุปรวมถึงปัญหาร้องเรียนต่างๆ หารือกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) โดยอาจจะต้องมีการจำกัดอายุการสอบ PATให้เด็กชั้นม.6 ขึ้นไปได้สอบเท่านั้น และอาจลดจำนวนครั้งในการสอบจากเดิม 3 ครั้งต่อปี ให้เหลือ 1-2 ครั้งต่อปี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook