พ่อผอ.อ้อย รุดดูศพหญิงเปลือย ไร้หน้า เหลือแค่หูซ้าย
![พ่อผอ.อ้อย รุดดูศพหญิงเปลือย ไร้หน้า เหลือแค่หูซ้าย](http://s.isanook.com/ns/0/ud/721/3607674/42.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
พ่อและสามี ผอ.อ้อย รุดดูศพหญิงหัวขาดเปลือยกายกลางแม่น้ำโขงที่หนองคาย ยังไม่มั่นใจใช่หรือไม่ ขอตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือก่อน แต่ไม่ถอดใจแม้จะไม่ใช่ลูกสาว ยืนยันจะตามหาทุกที่ที่แม้เป็นร่างไร้วิญญาณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายบุญเลิศ อายุ 62 ปี และนายวิทยา อายุ 37 ปี บิดาและสามีของ นางสาวจุฑาภรณ์ หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษา อบต.ซำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ มาพบกับ พ.ต.ท.กฤษฎิ์ภิวัชร์ ปรีดาพันธุ์ สารวัตรใหญ่สภ.นางิ้วอ.สังคมจ.หนองคายร.ต.อ.แดนนภาวงศ์พิมพ์รองสารวัตรสภ.นางิ้วเพื่อประสานขอดูศพหญิงสาวที่มีชาวบ้านพบลอยอยู่กลางแม่น้ำโขง
ซึ่งชาวบ้านได้ใช้เชือกมัดขาศพติดไว้กับพงหญ้ากลางเกาะดอนแม่น้ำโขงช่วงบ้านม่วง ต.บ้านม่วงอ.สังคมโดยอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านคกแห่เมืองสังข์ทองสปป.ลาวทั้งหมดได้ลงเรือไปตรวจสอบพบว่าเป็นศพหญิงสาวเปลือยกาย คว่ำหน้า ไม่มีใบหน้า ศีรษะขาดหาย เหลือเพียงหูซ้ายข้างเดียว
ความสูงประมาณ 155-160 เซนติเมตร ไม่มีรอยสักหรือตำหนิใดๆ ตามร่างกาย ซึ่งนายวิทยาเกษแก้วได้ตรวจดูสภาพนิ้วมือและตามร่างกายของศพใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วจึงขอให้นำศพขึ้นฝั่งและนำศพไปยังโรงพยาบาลสังคมก่อน
นายวิทยา สามีของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า หลังจากได้ดูศพแล้ว ไม่มั่นใจว่าจะใช่ ผอ.อ้อย หรือไม่ เนื่องจากความสูงต่างกันเล็กน้อย ศพที่พบกลางแม่น้ำโขงค่อนข้างเตี้ยกว่า แต่ก็จะขอให้มีการตรวจลายนิ้วมือ หรือ ดีเอ็นเอ ก่อนว่าจะใช้ศพหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่มั่นใจ เพราะไม่มีใบหน้าคงเหลือแล้ว
ด้าน นายบุญเลิศ พ่อของ ผอ.อ้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า ศพที่เห็นความสูงต่างจากลูกสาวซึ่งลูกสาวจะสูงกว่า แต่เมื่อมีข่าวว่ามีการพบศพหญิงสาวไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด ก็จะขอไปดูว่าใช่ลูกสาวตนเองหรือไม่ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน จะเป็นศพหรือมีชีวิตอยู่ก็จะตามไปดู ขอให้รู้ว่าลูกสาวอยู่ที่ไหน
พ.ต.ท.กฤษฎิ์ภิวัชร์ ปรีดาพันธุ์ สารวัตรใหญ่ สภ.นางิ้ว กล่าวว่า ชาวบ้านที่ขับเรือสัญจรไปมาในแม่น้ำโขงพบศพหญิงสาวเปลือยลอยอืดอยู่กลางแม่น้ำโขง เมื่อช่วงประมาณเที่ยงของวันพุธ ที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น โดยไม่ทราบว่าจะเป็นศพหญิงสาวชาวไทยหรือชาวลาว แต่เมื่อมีการตามหาของทางญาติซึ่งสงสัยว่าจะใช่ ผอ.อ้อย ที่หายตัวไปหรือไม่ ก็ได้รับการประสานขอตรวจสอบจากทางญาติในครั้งนี้