เอส กันตพงศ์ คบแฟนฝรั่งสองปี รักแฮปปี้จนสองครอบครัวถามเรื่องแต่ง

ออกปากเลยว่าระยะทางไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับความรักของคู่ตนเลยสักนิด สำหรับพระเอกหนุ่ม “เอส กันตพงศ์” ที่ศึกษาดูใจกับแฟนสาวชาวเยอรมัน “คริสติน่า วิงเคลอร์” มาถึง 2 ปี โดยงานนี้หนุ่มเอสได้ออกมาเผยให้ฟังว่า ทางครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมีถามเรื่องขาวดีบ้างแล้ว แต่สำหรับตนและแฟนสาวยังรู้สึกไม่พร้อม ขอให้ธุรกิจและงานลงตัวกว่านี้ ด้านหวานใจก็อยากจะให้เรียนจบก่อนดีกว่า

เพิ่งผ่านวันเกิด คริสติน่า มา ?
“ก็เพิ่งผ่านวันเกิดแฟนมาครับ 2 ก.ย. ก็มีเซอร์ไพรส์นิดหน่อยแต่ไม่รู้จะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้หรือเปล่า คือเขาเป็นคนชอบทานซูชิแล้วชอบเปิดรูปให้ดูว่าเอาเค้กซูชินะในวันเกิด แต่เราไม่ค่อยทานเท่าไหร่ซื้อมาก็ทานไม่ค่อยได้ แต่สุดท้ายก็เซอร์ไพรส์ซื้อเค้กซูชิมาให้เขา และเขาก็อยากได้รองเท้า ซึ่งเราก็ไม่เนียน เพราะเขารู้ตั้งแต่ที่เขาโทรไปถามแล้วว่าจะหลอกถามไซส์เขา แต่สุดท้ายก็เซอร์ไพรส์ได้สำเร็จ เขาก็แฮปปี้ครับ”

เห็นช่วงนี้ลงรูปคู่บ่อยมาก ?
“เดี๋ยวเขาต้องกลับเยอรมันแล้วครับ เราต้องถ่ายละครทุกวัน เจอกันนานๆ ทีก็เลยมีรูปเยอะหน่อย แต่ความจริงมีหลายรูปมากที่ยังไม่ได้ลง ผมเป็นคนชอบลงรูปดีเลย์จนบางทีก็ลืมไปแล้ว รูปปีที่แล้วยังไม่ลงเยอะมาก เดี๋ยวปลายเดือนนี้เขาก็จะบินกลับไปเรียนแล้ว ที่เขามานี่เพรามาหาเราด้วย มาเที่ยวด้วย และมาทำงานนิดหน่อย เดี๋ยวต้องบินกลับไปเยอรมันอีก”

คบกันมากี่ปีแล้ว ?
“ที่คุยกันมารวมทั้งหมดก็เกือบจะ 3 ปีแล้วครับ”

พาเจอคุณพ่อคุณแม่แล้วด้วย ?
“คุณพ่อคุณแม่ก็แฮปปี้ครับ เพราะเขาเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย ไม่ค่อยจะเหมือนสาวยุโรปเท่าไหร่ คือมีความเป็นเอเชีย และมีความเป็นไทยในตัวเองสูง เราก็แฮปปี้ที่เขาเป็นคนแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่เราก็แฮปปี้เหมือนกัน ด้านคุณพ่อคุณแม่เขาก็เพิ่งบินมาช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาครับ มาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา พาไปเที่ยวยกครอบครัวทั้งสองฝ่าย ทุกอย่างไปด้วยกันด้วยดีครับ เราก็ต้องคอยเป็นล่าม คือคุณแม่เขาพูดภาษาอังกฤษได้ แต่คุณพ่อพูดภาษาเยอรมัน เขาก็ต้องเป็นล่ามแปลจากเยอรมันเป็นอังกฤษ จากอังกฤษเป็นไทยอีกที”

ได้มีคุยเร่งๆ เรื่องข่าวดีกันบ้างไหม ?
“ทุกคนเร่งผมหมดเลยครับ ทั้งทางพ่อแม่เขาและพ่อแม่เรา แต่เราสองคนก็ยังคุยกันอยู่ อยากจะให้พร้อมทุกอย่างมากกว่านี้ ก็ต้องให้เวลาเพราะด้วยระยะทางและอีกอย่างเขาก็ยังเรียนอยู่ด้วย อยากให้เขาตั้งใจเรียนก่อน ซึ่งจริงๆ เราก็ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนี้จริงจังเลยครับ”

ที่บอกว่ารอความพร้อม สำหรับเราคือพร้อมยังไง ?
“คือเรายังทำธุรกิจและมีงานในวงการอยู่ ส่วนตัวเขาก็ยังเรียนอยู่ สมมุติถ้ามันมีอะไรที่ต้องจริงจังขนาดนั้น อย่างน้อยเขาจะต้องเรียนจบ ธุรกิจของเราก็ต้องมั่นคงกว่านี้ก่อน”

เขามีส่วนช่วยดูแลธุรกิจของเราบ้างไหม ?
“เขาก็มีช่วยดูบ้าง ด้วยความที่ธุรกิจทางเวียดนามต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว เขาก็มีช่วยเราบ้าง และกำลังดูว่าจะเอาคอนเซ็ปต์ที่เวียดนามไปเปิดที่ยุโรปครับ”

ในเรื่องของระยะทางส่งปัญหาต่อเราไหม ?
“เดี๋ยวนี้โชคดีที่มีไลน์วิดีโอคลอได้ ล่าสุดค่ายมือถือเพิ่งโทรหาผมเมื่อ 2 วันที่แล้ว ถามว่าจะเพิ่มโปรโมชั่นไหมคะ เห็นมีการโทรเยอะมาก (หัวเราะ) ใช้อินเตอร์เน็ตเยอะมาก เราก็เลยบอกไปว่า อ๋อ ครับ เพิ่มโปรฯ ไปเลยก็ได้ครับ (หัวเราะ) คือทางแฟนผมจะไม่ค่อยกล้ากวน ไม่ค่อยกล้าโทรมา เพราะเขารู้ว่าตารางเรายุ่ง ก็จะเป็นเราถ้ามีจังหวะก็จะโทรหาเขาครับ”

ตอนเขามาอยู่ไทย เคยพาไปซึมซับบรรยากาศที่กองถ่ายบ้างไหม ?
“เมื่อวานเพิ่งพามาเที่ยวกองถ่ายครับ แต่เป็นโลเคชั่นโรงแรมครับ ยังไม่ค่อยกล้าพาไปโลเคชั่นที่ทรหด เดี๋ยวจะตกใจ พอเขาเห็นเราทำงาน เขาก็จะบอกให้เรารักษาสุขภาพ เพราะเราเป็นคนนอนดึก ด้วยงานถ่ายของเรา และเวลากลับไปก็ยังทำงานตัวเองอีก เขาก็ให้รักษาสุขภาพ นอนไวๆ อันนี้เป็นสิ่งที่สัญญากับเขาแต่ยังทำไม่ได้ เขาบอกให้นอน 4 ทุ่มได้ไหม คือ 4 ทุ่มยังอยู่กองอยู่เลย (หัวเราะ)”

เขาเป็นนักโภชนาการ ตอนอยู่ที่ไทยได้ดูแลเรื่องการกินเราไหม ?
“ผมเปลี่ยนมื้อเช้าไปเลย มื้อเช้าผมทานแค่พวกสมูทตี้ ผลไม้ คือก่อนหน้านี้เราเป็นพวกชอบทานมื้อเช้าหนักๆ เหมือนมื้อเย็น ซึ่งเขาบอกมันไม่ดีต่อสุขภาพ”

แล้วเขาจะบินกลับมาไทยอีกทีเมื่อไหร่ ?
“น่าจะช่วงเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค. เลยครับ ส่วนจะเค้าท์ดาวน์ที่นี่เลยไหม น่าจะนะครับต้องรอดู เพราะปีที่แล้วผมบินไปเค้าท์ดาวน์ที่เยอรมัน บินไปทีผมก็ไปอยู่เป็นเดือนเลยครับ ไปเที่ยวหลายที่ ระยะทางไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคู่ผมเลยครับ”