เจาะลึกชีวิต อาจารย์โจ ไลฟ์โค้ช ผู้ทำนายชีวิต “เอมมี่ แมกซิม” หลังสี่สิบมีสิทธิ์ป่วยเป็น “อัมพาต”

 

เจาะลึกเรื่องราวชีวิต อาจารย์โจ ไลฟ์โค้ช ดูแล้วใช่เลย
ผู้ตรวจชะตาชีวิต “เอมมี่ แมกซิม” หลังสี่สิบมีสิทธิ์ป่วยเป็น “อัมพาต”

ทำเอาวงการหมอดูถึงกับอึ้ง!! ไปเลยทีเดียว เมื่อสาวทรงโตอดีตแมกซิมอย่าง เอมมี่-อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ ถูกเชื้อเชิญให้ไปนั่งพูดคุยในรายการ “ดวงดี ไลฟ์โค้ช” ทางช่องBeauty Channel IPM47 เป็นเทปแรกที่มี อาจารย์โจ ไลฟ์โค้ช หรือ ณภัทร แซ่เฮ้งวัย 29 ปี ที่จะมานั่งเป็นผู้ตรวจดวงชะตาของเหล่าดาราซุปตาร์ หรือศิลปิน นักแสดง ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมพูดคุยในรายการแต่ละสัปดาห์

อาจารย์โจใช้ศาสตร์มหาสัตตเลข ศาสตร์ตัวเลข นามมงคล ฮวงจุ้ย มาเป็นตัววิเคราะห์ และที่เจ๋งกว่านั้นยังมีเรื่องของ Life Coach และ NLP การเรียนรู้ความสำเร็จของชีวิตประกอบการดูเลขศาสตร์ การปรับเปลี่ยน ปรับสมดุลชีวิตให้มีความสุขและประสบความสำเร็จมาร่วมวิเคราะห์ดวงชะตาด้วย เรียกได้ว่ามากกว่าแม่นยำ คือดูแล้วใช่เลย แก้ไขปัญหาชีวิตได้จริง ดวงของเราจะดีได้ ถ้าคุณรู้จักแผนที่ชีวิตของคุณ!!  ตามคอนเซ็ปท์เขาล่ะ!!!         

หลังจากได้ข้อมูลของสาวเอมมี่ มาแล้ว อาจารย์โจ ก็เริ่มวิเคราะห์ตามดวง แล้วก็พบว่าเรื่องการงานดีหมด เว้นเรื่องสุขภาพ ที่หลังอายุขึ้นเลข 4 สาวเอมมี่มีสิทธิ์ป่วยเป็น“อัมพาต” งานนี้ทำเอาสาวเอมมี่ถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ แล้วก็ขอคำแนะนำจากอาจารย์โจ รวมทั้งดวงตั้งท้องลูกคนที่ 3 ที่ขอบอกว่าคุณต้องดูจากรายการนี้เท่านั้น!! (ออกอากาศเทปแรกอังคารที่ 14 กันยายน เวลา 14.00 น. ทางช่อง Beauty Channel IPM47)               

ด้วยเหตุนี้เราจึงติดต่อเพื่อขอพูดคุยกับ อาจารย์โจ ไลฟ์โค้ช ดูแล้วใช่เลย ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน? ทำไมถึงกล้าผ่าดวง เอมมี่ เช่นนี้ มาทำความรู้จัก อาจารย์โจ ไลฟ์โค้ช จากบทสัมภาษณ์เหล่านี้กันค่ะ!!!

อาจารย์โจเข้าสู่วงการหมอดูได้อย่างไร ?

