แฉ จนท.แบงก์ ร่วมแก๊งฉกทรัพย์ผ่านอี-แบงก์กิ้งนับล้าน!!

แฉ จนท.แบงก์ ร่วมแก๊งฉกทรัพย์ผ่านอี-แบงก์กิ้งนับล้าน!!

แฉ จนท.แบงก์ ร่วมแก๊งฉกทรัพย์ผ่านอี-แบงก์กิ้งนับล้าน!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจแกะรอยจับนศ.ปริญญาโทพร้อมเพื่อนแก๊งสาวไทยลักทรัพย์ผ่านอี-แบงก์กิ้งกว่าล้านบาท เผย ให้สาวในแก๊งตีสนิทนักท่องเที่ยวเมืองผู้ดีก่อนฉกข้อมูลเอทีเอ็ม-บัตรเครดิตส่งให้เพื่อนอีกคน ร่วมมือจนท.แบงก์เปลี่ยนรหัสทำบัตรเอทีเอ็มตระเวนกดโอนเงินเข้าบัญชีที่เปิดรอที่จ.สุรินทร์ ประสานแบงก์เอาผิดจนท.พร้อมล่าผู้ต้องหาที่หลบหนี

(14มี.ค.) พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท.และพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท.ร่วมแถลงจับกุมนายธนยุทธ สมัตชัย อายุ 25 ปี นักศึกษาปริญญาโท สถานบันการศึกษามีชื่อแห่งหนึ่ง ,น.ส.สุพิชญฎา หาญรบ อายุ 25 ปีและน.ส.พรทิพย์ รูปชัยภูมิ อายุ 21 ปี พร้อมโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง,คอมพิว เตอร์โน้ตบุ๊คส์ 1 เครื่อง,เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 ชุดและของกลางอื่นๆ รวม 10 รายการ

โดยสามารถจับนายธนยุทธและน.ส.สุพิชญฎาได้ที่พักเลขที่ 37/3 อาคารเซ็นจูรี่ปาร์ค คอนโดมิเนียม ตึก s ซ.วิภาวดี 22 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพ และจับน.ส.พรทิพย์ได้ที่กมลภัทรเรสซิเดนท์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยแจ้งข้อหา ร่วมลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน และร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตร การนั้น มิได้มีไว้สำหรับตนและร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

ผบก.ทท.กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ บก.ปศท.รับแจ้งจากจนท.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)ว่า มีคนร้ายขโมยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษของธนาคารมาสมัครการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบ E - BANKING ของธนาคารแล้วโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลที่สามที่รับจ้างเปิดบัญชีไว้เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,720,000 บาท แล้วนำบัตร ATM ของบัญชีที่สามกดเงินออกไปใช้ตามสถานที่ต่าง ๆ

ต่อมาทางธนาคารประสานกับ บก.ทท.และบก.ปศท.ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าน.ส.พรทิพย์เป็นผู้นำข้อมูลไปให้น.ส.สุพิชญฎาและเป็นผู้สมัครการ ทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตของธนาคาร โดยมีนายธนยุทธ เป็นผู้นำบัตร ATM. ไปกดเงิน และน.ส.กรรณิกา กุสิมา เป็นผู้เปิดบัญชีรับโอนเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมืองสุรินทร์ จึงจับกุมน.ส.สุพิชญฎาและนายธนยุทธ

จากนั้นได้นำตัวทั้งสองมาทำการสอบสวนขยายผลจับกุมน.ส.พรทิพย์ และแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปศท.ดำเนินคดี และจากการสอบสวน น.ส.พรทิพย์ให้การับสารภาพว่าเอาข้อมูลของผู้เสียหายซึ่งเป็นแฟนเก่ามาให้น.ส.สุพิชญฎาเพื่อไปสมัครทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตโดยรู้จักกับเพื่อนที่ทำงานในธนาคาร นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า มีนายสิทธา โม ชาวกัมพูชาได้รับการโอนเงินจากน.ส.กรรณิกาจำนวน 2 ครั้ง ๆ ละ 50,000 บาท

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้บก.ปศท.ดำเนินคดี และจะติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมามาดำเนินคดีตามกฎหมาย การกระทำผิดลักษณะนี้เป็นกลุ่มคนร้ายได้นำวิธีการทางเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากการที่ลูกค้าใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตสร้างความเสียหายนับล้านจึงอยากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมรูปลักษณะนี้อีก

น.ส.พรทิพย์ กล่าวยอมรับว่า อาศัยความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษรายหนึ่งแล้วแอบนำข้อมูลส่วนตัวในเอทีเอ็มและบัตรเครดิตไปให้น.ส.สุพิชญฎาเปลี่ยนแปลงรหัสและสมัครทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอีแบงก์กิ้งของธนาคารแห่งหนึ่งเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีนักท่องเที่ยวเข้าบัญชีน.ส.กรรณิการ์ กุสิมา นอกจากนี้ยังให้นายธนยุทธและบุคคลอื่นไปนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินออกจากบัญชีธนาคาร มูลค่าความเสียหาย 1,720,000 บาท

น.ส.สุพิชญฎากล่าวว่า อาศัยความสนิทสนมส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้รับความสะดวกในการเปลี่ยนฐานข้อมูลและรหัสในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยไม่ต้องใช้เอกสารรับรอง ส่วนแบ่งของน.ส.พรทิพย์อ้างนำไปไถ่ถอนที่ดินที่จำนองไว้กับธนาคาร ตำรวจประสานทางธนาคารให้ตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแล้ว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook