หวังเต๊ะ ทรุด มะเร็งสายเสียง

หวังเต๊ะ ลำตัดรุ่นครู ศิลปินแห่งชาติวัย 84 ปี อาการทรุด หามส่งร.พ.ด่วน หลังป่วยเป็นมะเร็งสายเสียงต้องใช้เครื่องหายใจ หมอระบุโรครุมเร้า ทั้งเบาหวาน เส้นเลือดอุดตันในสมอง เนื้อสมองตายบางส่วน ต้องให้ยาป้องกันเส้นเลือดอุดตัน กลืนอาหารลำบาก เผยต้นมี.ค.ที่ผ่านมาเคยเข้ารับการรักษาจนอาการดีขึ้น ก่อนจะกำเริบอีก เมีย ภาวนาขอให้หายเร็ววัน ยืนยันลำตัดคณะหวังเต๊ะยังไม่แตก

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายหวังดี นิมา หรือ หวังเต๊ะ อายุ 84 ปี นักแสดงลำตัดชื่อดัง และศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(เพลงพื้นบ้านลำตัด) เข้ารับการรักษาป่วยเป็นโรคมะเร็งที่สายเสียง เส้นเลือดในสมองอุดตันและมีอาการปอดติดเชื้อ ที่ร.พ.รามาธิบดี ตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 11 มี.ค. โดยพักอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 เตียงที่ 20 ท่ามกลางความเป็นห่วงของญาติมิตรและบรรดาแฟนๆ ลำตัด

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 พบหวังเต๊ะอยู่ในชุดผู้ป่วย แพทย์ใช้เครื่องช่วยหายใจ มีพยาบาลกำลังป้อนอาหารเหลว โดยนางศรีนวล ขำอาจ อายุ 61 ปี ภรรยา คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานผอ.ร.พ.รามาธิบดี รศ.น.พ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รองผอ.ร.พ.รามาธิบดี พร้อมผศ.น.พ.สุพจน์ กัลยาเดชานนท์ หัวหน้าหน่วยประสาทวิทยา แพทย์เจ้าของไข้ และพ.ญ.ชลธิชา ประสาทสกุลชัย แพทย์ประจำบ้านระบบประสาทวิทยา ร่วมกันแถลงข่าวอาการป่วยของหวังเต๊ะ

ผศ.น.พ.สุพจน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คนไข้เข้ามารักษาตัวตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีอาการเส้นเลือดอุดตันในสมอง แพทย์ตรวจพบว่ามีเนื้อเยื่อในสมองตายบางส่วน ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มี.ค. เวลา 20.00 น. คนไข้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากมีอาการปอดอักเสบ และติดเชื้อ อาการค่อนข้างรุนแรง แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์รักษาจนอาการดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้

ผศ.น.พ.สุพจน์ กล่าวต่อว่า จากประวัติคนไข้มีโรคพื้นฐานมากพอสมควร อาทิ เบาหวาน มะเร็งที่สายเสียง และยังพบว่าเส้นเลือดในหัวใจอุดตันอีกด้วย ที่สำคัญพบว่ามีเส้นเลือดตีบในสมองในส่วนที่ควบคุมการกลืน ประกอบกับเคยเป็นมะเร็งที่สายเสียง ทำให้กลืนอาหารลำบาก มีอาการสำลัก โดยเริ่มแรกต้องเข้ารักษาตัวในหอผู้ป่วยหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจนอาการดีขึ้น และย้ายออกมาอยู่ในหอผู้ป่วยธรรมดา แพทย์ให้เริ่มฝึกกลืนใหม่ คนไข้รู้ตัวดี แต่ยังมีความสับสนอยู่บ้าง สามารถพูดได้บางคำ สื่อสารได้ช้าๆ ความจำและการรับรู้ช้า เพราะมีเนื้อสมองตายบางส่วน แต่แพทย์ยังกังวลอยู่หลายเรื่อง อาทิ เส้นเลือดที่เนื้อสมองตายบางส่วน แม้ว่าแพทย์จะช่วยเหลือได้ แต่เส้นเลือดใกล้เคียงอุดตันไปหมด และจะต้องรอประเมินเรื่องเส้นเลือดหัวใจที่อุดตันอีก ช่วงนี้ต้องให้ยาป้องกันเส้นเลือดอุดตันต่อไป ส่วนที่จะเดินทางกลับบ้านได้วันไหนนั้นจะต้องรอดูการประเมินเรื่องการกลืนให้ได้ดีก่อน คาดว่าอย่างน้อยประมาณ 1 สัปดาห์

ด้านนางศรีนวล ขำอาจ กล่าวว่า ตอนแรกรู้สึกใจหาย เป็นห่วง ภาวนาขอให้หาย ตอนนี้อยู่ใกล้มือหมอ รู้สึกสบายใจมากขึ้น แต่เมื่อวานอาการหนักกว่านี้ ในเรื่องการจำ แกจำเราได้คนเดียว ตอนที่ตื่นนอนมา ถามว่านวลเหรอ เราก็บอกว่าจ๊ะ ดูแกแล้วอยากจะกลับบ้านอย่างเดียว ตนบอกกับแกว่ายังกลับบ้านไม่ได้ อยู่กับหมอรักษาให้หายก่อน บอกกับเขาว่าทุกคนเป็นห่วง ถ้ากลับบ้านเกิดเป็นอะไร เราจะมาโรงพยาบาลไม่ทันนะ แกก็เชื่อ พยักหน้ารับ

ผู้สื่อข่าวถามถึงอาการเบื้องต้นที่ตัดสินใจพาหวังเต๊ะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล นางศรีนวล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. หวังเต๊ะตื่นเช้ามา ไม่ยอมทานข้าว ไม่ดื่มน้ำ เอาแต่นอน พอช่วงสาย ปลุกแกทานข้าว แกก็กินได้ 5 คำ จากนั้นขอนอน พอบ่าย ชงอาหารเสริมให้ แกก็เม้มปากไม่ยอมทาน แขนกระตุกๆ มีอาการซึม เห็นท่าไม่ดี จึงเรียกรถโรงพยาบาลมารับที่บ้านย่านลาดหลุมแก้ว เพราะหลังของหวังเต๊ะแข็งเกร็ง ไม่กล้าพานั่งรถ ถึงโรงพยาบาลตอน 2 ทุ่ม หมอเห็นอาการไม่สู้ดี จึงใส่เครื่องช่วยหายใจ แล้วพาเข้าห้องฉุกเฉินเลย พอตอนตี 1 พยาบาลบอกว่าหวังเต๊ะติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดอักเสบ เราก็ใจเสีย เป็นกังวล แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 12 มี.ค. อาการดีขึ้น หายใจได้เอง พยาบาลจึงถอดท่อเครื่องช่วยหายใจในช่วงบ่าย

เมื่อถามว่า หวังเต๊ะลุกเดินลุกนั่งได้เองหรือไม่ นางศรีนวล ตอบว่า ลุกเองเดินเองยังไม่ได้ อาหารยังต้องให้ทางสายยาง ส่วนตัวตอนนี้เดินทางไกลไปกลับ เหนื่อยเราไม่กลัว เพราะอยากอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด

"ขอขอบทุกคนที่เป็นห่วง ขอขอบคุณอย่างมากขอบคุณเจ้าภาพที่ติดต่องานไว้ เราบอกว่าพ่อหวังเต๊ะไปไม่ได้ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร พ่อมาไม่ได้ ให้แม่กับคณะหวังเต๊ะมาเล่น ขอขอบคุณแฟนลำตัดทุกคนที่โทร.มาให้กำลังใจเยอะมาก" นางศรีนวล กล่าว พลางยกมือไหว้ด้วยความซาบซึ้งน้ำใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้ามีกระแสข่าวว่าลำตัดคณะหวังเต๊ะแตกนั้น นางศรีนวล กล่าวว่า มีคนพูดว่าลำตัดคณะหวังเต๊ะออกกันไปหลายคนแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้ว ลำตัดคณะหวังเต๊ะยังอยู่ ลูกน้องในคณะเรายังรักพ่อหวังเต๊ะ ช่วยกันหาเงินหางานดูแลกันไป

นางศรีนวล ยังกล่าวถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพ่อหวังเต๊ะว่า ที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.) ออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ส่วนเกินเราก็ดูแลไป