สวยเสี่ยงได้! เจาะลักยิ้มด้วยจิว ชีวิตเสี่ยงปลิวก่อนสวยจริงหรือ.?

ลองคิดดูว่าหากคุณกำลังยิ้มหวานโดยมีแก้มบุ๋มอยู่ตรงกลางระหว่างแก้มทั้งสองข้าง หรือ ลักยิ้ม ความน่ารักเวลายิ้มของคุณจะสวยหวาน หรือ หล่อแบบอบอุ่นแค่ไหน นั่นคือจินตนาการของคนที่อยากมีลักยิ้มซึ่งใครๆก็ปรารถนาอยากจะมีรอยยิ้มพิมพ์ใจด้วยกันทั้งนั้น

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของแฟชั่นชนิดใหม่ที่กำลังฮิตในหมู่วัยรุ่นนั่นคือการเจาะแก้มด้วยจิว ด้วยราคาที่ไม่แพงเหมือนกับการศัลยกกรรมและผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจจึงทำให้วัยรุ่นทั้งหญิงชายแห่กันไปเจาะแก้มเพื่อทำลักยิ้มกับช่างเจาะมากขึ้น

แต่คำถามที่ตามคือการเจาะแก้มทำลักยิ้มด้วยจิวจะปลอดภัยจริงหรือไม่ และที่สำคัญผิดกฎหมายหรือป่าว ก่อนอื่นลองมาดูกระบวนการหรือวิธีการเจาะลักยิ้มจากช่างเจาะกันบ้างว่าปลอดภัยจริงหรือไม่?

ซึ่งวิธีการเจาะลักยิ้มด้วยจิวนั้น ช่างเจาะจะทายาชาบริเวณแก้มของผู้มารับบริการ จากนั้นจะให้อมแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อในปาก ก่อนลงเข็มเจาะแก้มทีละข้างทะลุเข้าไปในช่องปาก หลังจากนั้นจึงใส่จิวติดไว้ที่แก้มทั้งสองข้างประมาณ 1-2 เดือน จึงกลับมาถอดจิวออก ก็จะได้รอยบุ๋มระหว่างแก้มเวลายิ้มก็เห็นเป็นรอยคล้ายลักยิ้ม

จากการสอบถามช่างเจาะผู้คร่ำหวอดในวงการและเคยให้บริการเจาะลักยิ้มด้วยจิวได้เปิดเผยกับทาง Sanook News! ว่า “ผมเป็นช่างเจาะมานานโดยรับเจาะทุกส่วนบนร่างกาย รวมทั้งการเจาะแก้มเพื่อทำลักยิ้มด้วย ซึ่งจากประสบการณ์เจาะลักยิ้มมาหลายคนก็ไม่เคยเห็นใครมีอันตรายร้ายแรงจนถึงเข้าโรงพยาบาลนะ

ซึ่งส่วนตัวผมจะรักษาความสะอาดอยู่แล้ว ตั้งแต่เช็ดอุปกรณ์ด้วยแอลกอฮอล์ ใส่ถุงมือ ปิดปาก ทำความสะอาดผิวลูกค้าอย่างดี เรื่องติดเชื้อจึงไม่เคยเกิดขึ้นกับผม และก็มีลูกค้าหลายรายที่รีวิวปากต่อปากมาเจาะกับผมมากขึ้น ส่วนตัวมองว่าถ้าทำด้วยความสะอาดก็น่าจะปลอดภัยไม่งั้นก็ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการกับผมหรอก

แต่ปัจจุบันก็เลิกเจาะลักยิ้มแล้วเพราะเห็นข่าวว่าผิดกฎหมายจึงรับแค่เจาะตามร่างกายเฉยๆก็พอ ส่วนความเห็นจากแพทย์ที่ว่าเสี่ยงอันตรายผมคิดว่าให้เป็นแนวทางให้กับลูกค้าที่จะมาใช้บริการตัดสินเอาเองดีกว่า

เพราะไม่จำเป็นแค่การเจาะหรอก หากเราจะทำอะไรก็เสี่ยงทั้งนั้น ขนาดทำศัลยกรรมที่มีหมอรักษายังติดเชื้อได้เลย ฉะนั้นแล้วให้คนที่ต้องการทำเค้าพิจารณาเอาเองแล้วกันว่ามันเสี่ยงหรือไม่เสี่ยง” ช่างเจาะกล่าวทิ้งท้าย

ทีนี้ลองมาดูความคิดเห็นของผู้ใช้บริการกันบ้างว่าเค้ารู้สึกอย่างไรกับเจาะแก้มทำลักยิ้มด้วยจิว ซึ่งจากการสำรวจโดย Sanook News พบว่า

ผู้สนใจส่วนใหญ่จะดูรีวิวลูกค้าจากเว็ปไซต์ของทางร้าน และก่อนการตัดสินใจมาใช้บริการจะเข้ามาดูที่ร้านก่อนว่าทางร้านมีวิธีการอย่างไรบ้าง เช่น การรักษาความสะอาด กระบวนการปลอดภัยหรือไม่ และที่สำคัญผลลัพธ์เป็นอย่างไร

โดยสาเหตุหลักที่วัยรุ่นนิยมเจาะแก้มเพื่อทำลักยิ้มนั้นเนื่องจากมองว่าราคาไม่แพงถูกกว่าการทำศัลยกรรมมากมีตั้งแต่หลักร้อยถึงพันบาทเท่านั้นเอง และผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าพอใจจึงมีการแชร์กันปากต่อปากและโลกออนไลน์ ส่วนความรู้สึกของผู้เข้ารับบริการก็รู้สึกเพียงเจ็บเพียงเล็กน้อยและปวดตึงบ้างเท่านั้นเอง

แต่ก็ใช่ว่าการเจาะแก้มทำลักยิ้มด้วยจิวจะไม่มีปัญหาเพราะลูกค้าบางรายต้องประสบกับปัญหาหัวจิวจมลงไปในแก้มจนทำให้เนื้อด้านข้างปิดหัวจิวทั้งหมด ต้องไปให้หมอผ่าเอาหัวจิวออกซึ่งราคามากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป เพิ่มอีกนิดหน่อยก็สามารถทำศัลยกรรมลักยิ้มได้แล้ว

ด้าน นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยถึงเรื่องการเจาะแก้มทำลักยิ้มด้วยจิวว่า "การเจาะเข้าไปที่แก้ม โดยคนไม่ใช่หมอ ไม่ใช่พยาบาล  ถือว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมาก

เพราะบนใบหน้าประกอบไปด้วยเส้นประสาท และกล้ามเนื้อจำนวนมาก หากผู้กระทำไม่มีความรู้ และความเชี่ยวชาญ ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ปากเบี้ยว ใบหน้าผิดรูป และอาจเกิดการติดเชื้อที่บาดแผล จนแผลเน่า หรือติดโรคติดต่อจากเข็มที่ใช้เจาะได้"

ส่วนการรับเจาะแก้มด้วยจิวเพื่อทำลักยิ้มนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายข้อหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และข้อหาจำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

การเจาะลักยิ้มด้วยจิวนั้นหากมองดูในมุมทางการแพทย์ถือว่ามีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายจากการติดเชื้อด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด และอาจทิ่มไปถูกเส้นประสาทได้ แต่หากมองในมุมของผู้ใช้บริการก็ยังไม่มีใครเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ติดเชื้อหรือพิการ

เพราะฉะนั้นแล้วหากใครสนใจที่จะเพิ่มความสวยด้วยลักยิ้มคงต้องพิจารณาและตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วล่ะว่าอยากจะเสี่ยงเพื่อสวยจริงหรือ...