พระหายตัวปริศนา กลายเป็นศพผูกคอตาย หลังไปงานศพแม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  (5 ก.ย. ) เมื่อเวลา 16.30 น.ที่ผ่านมา สภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุพบพระสงฆ์ ผูกคอเสียชีวิต ที่บริเวณข้างวัดทับทิมนิมิต บ.หนองกระทม หมู่ที่ 18 ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์  ที่เกิดเหตุ เป็นป่าละเมาะหลังวัดทับทิมนิมิต บ.หนองกระทม ม.18 ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีชาวบ้านมามุงดูกันจำนวนมาก

พบศพ พระภิกษุ อยู่ในสภาพ ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตนเองห้อยโตงเตงกับกิ่งไม้สูงจากพื้นที่มาณ 2 เมตร  สภาพศพคลุมด้วยจีวร ส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ และมีแมลงวันตอมเป็นจำนวนมาก หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาจุดกาบเชิง จึงได้นำศพลงมาด้วยความทุลักทุเลเพื่อตรวจสอบ

ทราบชื่อผู้ตายต่อมา คือ พระภิกษุ เพียว อายุ 40 ปี เป็นพระลูกวัดทับทิมนิมิต บ.หนองกระทม สภาพศพไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด  โดยมีพระสงฆ์ในวัดเดียวกันได้ร่วมกันสวดส่งวิญญาณให้ผู้ตายไปสู่ภพภูมิที่ดี ขณะนั้น หลังเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยนำร่างลงมาถึงพื้น

เจ้าหน้าที่สอบถามจากญาติ ทราบว่าพระรูปดังกล่าวได้หายออกจากวัดไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังไปสวดอธิธรรมศพให้กับผู้เป็นแม่คือ นางสาน อายุ 71 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชรา โดยตั้งบำเพ็ญกุศลศพ อยู่ที่บ้านพัก หมู่ 18 บ.หนองกระทม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมกับแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง เพื่อให้ออกค้นหา จนกระทั่งชาวบ้านได้มาพบเป็นศพดังกล่าว

ขณะที่ ร.ต.ท.ธานี อินทรนุช พนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของพระรูปดังกล่าว น่าจะเกิดจากความรักและความผูกพัน ที่ลูกมีต่อแม่มาอย่างยาวนาน ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันปกติอย่างสถานะของครอบครัวทั่วไปก็ตาม เพราะลูกชายบวชเป็นพระสงฆ์ มาแล้ว 6 พรรษาก็ตาม หลังจากที่มารดาผู้เป็นแม่เสียชีวิตลง น่าจะเกิดจากอาการเสียใจ เครียด ซึมเสร้าและยังทำใจไม่ได้ จึงตัดสินใจผูกคอตัวเองลาโลกดังกล่าว

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตแล้ว ญาติๆต่างไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป