ฟลุค เกริกพล มีเหตุผลชัดเจน ให้เงินค่าขนมลูกเดือนละ 2 หมื่น

อัพเดทข่าวดีที่รอมานานเหลือเกิน "ฟลุค เกริกพล" ยอมรับอยากแต่งงานแฟนสาว "นาตาลี เจียรวนนท์" เต็มที แต่ติดภารกิจตลอดทั้งปี ทำให้อะไรก็ยังไม่เป็นใจ วาดฝันอยากวิวาห์อีก 1-2 ปี พร้อมอยากมีลูกอีก ส่วน น้องอชิ ตอนนี้เริ่มโตเป็นหนุ่มเต็มตัว ไม่กังวลไม่มีวีแววจีบสาว ส่วนหนึ่งเพราะติดเพื่อนติดเกม ย้ำให้เงินใช้เดือนละ 20,000 บาท ไม่เยอะไป มีเหตุผลให้ลูกได้รู้จักบริหารเงิน ไม่ได้ให้เงินใช้ตามใจ รวมทั้งเล่าถึงอาการป่วยของลูกชายล่าสุดด้วย

"น้องอชิป่วยเป็นไวรัสลงกระเพาะครับ เข้าโรงพยาบาลไปวันนึงเต็มๆ แต่ก่อนหน้านั้นผมดูแลอยู่ คือลูกตัวร้อนมาก ต้องคอยเช็คตัวให้ตลอด เดาว่าอาจจะเป็นอาหารหรือมือสกปรกจับอาหารกินเข้าไป แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าไวรัสเกิดจากอะไร หมอก็ให้น้ำเกลือแล้ววันรุ่งขึ้นก็ดีขึ้นครับ"

"ไข้ขึ้นสูงพอสมควร 39 องศาฯ ได้ครับ แต่ไม่กลัวว่าเขาจะชักเกร็งอะไร เพราะคิดว่าไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพียงแต่ลูกอ่อนเพลียจริงๆ แต่ก็เหมือนจะเอาอยู่ พอเราเห็นอาการแบบพอไหวอยู่ ก็ยังไม่พาไปโรงพยาบาล แต่พอสัก 2 วันเริ่มเพลีย เลยต้องพาไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล"

"ปกติอชิก็ไม่ค่อยป่วยเท่าไหร่ แต่อาจจะเป็นหวัดสัก 3-4 เดือนครั้ง คือค่อนข้างได้ใช้ประกัน ผมยังไม่เคยได้ใช้เลย น้องน่าจะแอดมิทเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก เพียงแต่ทำหน้าที่พ่อดูแลลูกตามปกติ คือลูกก็เป็นคนขี้อ้อนมาก ก็ดูแลอย่างเต็มที่ครับ"

"เรื่องเรียนต่อต่างประเทศ จริงๆ ผมมีลูกอยู่คนเดียว มันคิดถึงเลยไม่อยากให้ไป แต่ไปก็ดี เพราะเขาจะได้เรียนรู้ มีประสบการณ์ คือถ้าไปเรียนเมืองนอกผมว่าราคาถูกกว่าเรียนที่นี่นะ แต่เรายอมจ่ายแพงดีกว่า เพื่อจะได้อยู่กับลูก คือลูกผมคงจะไม่ใช่นักวิชาการ ไม่ใช่นักเรียนเกียรตินิยมอะไร ดังนั้นจะเรียนที่ไหนก็ไม่ต่างอะไรกันมากครับ"

"แต่ถ้าจะส่งไปเรียนก็จะมีโอกาสไปอเมริกาค่อนข้างสูงครับ แต่ผมส่งลูกเรียนอินเตอร์แล้ว เรื่องภาษาตอนนี้ได้แล้ว แต่อยากให้เรียนรู้เรื่องการดูแลตัว เดี๋ยวค่อยส่งไปช่วงซัมเมอร์ก็ได้มั้ง ในมุมของผมก็มองว่าอยู่สักเดือนก็ต้องดูแลตัวเองได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องส่งไปไกล ไปนานเลย"

"ตอนนี้อชิเริ่มจะติดเพื่อนแล้วนะครับ มีเวลาไปอยู่กับเพื่อนบ่อยขึ้น แต่เราก็ยังกอดกันอยู่ทุกวัน เพียงแต่ตอนนี้เริ่มตลกแล้ว เพราะลูกเริ่มตัวสูงยาวขึ้นทุกวัน เวลาผมกอดเริ่มจะเหมือนกอดผู้ชายกันเอง แต่เราก็ยังนึกภาพลูกตอนเด็กๆ อยู่ไง แต่ก็ยังกอดอยู่ครับ"

"เรื่องแฟน..คือเป็นห่วงว่าเขาจะไม่มีมากกว่าครับ ตอนนี้ลูกผมติดเกม แล้วอยู่กับเพื่อนๆ ผู้ชาย ไม่เห็นมีแววว่าจะชอบผู้หญิงเลย ผมเครียดมากกว่าอีก ไม่ห่วงเรื่องสาวๆ เลยครับ ผมอยากให้มีมากเลย (หัวเราะ) ผมเคยถามแล้ว เขาชอบผู้หญิง แต่ยังไม่เจอใคร มีแต่เพื่อนๆ คงต้องไปเจอสังคมใหม่ คือก็ไม่ได้อยากให้ลูกมีแฟน แต่สักวันคงต้องมีครับ (ยิ้ม)"

"คืออชิเป็นคนน่ารัก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทุกคน คือเวลาไปกินข้าวกันเพื่อน มันเลี้ยงเขาตลอดเลย เล็กๆ น้อยๆ เขาก็จะจ่ายให้เพื่อน กระทั่งบางครั้งเขาลืมเอากระเป๋าตังค์ไปโรงเรียน เราก็เป็นห่วงว่าเขาจะกินข้าวยังไง เขาก็บอกว่าเพื่อนๆ เลี้ยงข้าว เพราะเพื่อนรักเขาเยอะครับ

"เรื่องการให้เงินลูกใช้คือผมจะให้เผื่อ อย่างตอนสมัยผม คุณย่าจะให้พอดีแล้วจะเหลือเก็บน้อยมาก แต่ผมจะให้เผื่อไป ถ้าอยากจะเลี้ยงเพื่อนหรือซื้อของ ให้เขาไปคิดใช้เองว่าจะเก็บหรือทำอะไร ผมเพิ่งเริ่มให้เงินรายเดือน คือให้เกินกว่าที่เขาใช้ 2-3 เท่าครับ"

"ให้เงินลูกเดือนละ 20,000 บาทครับ คือแค่ค่าอาหารที่โรงเรียนเขาก็เดือนละ 8,000 บาทแล้ว เหลืออีก 12,000 บาทก็คือให้เผื่อ เพื่อที่จะให้ไปคิดและบริหารการใช้เงินตั้งแต่เนิ่นๆ รู้จักเก็บเงินไว้ลงทุน ถ้าจะซื้อหรืออยากได้อะไรมาถามและไตร่ตรองดู ถ้าผมไม่เห็นด้วยก็จะไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกซื้อของนั้นๆ คือผมก็มีพอร์ตหุ้นให้เขาด้วย เป็นชื่อผมเอง แต่ลงทุนคนละครึ่ง ทุกครั้งที่ได้แต๊ะเอียมาก็จะแนะนำว่า ลูกต้องเก็บกี่เปอร์เซ็นต์เข้าพอร์ต แล้วพ่อจะช่วยบริหารให้ ก็อธิบายให้เขาฟังครับ"

"บัตรเดรดิตยังให้ไม่ได้ครับ แต่เขาก็มีบัตรเอทีเอ็มเป็นชื่อเรา แต่เขาก็มีเงินในแบงก์เพียงเท่านั้นครับ ถ้าเขาเอาบัตรเครดิตเราไปซื้อของออนไลน์ เราก็จะโอนเงินจากบัญชีเขามาและบอกเขาว่า อชิใช้เงินไปเท่านี้แล้วนะ เงินเริ่มเหลือน้อยแล้วนะ ใช้เงินไปเยอะแล้วนะลูก แต่คือเขาอดออมได้ดีครับ เขาจะเก็บไปเรื่อยๆ เพื่อซื้อของชิ้นใหญ่ไป ผมมองว่าเป็นการให้ค่าเรียนลูกมากกว่า ไม่ได้ตามใจอะไร ถ้าลูกได้เรียนรู้การใช้เงิน ก็จะบริหารเงินได้"

"ส่วนแผนแต่งงานกับนาตาลี ยังเรื่อยๆ ครับ เพราะยังมีโปรแกรมการเดินทางตลอดเลย แต่ในใจผมก็ไม่อยากให้เกิน 1-2 ปีนี้ เพราะจะแก่ไป ผมไม่อยากมีลูกหลังเกษียณครับ ผมถึงมีน้องอชิเร็วไง ระดับผมไม่ต้องปรึกษาหมอครับ (หัวเราะ) ฟิตอยู่แล้ว ถ้าเปิดปุ๊บต้องติดปั๊บ ผมอายุแค่นี้เอง ขอโม้ไปก่อน"