“หมอดูอีที” โหรดังเมียนมาร์กับคำทำนายการเมืองไทย

“หมอดูอีที” โหรดังเมียนมาร์กับคำทำนายการเมืองไทย

“หมอดูอีที” โหรดังเมียนมาร์กับคำทำนายการเมืองไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอดูอีที โหรชาวเมียนมาร์ขวัญใจคนดังและนักการเมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวานนี้ด้วยวัย 58 ปี ที่บ้านพักในกรุงย่างกุ้ง ท่ามกลางความเศร้าสลดของลูกศิษย์หลั่งไหลมาแสดงความเสียใจจำนวนมาก

หลังจากที่สื่อเมียนมาร์รายงานข่าวการเสียชีวิตของ “หมอดูอีที” หรือชื่อจริงคือ “ส่วย ส่วย วิน” ที่บ้านพักในนครย่างกุ้งเมื่อเวลา 04.20 น. ซึ่งในวันนี้ก็มีชาวเมียนมาร์และลูกศิษย์มาร่วมแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก

สำหรับชื่อ หมอดูอีที ได้มาจากคำว่า อี.ที. หรือว่ามนุษย์ต่างดาว ที่หลายคนบอกว่าเธอรูปร่างหน้าตาคล้ายกับอี.ที. ในภาพยนตร์ดังของฮอลลีวู้ด ส่วนอีกอย่างที่ลือกันก็คือเธอได้รับพลังจากมนุษย์ต่างดาว แต่ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้หมอดูอีทีมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็คือ คำทำนายที่แม่นยำของเธอ

ในการดูดวงครั้งแรก หมอดูอีทีจะประเดิมด้วยการทำนายธนบัตรในกระเป๋า โดยจะบอกให้หยิบธนบัตรในกระเป๋า แล้วเธอจะบอกตัวเลข ซึ่งหมอดูอีทีจะสื่อสารผ่านน้องสาวและญาติๆ พูดภาษาอังกฤษเป็นล่าม โดยอ่านปากของหมอดูอีที แล้วญาติก็จะเขียนใส่กระดาษให้กับผู้ที่มาดูดวงอีกที

สำหรับค่าดูหมอ หมอดูอีทีคิดครั้งละ 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30,000 บาท แต่ละคนจะใช้เวลาทำนายไม่เกิน 15-30 นาที ซึ่งหมอดูอีทีก็จะนำเงินที่ได้จากการดูดวงนี้ ไปสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับประเทศ โดยเดือนๆ หนึ่งหมอดูอีทีทำรายได้จากการดูดวงได้กว่า 230-340 ล้านบาท

บรรดานักการเมือง นักธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลก ก็แห่มาดูดวงกับหมอดูอีทีกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย รวมทั้งจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์หรือแม้แต่ไทย ซึ่งคิวดูดวงนั้นแน่นมาก ต้องจองล่วงหน้ากัน 5-6 เดือน

บุคคลที่มีชื่อเสียงของไทยที่เคยไปดูดวงกับหมอดูอีทีนอกจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร แล้ว ยังมีนักการเมืองใหญ่ นายทหารระดับสูงหลายคน รวมถึงคุณหญิง คุณนาย และไฮโซชื่อดังต่างๆ

ส่วนคำทำนายหมอดูอีทีต่อการเมืองไทยได้ทรงอิทธิพลเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2556 หมอดูอีทีได้ทำนายดวงประเทศไทยในขณะนั้น ว่าเป็นจุดต่ำสุดของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนในประเทศไทยจะต่อสู้กันเอง เกิดความสูญเสีย แต่หลังจากผ่านวิกฤติไปประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

หมอดูอีทีทำนายต่อว่าช่วงเดือน ส.ค. เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เรื่อยไปจนถึงเดือน ก.ย. และ ต.ค. โดยจะใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน และสถานการณ์จะเริ่มคงที่ในช่วงปี 2557 ตลอดทั้งปีเป็นช่วงเปลี่ยนแปลง ปี 2558 จะเป็นปีแห่งความหวังใหม่ของประเทศไทย โดยผู้มีอำนาจรัฐบาลปัจจุบัน (รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) จะสูญหายไม่เหลือซาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook