คืบ คดีลุงถูกวัยรุ่น 30 คนรุมสาหัส พลเมืองดีเจอรถตู้พุ่งชน
จากกรณีที่เฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อดัง แหม่มโพธิ์ดำ เผยแพร่เหตุการณ์ที่ชายวัยกลางคนถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน รุมทำร้ายร่างกายสาหัส นอกจากนี้ พลเมืองดียังถูกรถตู้พุ่งชนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา บริเวณชายหาด จ.ระยอง
ล่าสุด (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นายสมคิด อายุ 41ปีเกิดเหตุได้ไปนั่งกินอาหารกับลูกสาวที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ชายหาดพีเอ็มวายและมีเพื่อนๆมานั่งด้วยขณะนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นมานั่งกินอยู่โต๊ะที่ใกล้กัน กลุ่มวัยรุ่นพูดจาแทะโลมลูกสาวทำให้เพื่อนนายสมคิดไม่พอใจ นำขวดขว้างไปที่ถนนขู่กลุ่มวัยรุ่น ทำให้กลุ่มวัยรุ่นพากันขับรถจักรยานยนต์หนีออกจากร้าน
นายสมคิดได้ลุกจากที่นั่งวิ่งตามกลุ่มวัยรุ่นไปแต่ไม่ทัน จึงได้หยุดพักเหนื่อย ต่อมามีรถกระบะขนกลุ่มวัยรุ่นกว่าสามสิบคนมาจอดและพากันลงจากรถมาทำร้ายนายสมคิด จังหวะนั้น ได้มีนายนรินทร์ อายุ24ปี ขับรถจยย.พาเพื่อนซ้อนท้ายผ่านมา เห็นมีคนเจ็บนอนอยู่บนถนนจึงจอดรถและโทรศัพท์แจ้งกู้ภัย
ขณะนั้นมีรถตู้หนึ่งคันขับตรงเข้ามาพุ่งชนทันทีทำให้นายนรินทร์คนขับได้รับบาดเจ็บกระดูกขาขวาแตกใบหูฉีก ส่วนหญิงสาววัย 17 ปี ที่นั่งซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลระยอง
ล่าสุด นายสมคิดและนายนรินทร์ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนสาววัย 17 ปี ที่นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ยังคงรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลระยอง โดยเมื่อเช้าของวันนี้ (22 ก.ย.) พ่อแม่ของนายนรินทร์และพ่อแม่ของสาววัย 17 ปีที่บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามรถตู้ที่ขับชนมาดำเนินคดี
นางกรรณิกา อายุ 42 ปี แม่ของสาววัย 17 ปี กล่าวว่า ยังไม่มีใครมาติดต่อ แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่รถตู้ก็มาคุยนอกรอบเขาก็รู้ว่าน้องนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่เคยได้มาดูหรือว่ามาเยี่ยมเลยยังไม่เคยเห็นหน้าคนที่ชนเลย
เราก็กลัวว่าเรื่องจะเงียบ กลัวว่าคดีจะไม่เดิน เพิ่งจะไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อต้องการให้ตำรวจออกใบขอแจ้งความ ว่าโดนรถชนแล้วหนี ทางโรงพยาบาลให้ไปคุยกับพรบ.รถ เพื่อนำมาเป็น ค่าใช้จ่ายตอนนี้ ยังไม่ได้จ่ายค่าหมอค่าพยาบาล ค่าผ่าตัด ทุกอย่าง 3 หมื่นกว่าบาทแล้ว และเราต้องใช้เงินในการมา นั่งเฝ้าลูกเดินทางไปกลับระหว่างระยองและอำเภอบ้านค่าย
ตอนนี้แม่ก็ป่วยพ่อก็ทำงานคนเดียว ยิ่งลูกมาเจ็บก็ ไม่ได้ทำงาน พ่อต้องออกจากบ้านตอนเช้า ก็ไปอาบน้ำกลับไปอาบน้ำที่บ้าน มาเยี่ยมลูกสาวตอนเที่ยงที่โรงพยาบาลพอตอนเย็นก็ไปส่งแม่อาบน้ำแล้วกลับมานอนเฝ้าลูกที่โรงพยาบาลตอนกลางคืน ก็อยากเป็นคนที่ชนน้องมารับผิดชอบ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบ้าง เพราะยังไงน้องต้องพักฟื้นอีกหลายเดือน
ทางด้าน นางกรรณิการ์ อายุ 42 ปี แม่ของนายนรินทร์ บอกว่า ได้ไปแจ้งเรื่องรถชนแล้วหนี และเป็นการลงบันทึกประจำวันไว้ไปลงรายละเอียดเกี่ยวกับ เรื่องคดีชนแล้วหนีก็มีต้องสอบปากคำเพิ่มระหว่างคนเจ็บ และเติมเอารถมาให้ตำรวจดู ตามหาคนที่เห็นเหตุการณ์ และตอนนี้ที่แม่ต้องการก็คือลูกชายเจ็บไม่เยอะแต่ว่าน้องผู้หญิงเจ็บเยอะ ซึ่งทุกคนก็มีภาระ อยากให้คนที่ชนมาเยียวยาช่วยเหลือ เราก็กลัวว่าเรื่องจะเงียบและเจ็บตัวฟรี