พรสวรรค์ที่แลกด้วยชีวิต! ตำนานเทพยากรณ์ “หมอดูอีที”
ปิดตำนานเทพยากรณ์ "หมอดูอีที" หมอดูตาทิพย์ชื่อดังชาวพม่า หรือ นางส่วย ส่วย วิน ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ก.ย.60 เวลา 04.20 น.ที่ผ่านมา ด้วยวัย 58 ปี ที่บ้านพักของเธอเองในเขต ติ่งอ่านหย่น ทางตะวันออกของเมืองย่างกุ้ง ประเทศพเมียนมา
สำหรับหมอดูอีทีกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากความสามารถในการทำนายโชคชะตาอนาคตและดูดวงได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ ดวงบ้าน ดวงเมือง ที่ทำนายได้แม่นราวกับตาเห็น จึงมีบรรดานักการเมืองระดับบิ๊กเนมจากทั่วโลกเดินทางมาให้ หมอดูอีที ช่วยทำนายดวงให้
ไม่เว้นแม้แต่นักการเมืองไทย หรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และเหล่าดาราไฮโซของเมืองไทยก็ล้วนแต่เคยมาดูดวงกับหมอดูอีทีคนนี้กันแทบทั้งนั้น
ซึ่งค่าพยากรณ์ หมอดูอีทีจะคิดครั้งละ 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35,000 บาท แต่ละคนจะใช้เวลาทำนายไม่เกิน 15-30 นาที โดยเขียนคำถามเป็นภาษาอังกฤษลงในกระดาษ ไม่เกิน 5 คำถาม ถ้าเป็นคำถามสำคัญก็ได้แค่ 3 คำถามเท่านั้น
จากนั้นหมดดูอีทีจะทำนายโดยการสื่อสารกับ “มะตีตี้” น้องสาว ให้เป็นผู้ช่วยแปลเนื่องจากว่าหมอดูอีทีเป็นใบ้ไม่สามารถพูดได้
ทั้งนี้คาดว่าหมอดูอีทีมีรายได้ต่อเดือนราว 340 ล้านบาท โดยเงินที่ได้มาก็จะนำไปทำบุญสร้างสาธารณประโยชน์ในเมียนมาจำนวนมาก รวมทั้งยังก่อสร้างโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลาง มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ในนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ชาวพม่าผู้ยากไร้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าหมอดูอีทีจะมีรายได้มากมายมหาศาลแต่ก็ทำตัวเหมือคนธรรมดาทั่วไป ที่สำคัญความสามารถในการทำนานทายทักก็ไม่ใช่ได้มาแบบฟรีๆ แต่ต้องแลกกับชีวิตตัวเองไปตลอดกาล ย้อนดูจุดเริ่มต้นตำนานเทพยากรณ์ หมอดูอีที
หมอดูอีที มีชื่อจริงว่า นางส่วย ส่วย วิน เป็นหมอดูชื่อดังชาวพม่าอาศัยอยู่ในบ้านธรรมดา เขตติงกานจูน (Thingangyun) รอบนอกกรุงย่างกุ้ง โดยที่มาของชื่อ อีที (ET) เป็นคำย่อของ อีติ (E Thi) หรือ มะขุ่ย นั่นเอง แต่คนส่วนใหญ่มักจะจดจำว่า ET มาจากมนุษย์ต่างดาว เพราะรูปร่างของหมอดูอีทีนั้นคล้ายกับมนุษย์ต่างดาวนั่นเอง
หมอดูอีทีเป็นหญิงรูปร่างเล็ก เป็นใบ้ หลังค่อม นิ้วคด เท้าพลิก มือเกร็ง แต่ว่าพรสวรรค์ที่เธอได้มานั้นช่างแตกต่างจากร่างกายเหลือเกิน พิสูจน์ได้จากการทำนายเลขแบงค์ ไม่ว่าจะเป็นแบงค์ดอลล่าร์ หรือแบงค์ประเทศอะไร หมอดูอีทีก็จะทำนายได้อย่างตรงเป๊ะ ๆ ทุกตัว
หมอดูอีทีเกิดในครอบครัวสามัญชนธรรมดา คุณพ่อเป็นผู้จัดการธนาคาร และหมอดูอีทีไม่ได้พิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่มีพัฒนาช้ากว่าเด็กทั่วไปถึง 2 ปี ซึ่งพ่อแม่มารู้อาการแบบชัวร์ๆเมื่อตอนที่หมอดูอีทีอายุได้ 9 ขวบ
จากนั้นความน่าอัศจรรย์ที่ก่อให้เกิดญาณทิพย์ เกิดขึ้นเมื่อหมอดูอีทีมีอายุย่างเข้า 15 ปีหลังจากที่เข้าไปไหว้พระก็เกิดอาการไม่สบายเอามากๆ แล้วอยู่ๆ หูก็หนวกไม่ได้ยิน จากที่เคยพูดได้ปกติก็ไม่ได้สามารถพูดได้กลายเป็นใบ้ไปเลย