เมื่อก่อนเป็นคนที่ ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลย จนวันหนึ่งเกิดป่วยแบบไม่มีสาเหตุ ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์บอกว่าไม่มีสาเหตุ จึงหาคำตอบด้วยเรื่องราวที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ศึกษาเรื่องดูดวง ศึกษาเรื่องของจิต ศึกษาของภพชาติ เลยเริ่มต้นด้วยการไปเรียนศาสตร์หมอดู เริ่มทำนายพยากรณ์ หาเงินทำบุญทอดผ้าป่า แล้วนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็นหมอดูครับ หลังจากนั้นก็เปิดแฟนเพจ มีนิตยสาร จากเครือขวัญเรือนมาให้ขึ้นปก นิตยสาร I SEE หน้าปกเป็นหมอดูเน็ตไอดอล ถือว่าเข้ามาอีกสู่วงการอย่างfเต็มตัว ผมเรียนจบด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศที่ ม.บูรพา แต่ทำงานด้านการตลาดและทำงานด้านการขาย ด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้จัดการฝ่ายขาย จนถึงเป็นที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดให้กับบริษัท อสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก เป็นนายหน้าที่ดิน ทำงานป้ายโฆษณา แล้วก็ทำหลายอย่างที่เป็นนายหน้า ตอนเด็กๆ ลำบากมากๆทำหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่เด็กปั๊ม พนักงานเซเว่น เด็กเสิร์ฟ

ชีวิตดราม่าเลย ?               

ก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ เรียกว่าผมต่อสู้ดิ้นรนกับชีวิตมากกว่าครับ และไม่คิดว่าตัวเองจะมาเป็น หมอดู บางทีก็รู้สึกอึ้งๆ เหมือนกันนะครับ

อาจารย์มีวิธีในการดูดวงอย่างไร ?

ผมใช้หลากหลายศาสตร์ผสมผสานกันนะครับ ในการทำการณ์พยากรณ์ออกมาแต่ละครั้ง เพื่อให้การพยากรณ์มีความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำ และให้เกิดความประทับใจ เกิดความศรัทธาระหว่างคนดูที่เข้ามาหาเรา ถ้าเป็นในเรื่องของดวงชะตา เราจะดูด้วยศาสตร์ของมหาสัตตเลข ใช้เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ และทำการโค้ชชิ่ง ซึ่งตรงนี้ล่ะครับเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการแก้ไขปัญหาของแต่ละคน ศาสตร์โค้ชชิ่ง ผสมผสาน NLP เล็กๆ จะทำให้คนที่เข้ามาปรึกษานั้นเข้าใจปัญหา และทำให้เค้าแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบสมัยก่อนด้วยวิธีการทำบุญการตักบาตร ไหว้พระ ปล่อยปลา ตรงนั้นมันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุครับ เพราะปัญหาล้วนแล้วเกิดจากตัวผู้ที่มาพยากรณ์ทั้งสิ้น หลายคนมีวิธีคิดที่ผิด หลายคนใช้ชีวิตไม่ถูกต้อง หลายคนตีความและเข้าใจโลคในแบบที่ผิดเพี้ยนหลายคนไม่ศรัทธา ไม่รักในตัวเอง หลายคนมองโลกในแง่ลบ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เค้าดวงไม่ดี

ผมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเบอร์มงคล ยังรับเปลี่ยนเบอร์พลิกชีวิต  ตั้งชื่อมงคล ชื่อแบรนด์ และทำการดูฮวงจุ้ย  ให้กับกิจการร้านค้า บ้านเรือนที่อยู่อาศัยอีกด้วยนะครับ เมื่อทุกคนมีปัญหาบ้านและที่ทำงาน กิจการร้านค้าของตัวเอง ถือว่าเป็นจุดที่มีความสำคัญเราจะต้องปรับปรุงแก้ไขให้เกิดพลังงานที่ดี เพื่อกระตุ้นคนในบ้านหรือเจ้าของดวง เกิดพลังงานที่ดี เป็นตัวกระตุ้นพลังธรรมชาติให้เกิดทรัพยากรในตัวเอง จะได้มีพลังในการใช้ชีวิต ชีวิตจะได้กลับมามีความสุขอีกครั้ง พอเรามีความสุข ชีวิตของเราก็จะกลับมาดีอีกครั้ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม การงาน การเงิน ความรักความสัมพันธ์ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ส่วนศาสตร์อื่นๆ นอกจากมหาสัตตเลข เลขมงคล โค้ชชิ่ง NLP  ฮวงจุ้ย แล้ว ยังมีไพ่ยิปซี พิธีกรรม ลงนะหน้าทอง โหงวเฮ้ง

Feedback จากคนที่มาดู ส่วนใหญ่ว่าอย่างไรบ้าง ?

อึ้ง ทึ่ง แล้วก็ชื่นชอบในการให้คำแนะนำของเรา ชีวิตเขาดีได้ครับ แล้วเขามีความสุขมากๆ แบบไม่เคยเป็นมาก่อนบางคนไม่เคยนอนหลับมาเลยครับ ต้องพึ่งยานอนหลับ แต่พอได้ดูดวงกันด้วยศาสตร์นี้ เค้ากลับไปนอนหลับเลยครับ

อวยตัวเองไปหรือเปล่า ?               

ไม่นะครับ ผมดูจากคนที่ดูดวงจากผม แล้วเขาก็มาเล่าให้ผมฟังว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง อย่างพี่หญิง (อภิสรา รักชาติ) แกมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และไม่เคยนั่งสมาธิเลย ผมก็แนะนำวิธีการทำสมาธิแบบสั้น แล้วพี่หญิงก็เอาไปทำ ตอนนี้พี่หญิงก็ทำสมาธิได้แล้ว นอนหลับดีขึ้น และมีการปรับเปลี่ยนเรื่องความคิด มองแง่บวก ตอนนี้พี่หญิงก็มีความสุขมากขึ้นครับ ส่วนของคุณเอมมี่นี่ ดวงเรื่องสุขภาพมาแรงมาก ตามพื้นฐานดวงบอกเลยว่า มีปัญหาเรื่องของภายใน ถึงขนาดเป็นอัมพาตเลย ซึ่งตอนที่เราดู เราไม่ได้ดูแบบพร่อยๆ คุณเอมมี่ก็อึ้งเหมือนกัน เพราะไม่เคยถูกทักเรื่องนี้เลย แล้วก็ถามหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ผมก็บอกไป แนะนำ แล้วก็หาวิธีป้องกัน ซึ่งคุณเอมมี่เขาก็เชื่อนะครับ เรื่องตั้งท้องลูกคนที่ 3 ก็ดูจากตัวเลขเลยครับ ตัวเลขบอกเลยว่าจะมี แต่จะจริงเท็จแค่ไหน ต้องลองไปถามคุณเอมมี่ดูครับ (หัวเราะ) 

เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ดูดวง แต่ช่วยแนะนำการใช้ชีวิตและปรับแนวคิดด้วย ?

ใช่ครับ ทุกวันนี้ผมพยายามที่จะใช้ความรู้ความสามารถของตัวเอง ในการช่วยเหลือผู้คนครับ ทำให้ทุกคนมีความสุข แต่ก่อนที่เขาจะมีความสุขได้ ตัวเราเองก็จะต้องเป็นแบบอย่าง ทำให้ตัวเองมีความสุขก่อนครับ ใช้ชีวิตที่ควรจะเป็น มีความสุขในทุกๆ วัน  แล้วก็แนะนำ วิธีการต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นวิธีคิด ความเข้าใจในการใช้ชีวิต วิธีการมองโลก ทำความเข้าใจตัวเองด้วยครับ

การดูดวงแบบ NLP เป็นอย่างไร ?

จริงๆ แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่เลยครับ เพราะว่าการดูดวงก็จะใช้ศาสตร์ การดูดวงอย่างเดียว ส่วนเอ็นแอลพีนั้น ก็จะเป็นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาชีวิตไม่มีใครเอามาผสมผสานกับการดูดวง ผมเองถือว่าเป็นคนที่เริ่มต้นเป็นคนแรกของประเทศไทย ส่วน NLP เรียนมาจากครูบาอาจารย์ ทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมถึงศึกษาจากพุทธศาสนา หลัก NLP ก็ล้วนแล้วมาจากศาสนาพุทธทั้งนั้นครับ

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับคำว่า หมอดู คู่กับ หมอเดา ?

ส่วนตัวมองว่าเป็นความคิดเห็นที่เข้าใจผิด เพราะหมอดู จะต้องมีหลักวิชา มีความรู้ ในการพยากรณ์ ในการทำนาย ใช้หลักของการคาดการณ์ความน่าจะเป็น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแม่นยำถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวครับ ไม่น่าจะมั่วนะครับ ส่วนใครที่เข้าใจแบบนั้นก็ถือว่าไม่ผิดเช่นเดียวกันครับ

ความใฝ่ฝันในอาชีพหมอดูของอาจารย์หรืออะไร ?

ได้เป็นที่รู้จักครับ ได้ดูดวงคนดังๆ ของประเทศ ได้เดินทางไปต่างประเทศ ได้ช่วยเหลือผู้คนเยอะๆ แล้วก็ได้บอกเรื่องราวบางอย่างที่เป็นการแก้ปัญหาของมนุษย์จริงๆ ครับ

ทราบมาว่าเพิ่งได้รับรางวัลมาด้วย ?

ใช่ครับ รางวัลระฆังทองและรางวัลพระพิฆเนศวร รางวัลทำประโยชน์ให้กับสังคม และบุคคลที มีความประพฤติดี เป็นแบบอย่าง รู้สึกเป็นเกียรติ ดีใจครับที่ได้รางวัลนี้เป็นพลังเป็นแรงผลักดันที่ดีที่ทำให้ผม ได้ทำสิ่งดีๆ เพื่อตัวเองและสังคม  โดยเฉพาะการบรรยาย การสร้างแรงบันดาลใจและการหาเป้าหมายชีวิต ที่ผมบรรยายให้กับเรือนจำ โรงเรียนมหาลัย ต่างๆ และรางวัลนี้น่าจะทำให้คนรู้สึกมั่นใจและเชื่อมั่นกับหมอดูมากยิ่งขึ้น เพราะอาชีพหมอดูก็น่าจะเป็นอาชีพที่ช่วยเหลือผู้คน ให้แสงสว่าง ให้คำปรึกษาไม่ใช่อาชีพที่ดูแล้วเหมือนจะหลอกลวงหากินกับความเชื่องมงายของคนครับ ซึ่งการรับรางวัลครั้งนี้ผมไม่ได้รู้สึกกดดัน แต่กลับรู้สึกสบายๆ เป็นพลังบวก และเป็นความน่าภูมิใจของชีวิตครับ

แนวคิดของการเป็นหมอดูของอาจารย์คืออะไร ?

เป็นหมอดูอย่างมีความสุขและแก้ไขปัญหาชีวิตคนได้อย่างแท้จริง ตรงไปตรงมาซื่อสัตย์สุจริต ช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุดครับ ซึ่งชีวิตเราเองก็จะต้องมีความสุขก่อน ชีวิตเราจะต้องดีก่อน เมื่อเราดีพร้อม เราก็สามารถช่วยเหลือผู้คนได้อย่างเต็มที่ครับ ส่วนเป้าหมายชีวิตนะครับก็คือ ต้องดังระดับประเทศครับ ที่ดังเพราะจะได้ช่วยเหลือผู้คน อยากจะเปิดคลาส ให้ทุกคนมาเรียนรู้เรื่องของชีวิตและจิตใต้สำนึก เพราะว่าเรื่องราวแบบนี้ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ระบบการศึกษาไทยไม่ได้นำเข้ามาสอนครับ อยากให้ทุกคนได้เรียนรู้ ความเข้าใจในการใช้ชีวิต คุณสามารถมีความสุขได้ในทุกขณะทุกเวลา ชีวิตเราอยู่ได้ด้วยความสุข อยู่ได้ด้วยความสัมพันธ์ที่ดี กับคนในครอบครัว ไม่ใช่เงินทอง เพราะฉะนั้นขอฝากตัวกับทุกท่านครับ ช่วยสนับสนุน เป็นกำลังใจให้กัน และติดตามผลงานของผมด้วยนะครับ