อภิสิทธิ์ถึงลอนดอนจ่อหารือทวีภาคีบราวน์วันนี้
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงลอนดอนเตรียมหารือปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่ภูมิภาคอาเซียนได้รับผลกระทบ กับนายกรัฐมนตรี บราวน์ วันนี้ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้อังกฤษสนใจลงทุนในไทย พร้อมแจงสื่อนอกถึงความสับสนบ้านเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนประเทศอังกฤษอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค.ว่า จะพบและหารือกับ นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งเน้นให้ความความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก เพราะอังกฤษกำลังจะมีการจัดประชุม จี 20 ที่จะเป็นเวทีหารือเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจ และรับฟังความห็นของภูมิภาคต่างๆ ดังนั้น ในฐานะประธานอาเซียน จะบอกเล่าความต้องการและชี้แจงที่ประชุม จี 20 ว่า ต้องคำนึงถึงผลกระทบของประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่ไม่ได้มีปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
"หากการดำเนินนโยบายของประเทศอุตสาหกรรมทั้งหลาย ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือปัญหาเศรษฐกิจในระลอกที่ 2 ที่ 3 ซึ่งจะส่งผลย้อนกลับไปยังประเทศอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย ซึ่งในแง่ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก หากไม่ฟังเสียงของประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็จะเป็นการฟื้นตัวที่ขาดความสมดุล "นายอภิสิทธิ์ ระบุ
นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า เป็นโอกาสดีที่จะได้ไปถ่ายทอดความห่วงใย ที่สำคัญต้องคำนึงด้วยว่าเศรษฐกิจของไทยที่ติดลบอยู่ในขณะนี้ ก็มีผลมาจากภาคการต่างประเทศทั้งสิ้น ทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว จึงเป็นโอกาสดีที่จะหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะนอกจากจะพบกับนายกรัฐมนตรีของอังกฤษแล้วยังได้พบกับนักลงทุน ส่วนประเด็นอื่นๆ คงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยการค้าในปีที่แล้วก็ยังขยายตัวอยู่ ทั้งนี้ ในส่วนของการขอรับการส่งเสริมการลงทุนนักลงทุนประเทศอังกฤษก็ได้มีการขอเข้ามาเป็นลำดับที่ 1
เมื่อถามว่า อะไรที่จะเป็นแรงจูงใจให้อังกฤษสนใจลงทุนในไทย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาอังกฤษให้ความสำคัญกับไทยมาตลอด แต่หยุดชะงักไปช่วงมีรัฐประหารและสถานการณ์การเมืองไทยในประเทศ ดังนั้น การพบกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษในครั้งนี้ จะเป็นการให้ความมั่นใจถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของไทย ซึ่งน่าจะทำให้ภาครัฐและภาคธุรกิจของประเทศอังกฤษมีความมั่นใจเพียงพอที่จะหันมาให้ความสำคัญในเรื่องการขยายการค้า การลงทุน จึงเป็นโอกาสที่จะได้ไปเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีรัฐบาลเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้ทุกอย่างกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ขณะเดียวกันในฐานะที่เป็นประธานอาเซียน จะชี้แจงว่าอาเซียนถือเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงมากรวมทั้งภูมิภาคเอเชียโดยรวม ก็จะเป็นจุดหนึ่งที่จะดึงให้เกิดความสนใจในการเข้ามาลงทุน
"โดยพื้นฐานความต้องการที่จะเข้ามาลงทุนหรือมีความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ทั้งการศึกษาวัฒนธรรมก็มีพื้นฐานอยู่แล้ว ความใกล้ชิดมีอยู่แล้ว เพียงแต่ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองมีปัญหาอาจมีข้อจำกัดบ้าง มีข้อวิตกกังวลบ้าง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังบอกด้วยว่า จะใช้โอกาสนี้ในการดึงนักลงทุนอังกฤษขายการลงทุนประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนถือเป็นนโยบายใหม่ที่จะไปชี้แจงกับต่างชาติได้เพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุน และมีโอกาสเข้าเฝ้า มีการเข้าเฝ้า ดยุค ออฟ ยอร์ค ซึ่งป็นผู้แทนพิเศษด้านการค้าการลงทุน และดยุค ออฟ ยอร์ค จะพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวัน รวมทั้งจะพบปะกับนักธุรกิจที่มีการลงทุนในไทย ด้วยในส่วนของนักธุรกิจไทย ขณะนี้ก็มีปัญหาเรื่องการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป และการดำเนินการของธุรกิจไทยที่อยู่อังกฤษ ซึ่งอาจต้องการการอำนวยความสะดวกในบางเรื่อง
นายอภิสิทธิ์ ยังมั่นใจว่า การเดินทางไปครั้งนี้ จะสามารถทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในแง่ของการขยายการค้า การลงทุน โดยดูจากการเดินทางไปญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ได้รับการตอบสนองที่ดี หลังจากนั้นก็มีคณะนักธุรกิจนักลงทุนจากญี่ปุ่นเริ่มมีข่าวที่จะเข้ามาลงทุนในไทย
เมื่อถามว่า การเดินทางไปครั้งนี้จะพบกับสื่อมวลชนต่างประเทศหลายสำนัก จะชี้แจงเกี่ยวกับอะไร นายกฯ กล่าวว่า ที่อังกฤษก็มีสื่อที่เผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างบีบีซี และไฟแนลเชียล ไทม์ ที่ติดต่อขอสัมภาษณ์ เป็นโอกาสดีที่จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของงานรัฐบาล และความเปลี่ยนแปลงของประเทศ ขณะเดียวกันข่าวสารที่มีความสับสนอยู่ในต่างประเทศในเรื่องต่างๆ ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงาน นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังและคณะ ออกเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการครั้งแรก ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 910 เมื่อเวลา 00.15 น. ในฐานะแขกของรัฐบาลอังกฤษ ระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค. เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรในระดับทวิภาคี พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่องประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด และเตรียมการประชุมกับกลุ่มจี 20 เรื่องผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกระชับความสัมพันธ์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางถึงกรุงลอนดอน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ สหราชอาณาจักร เมื่อเวลา 06.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง เพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ โดยมี นายจอห์น แมคโดนัลด์ อดีตเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำสาธารณรัฐปารากวัย ในฐานะผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าที่พัก ที่โรงแรมโกล์ฟ โวเนอร์ เฮ้าส์ และบริษัท เทสโก้ เข้าเยี่ยมคารวะ
ภารกิจแรก นายกรัฐมนตรีจะหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซี ก่อนเดินทางไปร่วมงานพระราชทานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวัน จากดยุค แห่งยอร์ก ที่พระราชวังบักกิ้งแฮมป์ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ต่อกลุ่มนักธุรกิจสหราชอาณาจักร และกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงาน ไทยแลนด์ ทัวร์ริซึ่ม ลิชซิ่ง สำหรับภารกิจสุดท้ายของนายกรัฐมนตรี วันนี้ จะร่วมรับประทานอาหารค่ำกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักร