หนูเล็ก เปิดใจหลังคุณพ่อเสีย ทำงานต้องยิ้มสู้ แม้จะกลับไปร้องไห้ทุกวัน

หนูเล็ก เปิดใจหลังคุณพ่อเสีย ทำงานต้องยิ้มสู้ แม้จะกลับไปร้องไห้ทุกวัน

หนูเล็ก เปิดใจหลังคุณพ่อเสีย ทำงานต้องยิ้มสู้ แม้จะกลับไปร้องไห้ทุกวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สูญเสียคุณพ่อผู้เป็นที่รักยิ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ สำหรับตลกสาวอารมณ์ดี "หนูเล็ก ภัทรวดี" หรือ "หนูเล็ก ก่อนบ่าย" โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า พ่อป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายซึ่งหนักกว่าระยะสุดท้าย เพราะไม่มีทางหาย แต่ที่ไม่ได้บอกใครเพราะไม่อยากให้ใครมาสงสารจนทำให้พ่อต้องทรุดลง ทั้งยังเผยต่อว่าพ่อเป็นคนเข้มแข็ง และให้เวลาครอบครัวทำใจนานถึง 6-7 เดือน พร้อมยอมรับเวลาทำงานยังคงยิ้มแย้มได้เป็นปกติ แต่กลับบ้านทีไรร้องไห้เพราะคิดถึงพ่อทุกที

ขอถามถึงเรื่องคุณพ่อ ?
"อันดับแรกหนูต้องขอโทษแฟนๆ และพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนที่ไม่ได้บอกว่าพ่อเป็นอะไรนะคะ เพราะว่าหนูไม่อยากให้ใครรู้แล้วจะสงสารพ่อ แล้วพ่อจะยิ่งทรุดลงค่ะ คือพ่อไปตรวจเจอก้อนเนื้อที่สมองเพราะพ่อปวดหัวก่อน พอเจอก้อนเนื้อที่สมอง คุณหมอก็เลยหาสาเหตุว่ามันมาจากไหน ก็มาจากปอดและตับ ติดเชื้อจากปอดและตับจนขึ้นสมอง กลายเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย ซึ่งมันมากกว่าระยะสุดท้ายค่ะ ยังไงก็ไม่หายค่ะ ก็พอรู้แล้วเริ่มทำคีโมไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่างเพราะพ่ออายุ 80 ปีแล้ว เราก็ตัดสินใจรักษาแบบธรรมชาติ คือให้พ่ออยู่กับโรคได้ จนพ่อบอกว่าทนได้นะ รับได้ด้วย พ่อก็อยู่ได้ 6-7 เดือน ก็มีเวลาให้พวกเราได้ทำใจนานมาก จนหนูเข้มแข็งเพราะพ่อสู้ เราก็เลยสู้ค่ะ"

ช่วงที่พ่อรักษาตัว เราเคยมีท้อไหม ?
"ตอนแรกหนูเป็นคนแรกที่ไปเอาผลมาจากคุณหมอ พอเอาผลมาปุ๊บก็อ่านไม่ออก มันเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย คือหนูขออนุญาตเอาไปดูก่อนญาติพี่น้อง หนูจะได้ทำใจได้ เพราะหนูรักพ่อมากและดูแลมาตั้งแต่เริ่ม ทีนี้ก็นึกถึงพี่มิค บรมวุฒิ เพราะพี่มิคเคยเรียนหมอมาก่อน เลยส่งไปให้พี่มิคดู พี่มิคก็เลยส่งไปให้น้องที่เป็นหมออ่านมา ตอนนั้นพี่มิคบอกว่าอาจจะเป็นมะเร็งนะหนูเล็ก หนูก็ร้องไห้เกือบครึ่งชั่วโมง ไม่กล้าขึ้นไปบอกพ่อ จนตัดสินใจขึ้นไปบอกพ่อก็ไม่ร้องไห้ ก็บอกพ่อว่าไม่เป็นไรนะ เราต้องสู้ เราต้องทน พ่อเขาฉลาด เขาก็รู้เอง"

ก่อนหน้านี้พ่อมีอาการอะไรบ้าง ?
"ติดเชื้อในปอด ติดเชื้อในกระแสเลือดค่ะ หมอบอกว่าทำอะไรไม่ได้เลย ให้ยาฆ่าเชื้อเป็น 20 ขวดแล้วก็ไม่หาย จนพ่อบอกและจดเป็นสัญญาไว้ว่าห้ามช่วยเหลือชีวิต ห้ามต่อท่อ ห้ามใส่สายยาง ห้ามเจาะคอเด็ดขาด เราก็เคารพในสิ่งที่พ่อตัดสินใจ พอพ่อบอกว่าอยากกลับบ้าน พี่ชายก็ถามว่าเอายังไง เราก็พาพ่อกลับบ้านตามที่พ่อต้องการ พอกลับบ้านปุ๊บ ประมาณ 00.50 น. พ่อก็หายใจแรงจากนั้นชีพจรก็ค่อยๆ ลดลงและจากไป ท่านเสียที่บ้านค่ะ เราได้ทำตามทุกอย่างที่คุณพ่อต้องการ"

พ่อสั่งเสียไว้ไหม ?
"ก่อนที่พ่อจะเสียประมาณ 2 วัน หนูก็อยู่กับพ่ออยู่แล้ว ก็ถามว่าพ่อกลัวตายไหม พ่อบอกว่าไม่กลัว และก็ถามต่อว่าพ่ออยากอยู่ต่อไหม พ่อบอกว่าไม่อยากอยู่แล้ว พ่อได้สั่งเสียเอาไว้และบอกกับพยาบาลที่เขาทำประวัติไว้ว่าหนูเป็นสิ่งที่พ่อภูมิใจมากที่สุดในชีวิต"

พอเราได้ยินคำนั้นรู้สึกภูมิใจไหม ?
"ตอนนั้นที่พยาบาลบอกคือโห มันน้ำตาไหล ตื้นตัน ภูมิใจมาก เพราะสิ่งที่เราทำ เราไม่ได้หวังอะไร เราอยากให้พ่อกับแม่เราสบาย ลูกคนอื่นเขาก็ทำ แต่ว่าพ่อพูดว่าสิ่งที่พ่อภูมิใจที่สุดในชีวิตคือหนู"

ก่อนท่านเสีย เราได้อยู่กับคุณพ่อไหม ?
"ไม่ได้อยู่ค่ะ แต่ก่อนที่พ่อจะทรุด หนูอยู่ประมาณแค่ 2 วันเอง"

เหมือนก่อนหน้านี้พ่อก็อยากอุ้มหลาน แต่ว่าไม่ทัน ?
"ใช่ค่ะ แต่หนูบอกกับพ่อแล้วว่ายังอยากดูแลพ่อให้ถึงที่สุดก่อน ไม่อยากมี"

ตอนที่พ่อบอกว่าไม่อยากอยู่แล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกยังไง ?
"ก็คิดในใจว่าพ่อคงเจ็บปวดและทรมานมากค่ะ พ่อจะบอกว่าขอให้หนูคอยอยู่กับเขาใกล้ๆ นะ อย่าไปไหน เวลาเขาอยู่กับหมอ เขากลัวหมอจะทำอะไร จะช่วยชีวิตเขา หนูก็บอกว่าพ่อไม่ต้องกลัว พอพ่อบอกแบบนั้นเราก็ต้องทำตามใจพ่อค่ะ"

เรียกว่าเตรียมตัวกับวาระความตายได้ไหม ?
"ใช่ค่ะ พ่อเป็นคนเตรียมตัว ปกติเขาเป็นคนฉลาด เขาเตรียมตัวเตรียมใจของเขาไว้แล้ว"

แล้วตัวเราเองทำใจได้ยังไง ?
"ตอนแรกหนูทำไม่ได้เลยค่ะ ประมาณเดือนแรก จนมาเห็นที่พ่อสู้ พ่อฉายแสงมาเสร็จแสงแรก พ่อดูไม่ไหว แต่พ่อออกมาก็ทำท่าเข้มแข็งแล้วบอกว่าเหมือนมีพลัง หนูนี่น้ำตาไหล พ่อหลอกเราอะ คืออยากให้เราทำใจค่ะ"

กำลังใจในครอบครัวเป็นไงบ้าง ?
"คือตอนนี้เป็นห่วงแค่แม่ แต่แม่ก็รู้สึกโล่งนะคะเพราะว่าเขาเครียดเวลาพ่อเจ็บ ตอนนี้ทุกคนเอาระยะเวลากลางวันทำใจได้ ทำงานได้ ยิ้มได้ แต่พอกลางคืนตกค่ำจะร้องไห้เพราะมันกลั้นไว้ไม่อยู่ค่ะ"

ยังคิดถึงอยู่ ?
"ยังคิดถึงเวลาเราหยอกกัน เวลาป้อนข้าวให้พ่อ เวลาพูดคุยกับพ่อค่ะ"

มีฝันถึงคุณพ่อไหม ?
"ก่อนที่พ่อจะสิ้น หนูทำงานถ่ายละครอยู่ แล้วแฟนอยู่ที่บ้าน แฟนไม่กล้าโทรมาบอก ประมาณตอนบ่าย 2 ทั้งกลิ่นธูปทั้งกลิ่นควันกลิ่นหมากเต็มไปหมดเลยในบ้านหนู แล้วแฟนไม่กล้าบอก ประมาณ 4 โมงเย็น พี่ชายโทรมาบอกว่าพ่อไม่ไหวละนะทำไง หนูเลยบอกว่าพาพ่อกลับบ้านเลย แต่ตอนนั้นอยู่ๆ หนูก็ถ่ายรูปท้องฟ้าแล้วพูดว่าคิดถึง แฟนก็เลยบอกว่าใช่แน่ๆ เพราะเขาก็ได้กลิ่นธูปแต่ไม่กล้าโทรบอก มันเหมือนเป็นลางบอกว่าพ่อคงจะไม่อยู่แล้ว"

หลังจากนี้ตั้งใจจะมีน้องตามที่พ่อต้องการไหม ?
"ปีหน้าค่ะ ก็บอกกับแม่แล้วว่าหนูจะดูแลแม่อย่างดีที่สุด จะเอาใจใส่ให้มากที่สุด คือจะดูแลแม่เหมือนเด็กคนนึงเลยค่ะ จะมีลูกให้แม่"

เชื่อว่าคุณพ่อจะมาเกิดเป็นลูกเราไหม ?
"อืม ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย คิดแต่ว่าพ่อไปสบายเพราะว่าตอนที่พ่อเสียแล้วหนูไปรดน้ำศพ พ่อไปแบบสบายใจ ไม่เจ็บปวดจริงๆ พอตอนที่เขากำลังจะเผาก็ดูอีกรอบ หนูไม่ร้องไห้เลยค่ะ เพราะหน้าตาพ่อเขาเหมือนไม่เครียดและนอนสบายค่ะ"

หลังจากพ่อเสีย มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นไหม ?
"ตอนนี้ยังไม่มีอะไรนะคะ แต่พรุ่งนี้เป็นคืนที่ 3 หนูจะกลับไปหาแม่ จะไปรอพ่อ"

เห็นพี่แอน ทองประสม ไปร่วมงานศพด้วย ?
"โอ้โห พอเห็นพี่แอนแล้วน้ำตาคลอเลยค่ะเพราะว่าเขาไม่ได้บอกก่อน ดีใจและตื้นตันมาก ไม่คิดว่าพี่จะน่ารักขนาดนี้ หนูแค่ได้ยิ้มกับเขาแค่นั้นเพราะว่ายุ่งมาก พี่ต้นหอมกับรัศมีแขก็ไป หนูก็ได้แค่ยิ้ม หนูยังเสียใจที่ไม่ได้ดูแลเขา แต่เขาเข้าใจค่ะ"

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ หนูเล็ก เปิดใจหลังคุณพ่อเสีย ทำงานต้องยิ้มสู้ แม้จะกลับไปร้องไห้ทุกวัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook