เปิดใจสุดช้ำ ครอบครัวเจ้าบ่าวคนที่ 8 ของน้ำมนต์ สูญเป็นแสนๆ
เจ้าบ่าวคนที่ 8 ของน้องน้ำมนต์ โผล่ที่เพชรบูรณ์ ได้เป็นเจ้าบ่าวคืนเดียว เสียเงินค่าสินสอดเป็นแสนๆ แถมถูกเชิดรถกระบะไปอีกคัน ญาติโดนหางเลขถูกหลอกเซ็งร้านผลไม้ให้เป็นเงินแสน
(13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าพบเหยื่อที่ตกเป็นสามีในกรณีคดีอื้อฉาวของ น้องน้ำมนต์ ผู้ต้องหาหลอกลวงชายหนุ่มแต่งงานด้วย พร้อมกับชิงสินสอดและหนีหายไปอยู่ในพื้นที่ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าหนุ่มที่เคยตกเป็นเหยื่อนั้นคือ นายไพรัช อายุ 29 ปี ซึ่งเคยเป็นเจ้าบ่าวคนที่ 8 ของน้องน้ำมนต์
จากการสอบถามเบื้องต้นกับบิดาของนายไพรัตน์ ทำให้ทราบว่า ลูกชายเป็นหนึ่งเหยื่อในกรณีคดีฉาวของน้ำมนต์จริงๆ โดยลูกชายเคยได้รู้จักกับน้ำมนต์ ผ่านทางเฟซบุ๊กและแชทไลน์ ลูกชายเคยเล่าว่าได้คุยกันอยู่สักระยะ ฝ่ายหญิงก็มักจะเร่งเร้าให้มาสู่ขอแต่งงาน โดยเรียกสินสอดราวๆ 200,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท
แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายเจ้าบ่าวมีเงินสดไม่เพียงพอ จึงตกลงเรื่องสินสอดที่ราคา 180,000 บาท พร้อมกับจัดพิธีแต่งงานที่ จ.ปทุมธานี เมื่อพิธีแต่งงานแล้วเสร็จไปเพียงคืนเดียว น้ำมนต์ก็บอกให้ลูกชายกลับมารออยู่ที่บ้าน จ.เพชรบูรณ์ เพราะจะวิ่งไปส่งผลไม้ก่อนสัก 15 วัน
หลังจากนั้น น้องน้ำมนต์ยังได้ขอยืมเอารถยนต์โตโยต้า วีโก้ แค็ป สีดำ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของตนเองไปส่งผลไม้ โดยให้ลูกชายเป็นคนขับไปส่ง ก่อนจะให้นั่งรถทัวร์กลับมาบ้านเองในเวลาต่อมา และหลังจากนั้นได้เชิดรถยนต์หายไปติดต่อไม่ได้อีกเลย
นอกจากนี้ น้องน้ำมนต์ ยังหลอกนางสาวไพรินทร์ อายุ 30 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายไพรัช อ้างว่าจะเซ้งร้านขายผลไม้ที่จังหวัดพิษณุโลกให้ แล้วเอาเงินไปจำนวน 120,000 บาท สุดท้ายก็ไม่มีแผงขายผลไม้ตามที่น้องน้ำมนต์กล่าวอ้าง แต่มีการทำสัญญาไว้ นางสาวไพรินทร์จึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาฉ้อโกงที่ สภ.ชนแดน โดยทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่มาพบ
ทั้งนี้ พ่อแม่ของนายไพรัช เจ้าบ่าวคืนเดียวคนที่ 8 ของน้องน้ำมนต์ พร้อมกับผู้เสียหายรายอื่น ได้ออกมาร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เนื่องจากเงินและรถยนต์ที่น้องน้ำมนต์เอาไป เป็นเงินที่ได้จากการทำไร่ทำนาและกู้จากนายทุน มาให้ลูกชายนำไปแต่งงานกับน้องน้ำมนต์