แม้ว อ้างถวายรายงานผ่านกลไกพิเศษ ไม่ไว้ใจ เปรม
หาชักใยปฏิวัติ ใช้ราชประชาสมาสัยแก้ปัญหา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวถึง กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำหนังสือกราบบังคมทูลเพื่อถวายรายงานสถานการณ์ทางการเมืองรวม 3 ฉบับ ว่า ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลเพื่อถวายรายงานสถานการณ์ทางการเมืองผ่านกลไกที่พอสื่อสารไปได้ ซึ่งไม่ได้ใช้ช่องทางของสำนักราชเลขาธิการหรือองคมนตรีแต่อย่างใด ดังนั้นจึงถือว่าถูกต้องแล้วที่ผู้เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 องค์กรจะออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นกับการทูลเกล้าฯถวายรายงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯมาถึง 5 ปี มีเรื่องที่ต้องกราบบังคมทูลฯเป็นนิจศีล แต่หลังถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯเพื่อถวายรายงานเลย ส่วนจะใช้กลไกใด หรือมอบหมายให้ใครเป็นผู้ดำเนินการนั้น ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกใช้กลไกพิเศษเพราะไม่วางใจองคมนตรีหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า "ไม่ต้องอธิบายเลย เพราะประธานองคมนตรี (พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์) ก็ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจ ดังนั้นชัดเจนเลยในเรื่องความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ" เมื่อถามว่า เนื้อหาสำคัญในรายงานทั้ง 3 ฉบับเป็นอย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นการถวายรายงานสถานการณ์ทางการเมือง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณถูกยึดอำนาจด้วยเหตุผล 4 ข้อ ในจำนวนนี้มีข้อกล่าวหาเรื่องความไม่จงรักภักดีรวมอยู่ด้วย สิ่งที่แสดงออกจึงเป็นการทำให้เห็นว่าอดีตนายกฯมีความจงรักภักดีไม่เปลี่ยนแปลง และเคยพูดอยู่เสมอๆ ว่านายกฯมีเจ้านายคือพระเจ้าแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าเนื้อหาในรายงานทั้ง 3 ฉบับเป็นอย่างไร เรื่องแบบนี้ไม่ใครบอกใคร เพราะถือเป็นเรื่องที่มิบังควรที่จะนำมาเปิดเผยต่อ
เมื่อถามย้ำว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวคิดจะขออภัยโทษให้ตัวเองหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่นายวีระ มุสิกพงศ์ เคยเสนอแนวคิดเรื่องราชประชาสมาสัย แต่ยังไม่เป็นรูปธรรม เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว แต่เป็นเรื่องบ้านเมืองที่มี 2 มาตรฐาน ไม่เป็นประชาธิปไตย ขณะนี้ไม่มีใครฟังใคร แต่คนไทยทุกคนฟังพระเจ้าแผ่นดิน จึงเป็นเรื่องที่พระเจ้าแผ่นดินกับประชาชนจะร่วมกันทำให้ประเทศชาติกลับไปสู่จุดเดิมที่ไม่มี 2 มาตรฐาน คู่ขัดแย้งต้องยอมถอยคนละก้าว
"ขณะนี้ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มก้าวข้ามพ้นแล้ว เพราะถ้าท่านตัดสินใจกลับเข้าประเทศ ก็ต้องถูกคุมขัง และจะมีประชาชนลุกฮือขึ้นมาเต็มบ้านเมือง แต่ถ้าวันหนึ่งถ้าเห็นว่าบ้านเมืองมันสุดโต่งจริงๆ กู่ไม่กลับแล้ว ท่านก็อาจจะกลับมา ส่วนจะเร็วจะช้าเพียงใด สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด แต่การกลับเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่เรื่องเกินจะคาดคิด" นายจตุพรกล่าว