สาว 17 ยันไม่ได้เป็นเหยื่อถูกรุมโทรม ร่วมกับเด็กหญิง 14 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 ก.ย.) น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เป็น 1 ใน 2 ที่ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) เหยื่อรุมโทรม อายุ 14 ปี อ้างถึงว่าเป็นผู้ที่ถูกระทำชำเราอยู่ก่อนที่เหยื่อจะเดินทางไปถึง ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปยัง สภ.ตะกั่วทุ่ง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน
โดย น.ส.บี ระบุว่า ที่เด็กหญิงอายุ 14 ได้กล่าวหาตนเอง ไม่เป็นความจริงเลย และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนตนเองนั้นรู้จักกับเจ้าของขนำหลังนี้ตั้งแต่สมัยที่ทำธุรกิจแมงกะพรุน จึงได้แวะเวียนมาหาและนั่งเล่นอยู่เป็นประจำ
ด้าน นายเอก (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนเองรู้สึกเครียด หลังจากตกเป็นจำเลยสังคมว่าเป็นผู้ร่วมรุมโทรมเด็ก ว่าเป็นเจ้าของขนำที่ใช้ในการรุมโทรม รวมถึงแหล่งเสพยา ทั้งที่ไม่เป็นความจริง และพบว่า คำกล่าวหาที่ว่ายังมีเด็ก 2 คน ที่โดนล่วงละเมิดทางเพศอยู่ในเหตุการณ์ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งตนเองนั้นพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในทุกเรื่อง เพื่อคลายความกังวลและสร้างความชัดเจนให้สังคมโดยเร็ว ส่วนขนำหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อ ปี 2560 หลังช่วงฤดูตักแมงกะพรุนหมดไป ซึ่งเป็นขนำริมหาด จึงมีคลื่นซัดพาเศษขยะเป็นจำนวนมากเข้ามาติดบริเวณรอบๆ ขนำ ไม่ว่าจะเป็นขวดยาแก้ไอ ขวดน้ำอัดลม หรือ ฝาขวดเจาะรู
ผู้สื่อข่าวรายงาน ทนายฮานีฟ หยงสตาร์ เลขาธิการและทนายมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ และผู้รับว่าความให้กับเหยื่อรุมโทรม 14 ปี ซึ่งอยู่ในระหว่างการการเดินทางมายังจังหวัดพังงา ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และทำการพูดคุยกับพยานใหม่ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับคดี
พร้อมมาสอบถามความคืบหน้าของคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นมั่นใจในพยานและหลักฐานของอัยการที่จะใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 3 คนแรก มีมากพอสมควร ส่วนประเด็นการค้ามนุษย์นั้น ค่อนข้างมั่นใจว่าครบองค์ประกอบตามพรบ.ค้ามนุษย์ 2560