แฉรถยนต์ 3 คัน พา “ยิ่งลักษณ์” เผ่นหนีชายแดนสระแก้ว

การพาตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีออกนอกประเทศ จนถึงขณะนี้ค่อนข้างมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจหลบหนีทางชายแดนจังหวัดสระแก้ว ซึ่งจากคำให้การของ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พบว่าปฎิบัติการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีในครั้งนี้ ใช้รถยนต์อย่างน้อยถึง 3 คัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าบ้านของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จับภาพรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำ คันนี้ไว้ได้ ระหว่างกำลังขับเข้าไปและออกจากบ้านพัก ในช่วงเย็นวันที่ 23 สิงหาคม  ซึ่งข้อมูลนี้ตรงกับที่ พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ให้ปากคำไว้กับตำรวจ

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่ารถเบนซ์ สีดำ คันดังกล่าว ได้ขับพานางสาวยิ่งลักษณ์ ออกจากบ้านย่านโยธินพัฒนา 3 เพื่อไปนัดพบกับรถของพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส ย่านวัชรพล ก่อนที่รถทั้ง 2 คัน จะขับตามกันไปที่หมู่บ้านชัยพฤกษ์ วัชรพล จากนั้นรถเบนซ์สีดำ คันที่นางสาวยิ่งลักษณ์และเลขานุการส่วนตัวนั่งมาด้วย ได้ถูกขับเข้าไปในบ้านพักหลังหนึ่ง เพื่อสลับเปลี่ยนเป็นรถยนต์ โตโยต้า คัมรี สีบรอน-เทา และมีซันรูฟด้านบนหลังคา โดยขับนำหน้ารถของพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ไปที่บ้านพักของนายตำรวจคนดังกล่าวซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

จากนั้น พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์  ได้สลับเปลี่ยนไปขับรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ซึ่งมีนางสาวยิ่งลักษณ์ นั่งอยู่ภายในรถด้วย  ก่อนที่จะขับมุ่งหน้าไปที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยใช้เส้นทางถนนรามอินทรา มุ่งหน้ามีนบุรี และขับไปตามถนนสุวินทวงศ์ ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนจะเลี้ยวซ้ายที่อำเภอพนมสารคาม ผ่านทางตำบลเขาหินซ้อน มุ่งหน้าไปที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ต่อมาได้เปลี่ยนรถยนต์เป็นคันที่ 3 ที่บริเวณถนนสุวรรณศร ห่างจากสถานีรถไฟอรัญประเทศประมาณ 1 กิโลเมตร โดยรถที่มารับนางสาวยิ่งลักษณ์ไป คือ รถกระบะ 4ประตู สีทึบ ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน

สำหรับข้อมูลทำให้ทราบว่าขณะนี้มีรถยนต์ 3 คัน ที่ใช้พานางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนี คือ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน  รถยนต์โตโยต้า  คัมรี สีบรอน-เทา มีซันรูฟ ซึ่งขณะนี้ถูกยึดไว้แล้ว และรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีทึบ ไม่ทราบยี่ห้อและเลขทะเบียน โดยในวันพรุ่งนี้ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 จะมีประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่ พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์  เกี่ยวข้องกับการพานางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบหนีออกนอกประเทศพร้อมกำหนดแนวทางการสืบสวน  แต่จะยังไม่เรียกนายตำรวจคนดังกล่าวชัยฤทธิ์มาสอบสวน เพราะต้องรอตรวจสอบข้อมูลของทีมงานพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อน  โดยเบื้องต้นมีระยะเวลาการสอบสวน 60 วัน 

ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จากการสอบถามสมาชิกพรรคหลายคนพบว่า วันที่ 27 กันยายนนี้ แกนนำพรรคและสมาชิกต่างติดภารกิจส่วนตัว จึงคาดว่าไม่มีใครเดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนนายนรวิชญ์ ล่าแหล่ง ทนายความระบุว่า  ในฐานะทนายความจะต้องเดินทางไปฟังคำพิพากษาตามปกติ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงไม่ได้มีการเตรียมการใด ๆ เป็นพิเศษ