หนุ่ม 19 ทำบัตรประชาชนหาย อยู่ๆ โดนแจ้งจับโกง 6 แสน
นักศึกษาหนุ่มพะเยาตกใจ อายุแค่ 19 ทำบัตรประชาชหาย กลายเป็นว่าโดนแจ้งความโกงเงินกว่า 6 แสน เจ้าตัวงงเป็นไก่ตาแตก เกิดมายังไม่เคยแตะเงินแสนสักครั้ง
(5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งร้องทุกข์จาก นางอรัญญา อายุ 45 ปี และ นายอธิปัตย์ อายุ 19 ปี แม่ลูกชาว ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา นำหลักฐานบันทึกประจำวันของสถานีตำรวจภูธรหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รวมถึงเอกสารหลักฐานหมายเรียก และเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ นายพชร ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความต่อ สภ.หล่มสัก ให้ดำเนินคดีกับลูกชาย ในข้อหาฉ้อโกงเงินจำนวนกว่า 600,000 บาท
นางอรัญญา ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา นายอธิปัตย์ ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนหายและได้มีการแจ้งทำบัตรใหม่แล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา นายพชร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ได้เดินทางมาพบและบอกว่า นายอธิปัตย์ ลูกชายของตนเองได้ฉ้อโกงเงินไปจำนวนกว่า 6 แสนบาท
ซึ่งเงินก้อนดังกล่าวเป็นเงินค่าซื้อขายมะขามที่โอนเข้าบัญชีธนาคาร ที่ระบุชื่อของลูกชายเป็นเจ้าของบัญชี แต่กลับไม่ได้มะขามตามที่ตกลงไว้ และได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งตนเองและสามีรวมถึงลูกเมื่อทราบข่าวก็ตกใจอย่างมาก เพราะไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่าลูกชายจะทำธุรกิจ เพราะยังเป็นนักศึกษา และอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น
ต่อมาตนกับสามีได้หาหลักฐานยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก ทั้งเอกสารทางราชการที่ลูกชายไปทำหรือติดต่อราชการในช่วงเวลานั้น รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งต่อมาทางตำรวจได้มีการออกมาเรียกรวม 2 ครั้ง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อเข้าให้ปากคำพร้อมนำหลักฐานยืนยัน
โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.30 น. ได้มีการใช้บัตรประชาชนของนายอธิปัตย์ เปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งหลังจากได้มีการโอนเงินจำนวนกว่า 6 แสนบาทค่ามะขามเข้าบัญชีแล้ว
จากนั้นเวลา 12.16 น.ก็ได้มีการถอนเงินที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขาแพร่ ไปจำนวนกว่า 6 แสนบาทออกไปจากบัญชีจนหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการนำภาพขณะเข้าไปในธนาคารให้ดูด้วย ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ว่าไม่ใช่ภาพลูกชายของตน
โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการออกหมายจับบุคคลตามภาพแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นลูกชายของตนเอง ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ทางเจ้าหน้าที่ ได้มีการเรียกตัวบุตรชายไปเข้าให้ปากคำอีกครั้ง ตนเองในฐานะผู้เป็นแม่ ก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องต่อสื่อมวลชน เพื่อเป็นสื่อกลางในการขอความเป็นธรรมผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบให้กับลูกชายตนด้วย
พร้อมกับฝากเตือนให้ประชาชนทั่วไปเป็นอุทาหรณ์ว่าต้องเก็บบัตรประชาชนไว้ให้ดี เมื่อทำบัตรหายก็ควรจะมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นมาตรการป้องกันการนำบัตรไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือก่อให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของบัตร เช่นเดียวกับลูกชายตน
นอกจากนี้ นางอรัญญา ยังระบุว่า ที่ผ่านมาได้มีการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับลูกนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ด้วยโดยอ้างว่าฉ้อโกงเงินไปราว 4 แสนบาท ซึ่งคล้ายๆ กับเคสที่เกิดขึ้นกับบัตรประชาชนชนของลูกชายของตนครั้งนี้