แต่สิ่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามาคือเมื่อหมอดูอีทีเริ่มหูหนวกไม่ได้ยินมากขึ้นเท่าไหร่พลังญาณทิพย์ก็มีมากขึ้นเท่านั้น สามารถมองเห็นอนาคตได้พูดอะไรก็ถูกไปหมด ซึ่งความสามารถดูดวงเริ่มต้นเมื่อตอนอายุ 9 ขวบจากนั้นพลังก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีความสามารถพิเศษอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าหมอดูอีทีสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่น แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตปกติเพราะหมอดูอีทีกลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถเข็ญตลอดเวลาทั้งที่ก่อนหน้านี้ชีวิตก็ปกติสุขไม่มีความพิการแต่อย่างใด
ทั้งนี้ความพิการที่เกิดขึ้นหมอดูอีทีเคยกล่าวเอาไว้ว่าชาติก่อนเคยหักมือแม่ ชาตินี้ก็เลยพิการ ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 2 ขวบ หมอดูอีทีระลึกชาติได้จึงพูดว่าอดีตชาติเคยหักมือแม่พอแม่ตายไป เมื่อโตขึ้นก็ไปเป็นมัคทายกของวัด แล้วถูกโจรที่มาปล้นวัดเอาน้ำร้อนมาลวกทั้งตัว เมื่อเกิดมาเกิดชาตินี้ก็เลยเกิดมาในร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
ส่วนความสามารถทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำเหมือนมีพรายกระซิบนั้น หมอดูอีทีบอกว่ามีแม่ที่เป็นเทวดาดูแลอยู่ และแม่ที่เป็นเทวดาก็เป็นคนบอกคำทำนายกับตนเองเพื่อให้ไปบอกคนดูดวงต่อ โดยตอนเด็กๆ หมอดูอีทีไม่ต้องอ่านหนังสือเลย แต่สามารถสอบได้ที่หนึ่งตลอด เพราะแม่เป็นคนบอก
ด้านคำทำนายเกี่ยวกับการเมืองที่ทำให้คนไทยจดจำคือได้ทำนายเอาไว้ก่อนการจะมีการเลือกตั้งในปี 2544 ว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรจะตั้งพรรคใหม่สำเร็จ จะชนะ และเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่ฟ้าไม่ปรานี ต้องจรลีไปต่างถิ่นต่างแดน อีกทั้งดวงถึงขั้นชะตาขาด แนะนำให้แก้เคล็ดเสริมดวง
โดยทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เพื่อต่อดวงชะตาที่กำลังจะขาดให้กลับคืน มา เริ่มจากท่องมนต์บทสวด แล้วเดินวนรอบเจดีย์ชเวดากองไปทางซ้าย 3 รอบ ขวา 3 รอบ จากนั้นก็ต้องไปทำพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ชุดใหญ่ในถิ่นที่ทุรกันดาร
จากนั้นประมาณเดือนสิงหาคม 2547 อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปทัวร์นกขมิ้นภาคอีสานและภาคใต้,เดือนสิงหาคม 2549 จัดทัวร์นกขมิ้นอีกครั้งไปภาคอีสานและภาคเหนือ ว่ากันว่าการทัวร์นกขมิ้นนี้คือการแก้เคล็ดจากคำทำนายของหมอดูชาวพม่าคนนี้
ซึ่งภายหลังจากการเลือกตั้งสำเร็จในปี 2544 ไม่มีวี่แววว่าความนิยมของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะลดลง แต่แล้วก็กลับถูกกลุ่มคนเสื้อเหลืองเข้าต่อต้าน และถูกปฏิวัติรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย. 2549 จนไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้
ส่วนคำทำนายก่อนสิ้นใจได้พยากรณ์เอาไว้ว่า "จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ และมีสงครามโลก"
ซึ่งก่อนที่หมอดูอีที จะสิ้นใจที่บ้านพักของตนเองในย่างกุ้ง เธอได้ฝากข้อความสุดท้ายเอาไว้เตือนทุกคนให้อยู่ที่สูงๆไว้ น้ำกำลังจะท่วมใหญ่ ใครไม่เชื่อตายอย่างเดียว จะมีสงครามโลก ให้เก็บข้าวสารอาหารแห้งไว้เยอะๆ