รปภ.ปรี่ต่อยพระสงฆ์หน้าโรงพยาบาล แค้นที่เป็นอริหลวงพ่อ

รปภ.ปรี่ต่อยพระสงฆ์หน้าโรงพยาบาล แค้นที่เป็นอริหลวงพ่อ

รปภ.ปรี่ต่อยพระสงฆ์หน้าโรงพยาบาล แค้นที่เป็นอริหลวงพ่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รปภ.โดดชกหน้าพระสงฆ์คาโรงพยาบาล เชื่อแค้นแทนหลวงพ่อ หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทพระกับพระที่วัดแห่งหนึ่ง ตำรวจวิ่งห้ามวุ่นแต่หลบหนีไปได้

เมื่อคืนวานนี้ (24 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง เข้าตรวจสอบบริเวณห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอ่างทอง หลังได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ ขณะเข้ามาตรวจร่างกาย ซึ่งมีชายฉกรรจ์ชกเข้าที่ศีรษะต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามพยานผู้พบเห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป คือ พระประจักษ์ อายุ 65 ปี และ พระธีรพัฒน์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดวัดรุ้ง ซึ่งได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทมาจากที่วัด และได้รับบาดเจ็บ โดยทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล พระประจักษ์ ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เนื่องจากมีบาดแผลลฉีกขาดที่ข้อศอกซ้ายและกกหูซ้าย

แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินนำหน้า พระธีรพัฒน์ เพื่อเข้าไปตรวจร่างกาย ปรากฏว่ามีชายอายุประมาณ 30 ปี แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ปรี่เข้ามาชก พระธีรพัฒน์ อย่างแรง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าห้ามปรามอย่างชุลมุน ซึ่งหลังก่อเหตุชายคนดังกล่าวได้เดินหลบหนีออกไปทางหน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่าผู้ที่เกิดเหตุคือ นายวิชิต เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลอ่างทอง และยังเป็นลูกชายของพระประจักษ์ ซึ่งถูก พระธีรพัฒน์ ทำร้ายร่างกายมาจากที่วัด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

พระประจักษ์เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นระหว่างทำความสะอาดลานวัด กวาดใบสาระที่ตกอยู่ ก่อนนำมาจุดไฟเผา จู่ๆพระธีรพัฒน์ ก็ตะโกนออกมาด่าว่า ควันลอนเข้าไปในกุฏิ รบกวนเป็นอย่างมาก ก่อนจะเกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ลงท้ายด้วย พระธีรพัฒน์ ใช้ไม้ตีใส่ 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปที่ สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อสอบสวน และนำตัวมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอ่างทอง

ขณะที่ พระธีรพัฒน์ ซึ่งถูกนายวิชิตต่อยที่กกหูด้านซ้าย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นลูกชายของพระประจักษ์ ซึ่งคิดว่าคงทราบช่าวแล้วเกี่ยวกับประเด็นที่อาตมาทะเลาะกับหลวงพ่อของโยมวิชิต จึงได้ตามมาดักรอที่โรงพยาบาลและทำร้ายดังกล่าว

พระธีรพัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้เป็นเหตุวิวาทระหว่างพระสงฆ์กันเอง ก็น่าจะปล่อยให้เป็นเรื่องของพระสงฆ์ ไม่น่ามาเข้าเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งกรณีอาตมายืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกตัว นายวิชิต มาสอบสวนดำเนินคดี เบื้องต้นจะรอผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนก่อน และการกระทำครั้งนี้เป็นการกระทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่ยำเกรงในสถานที่ราชการ ซึ่งหากไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะเตรียมขออนุมัติหมายจับต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook