โจรใต้ลอบบึ้ม ทหารคุ้มกันครู ไล่ยิงสตรีดีเด่น

โจรใต้ลอบบึ้ม ทหารคุ้มกันครู ไล่ยิงสตรีดีเด่น

โจรใต้ลอบบึ้ม ทหารคุ้มกันครู ไล่ยิงสตรีดีเด่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรใต้ลอบบึ้มทหารชุดคุ้ม ครองครูตากใบ นราธิวาสบาดเจ็บ 4 นาย ระหว่าง เดินตรวจความเรียบร้อย คนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยมือถือ เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ส่วนที่กรงปินัง ยะลา โจรไล่ยิงสตรีดีเด่นบาดเจ็บสาหัส พร้อมน้องสาว ขณะขี่จยย.ไปเรียนตัดเย็บเสื้อผ้า อีกรายคนร้ายประกบยิงผู้ใหญ่บ้านที่ยะหาบาดเจ็บ ด้านทหาร ตำรวจนับร้อยเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่บาเจาะ จับกุมแกนนำกลุ่มอาร์เคเคได้ 2 คน มีค่าหัว 2 ล้าน

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 12 มี.ค. พ.ต.ท.โกวิท รัตนโชค รอง ผกก.สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รับแจ้งพบศพชายไทยไม่ทราบชื่อเสียชีวิตริมถนนสายปัตตานี-ยะหริ่ง หมู่ 2 บ้านบือเจาะ ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายสุไรปี มะลี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 3 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด สะบักขวา 1 นัด เสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้ข้างทาง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กมบ 531 ปัตตานี ล้มอยู่ข้างทาง โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่ทำงานสะพานปลาปัตตานี เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่หมู่ 1 ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง เมื่อถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายประกบยิง ก่อนหลบหนีไป

ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 08.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.ธงชัย พุกพันธุ์ ร้อยเวร สภ.ตากใบ รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนทางเข้าหมู่บ้านตาเซะ หมู่ 3 ต.นานาค อ.ตากใบ ทำให้ทหารชุดคุ้มครองครู ร้อย ร.1933 ฉก.นราธิวาส 36 บาดเจ็บเล็กน้อย 4 นาย จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.จักรพร แท่นทอง ผกก.สภ.ตากใบ นายสายัณย์ ชนะไชยวงศ์ นายอำเภอตากใบ พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ พาหุบุตร สว.กองวิทยาการ จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รุดไปตรวจสอบ

ที่โคนต้นขี้เหล็กริมถนน พบหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต มีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 ก.ก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือที่ใช้ซิมการ์ดของประเทศมาเลเซีย ตกกระจายเกลื่อนถนนและพงหญ้าริมทางเป็นรัศมีกว้าง 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทหารที่บาดเจ็บเพื่อนนำตัวเข้ารักษาที่ฐานปฏิบัติการชุดร้อย ร.1933 ในวัดโฆษิตาราม อ.ตากใบ ไปก่อนหน้าแล้ว

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.เสมอ กลิ่นหอม หัวหน้าชุด นำกำลังรวม 8 นายขี่รถจักรยานยนต์ 4 คันออกจากฐานไปดูแลความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านปะดาดอ และโรงเรียนบ้านแฆแบ๊ะ เมื่อถึงที่หมายขณะรอกลุ่มคณะครู จ.ส.อ.เสมอให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเดินตรวจสอบความเรียบร้อย พบว่ามีคนร้ายแฝงตัวอยู่ในทุ่งนาร้าง ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง เกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทหารบาดเจ็บ 4 นาย เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อแสดงศักยภาพในวันครบรอบวันสถาปนากลุ่มขบวนการโจรก่อการร้ายบีอาร์เอ็นที่ข่มขู่ไว้

