จับ เกย์ ทุบหัวเศรษฐินี แฉปูมโหด เคยฆ่าเมีย-ติดคุก
รวบทันควันเกย์โหดฆ่าเศรษฐินีชุมพร เป็นคู่ขาตุ๊ดลูกชายคนตาย ตร.ตามรวบได้ขณะขึ้นรถโดยสารเตรียมหนีเข้ากทม. ในสภาพมอมแมม เสื้อกางเกงเต็มไปด้วยคราบเลือด แต่ยังปากแข็งปฏิเสธขอให้การชั้นศาลเท่านั้น โดยอ้างผู้ตายล้มเอง ไม่ได้ดึงสร้อยและรัดคอแต่อย่างใด ตร.ส่งคราบเลือดไปพิสูจน์พร้อมกับรอผลชันสูตรพลิกศพคนตายเป็นหลักฐานมัดตัว
จับแล้วเกย์โหดฆ่าเศรษฐินีชุมพร จากกรณีตำรวจสภ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งพบศพนางหนูจันทร์ ปัญญารักษ์ อายุ 68 ปี เศรษฐินีเจ้าของที่ดินและสวนผลไม้ ถูกทุบศีรษะและรัดคอเสียชีวิตคาบ้านพัก สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทหายไป ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ ในบ้านยังอยู่ครบ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าหลังเกิดเหตุเพื่อนบ้านพบนายไพฑูรย์ หรือเอก อินทรจันทร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ที่ 12 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เกย์คู่ขานายวัชรินทร์ ปัญญารักษ์ อายุ 34 ปี ลูกชายคนสุดท้องของนางหนูจันทร์ วิ่งหน้าตาตื่นออกจากบ้านเกิดเหตุ คาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับแต่ยังไม่พบตัว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังเกิดเหตุเมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 8 มี.ค. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ประเสริฐผล รองผกก.สภ.สวี จ.ชุมพร ระดมกำลังทั้งฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบสวนออกติดตามนายไพฑูรย์ หรือเอก อินทรจันทร์ ผู้ต้องสงสัย โดยเน้นไปสกัดตามสถานีขนส่งรถโดยสาร เนื่องจากนายไพฑูรย์เป็นคนต่างถิ่นน่าจะรีบเดินทางออกจาก จ.ชุมพร เพื่อหนีความผิด นอกจากนี้ยังสกัดตามเส้นทางสำคัญต่างๆ ทั่วทั้งอำเภอ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบบุคคลต้องสงสัยโบกรถให้พาไปส่งสถานีขนส่งรถโดยสาร สี่แยกเขาปีป อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ห่าง จากสถานที่เกิดเหตุประมาณ 10 ก.ม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพบนายไพฑูรย์กำลังขึ้นรถโดยสารเดินทางเข้ากทม. เจ้าหน้าที่ตรงเข้าจับกุมนำตัวไปสอบปากคำที่สภ.สวี ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม เสื้อและกางเกงมีคราบและจุดเล็กๆ คล้ายเลือดเต็มไปหมด
จากการสอบสวนนายไพฑูรย์ให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือสังหารนางหนูจันทร์แต่อย่างใด และขอให้ปากคำชั้นศาลเท่านั้น ทั้งนี้ นายไพฑูรย์เปิดปากกับตำรวจว่า ในวันดังกล่าวได้ไปหานายวัชรินทร์ หรืออ้อม ปัญญารักษ์ ที่บ้านเกิดเหตุจริง แต่ถูกนางหนูจันทร์ดุด่าและไล่ออกจากบ้าน ก่อนออกจากบ้านได้ขอน้ำดื่ม แต่นางหนูจันทร์กลับเอามีดไล่ฟันจนต้องรีบวิ่งหนี หันกลับไปดูอีกทีพบว่านางหนูจันทร์ล้มลงกองอยู่กับพื้นแล้ว ด้วยความตกใจกลัวจึงวิ่งหนีเตลิดไปโดยไม่ได้ดึงสร้อยคอและลงมือสังหาร กระทั่งตำรวจตามไปจับตัวขณะขึ้นรถโดยสาร
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัตินายไพฑูรย์พบว่า เคยถูกจำคุกคดีฆ่าเมียเพิ่งพ้นโทษมาไม่นาน ซึ่งนายไพฑูรย์กล่าวกับตำรวจด้วยว่า ไม่กลัวการติดคุก เนื่องจากตอนต้องคดีฆ่าเมียยังติดคุกเพียง 2 ปีเท่านั้น สำหรับคดีนี้จะขอต่อสู้คดีให้ถึงที่สุดและขอให้การชั้นศาลเท่านั้น ภายหลังสอบสวนตำรวจส่งตัวอย่างเลือดในตัวและเสื้อผ้านายไพฑูรย์ไปพิสูจน์ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมายืนยันว่าเป็นเลือดของนางหนูจันทร์ ผู้ตายหรือไม่ พร้อมกับรอผลการชันสูตรพลิกศพนางหนูจันทร์ถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ส่วนนายไพฑูรย์นำตัวเข้าห้องควบคุมเตรียมฝากขัง