นอกจากนี้ วันเดียวกัน หน่วยข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 13 มี.ค.ของทุกปีเป็นวันก่อตั้งขบวนการบีอาร์เอ็น อาจจะมีการก่อเหตุพร้อมกันหลายจุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความรัดกุมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เขตเทศบาลและพื้นที่รอบนอกเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตรวจตรารถยนต์ และรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยทุกคันที่วิ่งผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่เมือง

วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกัน มีผู้บาดเจ็บ ที่หัวสะพานกีเยาะ หมู่ 4 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จึงแจ้งพ.ต.อ.จุมพล เปรมศิริ ผกก.สภ.กรงปินัง พร้อม ด้วยร.ต.ต.สุทธิชัย คำมี ร้อยเวร นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 45 ยะลา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีดำแดง หมายเลขทะเบียน กลษ 840 ยะลา ล้มอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 รายพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อนางลัยลา เป๊าะอีแตดาโอ๊ะ อายุ 36 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 เข้าที่ลำตัวรวม 3 นัด อาการสาหัส ล่าสุดแพทย์ร.พ.ศูนย์ยะลานำตัวเข้าห้องผ่าตัดเพื่อช่วยเหลือชีวิต และน.ส.ซีเต๊าะ เป๊าะอีแตดาโอ๊ะ อายุ 30 ปี น้องสาว บาดเจ็บจากรถจักรยานยนต์ล้ม

สอบสวนทราบว่า ขณะที่ทั้งสองคนขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนตัดเย็บเสื้อผ้า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้าย 2 คนเป็นชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงใส่นางลัยลา เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ เนื่องจากเมื่อปี 2549 สามีของนางลัยลาก็ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตมาแล้ว สำหรับนางลัยลาเป็นลูกจ้างตามโครงการจ้างงานเร่งด่วนของอำเภอกรงปินัง และเพิ่งจะได้รับรางวัลสตรีดีเด่นของอำเภอกรงปินัง เนื่องในวันสตรีสากล เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 16.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งว่าเกิดยิงกันบนถนนสายยะหา-ตาชี บ้านพงกูแว หมู่ 6 ต.ยะหา อ.ยะหา มีผู้บาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายมุกตาดาโอ๊ะ ปาแนแจกะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.4 ต.กาตอง อ.ยะหา เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.กาตอง ถูกยิงที่ขาทั้งสองข้าง ก่อนเกิดเหตุนายมุกตาดาโอ๊ะขี่รถจักรยาน ยนต์กลับบ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถตามประกบยิงดังกล่าว

วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผบ.ตร. รับรายงานจากพล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผบช.จชต. ว่าพ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส น.ท.นึกอนันต์ แสนอุบล ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 พ.ต.ท.ธนาพล มีชัย รอง ผกก.สส.สภ.บาเจาะ พ.ต.ต.พารินทร์ จันทร์เลิศ เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีสำคัญศชต. ร่วมสนธิกำลัง 100 นายปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 213 หมู่ 4 บ้านยามูแลแน ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ของนายมะนาเซร์ บือราเฮง

เจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหา 2 คน คือนายอับดุลรอซะ ฆาเด หรือชื่อจัดตั้ง รอยะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 1 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส สมาชิกระดับแกนนำ ครูฝึกอาร์เคเค มีหมายจับคดีความมั่นคง 9 หมาย ตั้งแต่ปี 2548-2551 ซึ่งทางการตั้งค่าหัวรางวัลนำจับในคดีความมั่นคง 2 ล้านบาท และเป็นมือขวาของนายมะแซ อุเซ็ง แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาหนีคดีบุกปล้นอาวุธปืนจากกองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อปี 2547 และนายอิสมาแอ มะเซ็ง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 8 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส สมาชิกระดับสั่งการ คุมฝ่ายทหารระดับจังหวัด ครูฝึกอาร์เคเค มีหมายจับคดีความมั่นคง 2 หมาย ปี 2548 และ 2552

ส่วนนายมะนาเซร์ และนายเลาะ เจ้าหน้าที่เตรียมส่งตัวไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ร่วมกับนายอับดุลรอซะ และนายอิสมาแอครั้งนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 4 มาสอบสวนเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 นั้น มีกลุ่มสมาชิกแนวร่วมอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บาเจาะ กระจายกำลังออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกบุกลอบวางเพลิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตั้งอยู่บ้านส้มป่อย หมู่ 4 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนกลุ่มที่ 2 กระจายกำลังขี่รถจักรยานยนต์โปรยตะปูเรือใบบน ถ.เพชรเกษม สายนราธิวาส-ปัตตานี ช่วงรอยต่อระหว่าง สภ.ปะลุกาสาเมาะ กับ สภ.บาเจาะ ทำให้รถยนต์ของประชาชนที่ผ่านสัญจรไปมาถูกตะปูเรือใบรถยนต์ได้รับเสียหายไปกว่า 10 คัน ต่อมาเจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันเก็บกวาดกว่า 30 นาที

วันเดียวกัน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงกรณีรัฐบาลอนุมัติเพิ่มกำลังพลให้กอ.รมน.อีก 4,000 นายว่า จำนวนนี้เป็นการเพิ่มทหารพรานให้ครบ 28 กองร้อย หรือ 5 กรมทหารพราน พลเรือน ตำรวจ ทหาร อีกกว่า 6,000 คน ลงไปทำงานด้านมวลชนใน 3 จังหวัดภาคใต้ โดยจัดเป็นชุดพัฒนาสันติ ชุดละ 31 คน มีทั้งทหาร ตำรวจ และ อส.ในพื้นที่เข้าไปตั้งฐานอยู่ใน 217 หมู่บ้าน ใน จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เพื่อทำงานมวลชน สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านมาเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเรียกว่าหมู่บ้านเสริมสร้างสันติสุข (หมู่บ้าน 3 ส.) ซึ่งเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2550 จนในปี 2552 นี้มีการอนุมัติให้เพิ่มกำลัง

พ.อ.ธนาธิปกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากองทัพเคยส่งกำลังทหารเข้าหมู่บ้านที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นแนวร่วมของขบวนการเหล่านี้มาแล้ว แต่เนื่องจากกำลังทหารไม่พอจึงไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านได้ ต้องเข้าๆ ออกๆ แต่ต่อไปนี้ชุดพัฒนาสันติทั้ง 31 คนจะอยู่ในหมู่บ้านเลย ทำหน้าที่ทุกอย่าง แต่จะเน้นงานมวลชน สร้างความเข้าใจ ให้ความช่วยเหลือ ทั้งการจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ หรือตามที่ร้องขอเข้ามา และเป็นนโยบายให้ทหารในพื้นที่ลดการปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น ในหมู่บ้านเหล่านี้ลง เพื่อลดความหวาดระแวง แล้วให้ชุดพัฒนาสันติทั้ง 31 คนนี้ดูแลเอง

โฆษก กอ.รมน.กล่าวด้วยว่า นักศึกษาหลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้ายและปราบปรามความไม่สงบของโรงเรียนเสนาธิการทหารบกเสนอนโยบายและยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาภาคใต้ ให้ถอนกำลังทหารจากกองทัพภาค 1 ภาค 2 และ 3 ออกจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วให้กองทัพภาค 4 และกอ.รมน.ภาค 4 แม่ทัพภาค 4 รับผิดชอบเองโดยตรง นอกจากนี้การแก้ปัญหาโดยการมีส่วนร่วมของกำลังพลทุกระดับ ในการประชุมควรให้ทหารระดับจ่า หรือนายสิบเข้าร่วมแสดงความเห็นด้วย เพราะการแก้ปัญหาหรือการมองปัญหาบางครั้งระดับผู้บังคับบัญชาอาจมองไม่ออก คิดไม่ออก แต่ทหารระดับปฏิบัติหน้าที่อาจมีข้อเสนอที่ดี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook